https://www.analyticsinsight.net/wp-content/uploads/2020/07/Data-Science-in-Stock-Trading.jpeg
ความเสียหายจากโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทย ในปี 2563 เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ที่รัฐบาลมีการประกาศล็อกดาวน์ ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงนี้ตกต่ำ และเลวร้ายกว่าช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2540 ทำให้คนไทยต้องกลับมา
“ตั้งการ์ด” กันอีกครั้งเพื่อช่วยกันควบคุมการแพร่กระจายของโรคอย่างเคร่งครัด ซึ่งก็สร้างความกังวลว่าสถานการณ์ครั้งนี้จะเกิดการจับจ่ายที่น้อยลง และอัตราการว่าง
งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่ไทยเราก็เริ่มมีข่าวดีขึ้นมาบ้าง จากตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3 ปี 2563 ที่ติดลบ 6% ดีขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ติดลบ 12% รวมถึงมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐไม่ว่าจะเป็น โครงการคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน หรือ เราเที่ยวด้วยกัน ก็ทำให้ยอดการจับจ่ายกระเตื้องขึ้นมาบ้าง ยิ่งมีข่าวดีเรื่องการนำเข้า
“วัคซีน” เลยทำให้เริ่มมีความหวังว่าจะมาช่วยชุบชีวิตเศรษฐกิจไทยได้
ล่าสุดบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DBSV เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมเปิดประเทศโดยพิจารณาผ่อนคลายมาตรการให้ต่างชาติเข้าไทยได้ รวมถึงจะพิจารณายกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสิ้นเดือน พ.ค.64 พร้อมทั้งเดินหน้าโครงการกระตุ้นท่องเที่ยว อย่างโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทาง ครม.อาจจะมีการขยายระยะเวลาโครงการออกไปอีกถึงสิ้นก.ค.64 และดึงกลุ่มวัยรุ่นเปิดจองสิทธิห้องพักอีก 2 ล้านห้อง รวมถึงเปิดโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” (มาแทน “เที่ยวไทยวัยเก๋า”) โดยรัฐช่วยสมทบออกให้ 40% จ่ายผ่านบริษัททัวร์ในประเทศ แพกเกจขั้นต่ำ 12,500 บาท ให้สิทธิ 1 ล้านคน
ทั้งนี้ ประเมินว่า 2 นโยบายดังกล่าวเป็นบวกกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับท่องเที่ยว Medical tourism และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยคาดว่าท่องเที่ยวในประเทศจะฟื้นตัวก่อน Medical Tousirm & การลงทุนจากต่างประเทศทยอยเข้ามา ส่วนท่องเที่ยวต่างชาติจะมั่นใจเข้ามาก็ต่อเมื่อมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครอบคลุมอย่างน้อย 60-70% ของประชากร ดังนั้น คงต้องใช้เวลาประมาณ 10-12 เดือนนับจากนี้จึงจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจน
สำหรับกลุ่มหลักทรัพย์/
หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ ดีบีเอสฯ ประเมินดังนี้
https://pbs.twimg.com/media/EwK7oABUUAU9OXU?format=jpg&name=medium
พร้อมชู 9 หุ้นเด่นได้ประโยชน์จากวัคซีน-คลายมาตรการ ทั้งนี้ จากจำนวนหุ้นดังกล่าว แนะนำเลือกซื้อลงทุน สำหรับ 9 หุ้นเด่นในธีมผู้ได้ประโยชน์จากวัคซีนโควิด-19 และผ่อนคลายมาตรการ ประกอบด้วย AOT (เป้าหมาย 63 บาท อัปไซด์ -5% ) AAV (เป้าหมาย 2.5 บาท อัปไซด์ -9% )
โดยมีอีก 7 หุ้น ที่ยังมีอัปไซด์ ได้แก่ ERW (เป้าหมาย 4.60 บาท อัปไซด์ +7%) CPN (เป้าหมาย 58 บาท อัปไซด์ +4%) CPALL (เป้าหมาย 78.50 บาท อัปไซด์ +21%) ADVANC (เป้าหมาย 222 บาท อัปไซด์ +34%) AMATA (เป้าหมาย 20 บาท อัปไซด์ +8%) BDMS (เป้าหมาย 25 บาท อัปไซด์ 16%) และ BEM (เป้าหมาย 9.90 บาท อัปไซด์ 16%)