หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: โบรกเก็ง 10 กลุ่มหุ้นเด่น รับอานิสงส์เปิดประเทศ  (อ่าน 21 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 11 มี.ค. 21, 11:04 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
https://www.analyticsinsight.net/wp-content/uploads/2020/07/Data-Science-in-Stock-Trading.jpeg

ความเสียหายจากโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทย ในปี 2563 เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ที่รัฐบาลมีการประกาศล็อกดาวน์ ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงนี้ตกต่ำ และเลวร้ายกว่าช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2540 ทำให้คนไทยต้องกลับมา “ตั้งการ์ด” กันอีกครั้งเพื่อช่วยกันควบคุมการแพร่กระจายของโรคอย่างเคร่งครัด ซึ่งก็สร้างความกังวลว่าสถานการณ์ครั้งนี้จะเกิดการจับจ่ายที่น้อยลง และอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แต่ไทยเราก็เริ่มมีข่าวดีขึ้นมาบ้าง จากตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3 ปี 2563 ที่ติดลบ 6% ดีขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ติดลบ 12% รวมถึงมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐไม่ว่าจะเป็น โครงการคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน หรือ เราเที่ยวด้วยกัน ก็ทำให้ยอดการจับจ่ายกระเตื้องขึ้นมาบ้าง ยิ่งมีข่าวดีเรื่องการนำเข้า “วัคซีน” เลยทำให้เริ่มมีความหวังว่าจะมาช่วยชุบชีวิตเศรษฐกิจไทยได้

ล่าสุดบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DBSV เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมเปิดประเทศโดยพิจารณาผ่อนคลายมาตรการให้ต่างชาติเข้าไทยได้ รวมถึงจะพิจารณายกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสิ้นเดือน พ.ค.64 พร้อมทั้งเดินหน้าโครงการกระตุ้นท่องเที่ยว อย่างโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทาง ครม.อาจจะมีการขยายระยะเวลาโครงการออกไปอีกถึงสิ้นก.ค.64 และดึงกลุ่มวัยรุ่นเปิดจองสิทธิห้องพักอีก 2 ล้านห้อง รวมถึงเปิดโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” (มาแทน “เที่ยวไทยวัยเก๋า”) โดยรัฐช่วยสมทบออกให้ 40% จ่ายผ่านบริษัททัวร์ในประเทศ แพกเกจขั้นต่ำ 12,500 บาท ให้สิทธิ 1 ล้านคน

ทั้งนี้ ประเมินว่า 2 นโยบายดังกล่าวเป็นบวกกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับท่องเที่ยว Medical tourism และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยคาดว่าท่องเที่ยวในประเทศจะฟื้นตัวก่อน Medical Tousirm & การลงทุนจากต่างประเทศทยอยเข้ามา ส่วนท่องเที่ยวต่างชาติจะมั่นใจเข้ามาก็ต่อเมื่อมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครอบคลุมอย่างน้อย 60-70% ของประชากร ดังนั้น คงต้องใช้เวลาประมาณ 10-12 เดือนนับจากนี้จึงจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจน

สำหรับกลุ่มหลักทรัพย์/หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ ดีบีเอสฯ ประเมินดังนี้

https://pbs.twimg.com/media/EwK7oABUUAU9OXU?format=jpg&name=medium

พร้อมชู 9 หุ้นเด่นได้ประโยชน์จากวัคซีน-คลายมาตรการ

ทั้งนี้ จากจำนวนหุ้นดังกล่าว แนะนำเลือกซื้อลงทุน สำหรับ 9 หุ้นเด่นในธีมผู้ได้ประโยชน์จากวัคซีนโควิด-19 และผ่อนคลายมาตรการ ประกอบด้วย AOT (เป้าหมาย 63 บาท อัปไซด์ -5% ) AAV (เป้าหมาย 2.5 บาท อัปไซด์ -9% )

โดยมีอีก 7 หุ้น ที่ยังมีอัปไซด์ ได้แก่ ERW (เป้าหมาย 4.60 บาท อัปไซด์ +7%) CPN (เป้าหมาย 58 บาท อัปไซด์ +4%) CPALL (เป้าหมาย 78.50 บาท อัปไซด์ +21%) ADVANC (เป้าหมาย 222 บาท อัปไซด์ +34%) AMATA (เป้าหมาย 20 บาท อัปไซด์ +8%) BDMS (เป้าหมาย 25 บาท อัปไซด์ 16%) และ BEM (เป้าหมาย 9.90 บาท อัปไซด์ 16%)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 มี.ค. 21, 11:13 น โดย sodaza8593 » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:  หุ้น  โบรกเกอร์  ทรู  CPALL  โควิด 

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม