เมืองอัลอูลาเปิดเผยรายละเอียดของ The Kingdoms Institute ศูนย์กลางทางโบราณคดีแห่งใหม่ของโลก พร้อมเผยข้อมูลการค้นพบใหม่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย
The Kingdoms Institute ศูนย์กลางการวิจัยทางโบราณคดีและการอนุรักษ์ระดับโลกในเมืองอัลอูลา ได้รับการเปิดตัวเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ โดยจะเป็นแหล่งบุกเบิกการวิจัยและการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ในพิพิธภัณฑ์มีชีวิตขนาด 22,000 ตารางกิโลเมตรของซาอุดีอาระเบีย
การศึกษาอย่างละเอียดในเมืองอัลอูลาและสถานที่อื่น ๆ ทำให้ค้นพบประเพณีการสร้างอนุสรณ์สถานเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบ ซึ่งจะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อสังคมยุคหินใหม่ (Neolithic)
คณะนักวิจัยได้ทำการสำรวจทางอากาศในเมืองอัลอูลาและพื้นที่โดยรอบ ตามด้วยการสำรวจภาคพื้นดินอย่างครอบคลุมและการขุดค้นในพื้นที่เป้าหมาย
ทีมงานจาก University of Western Australia ได้ทำการสำรวจทางอากาศและภาคพื้นดินอย่างครอบคลุมด้วยการสำรวจระยะไกล (remote sensing) และเฮลิคอปเตอร์ หลังจากบันทึกภาพทางอากาศเรียบร้อยแล้ว ทีมงานได้สำรวจภาคพื้นดินราว 40 จุด และทำการขุดค้นพื้นที่เป้าหมาย 1 จุด นับเป็นการศึกษา mustatil ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยโครงสร้างโบราณเหล่านี้ที่ตั้งอยู่ในทะเลทรายของซาอุดีอาระเบียคือหลักฐานของการทำพิธีกรรมของมนุษย์โบราณ
การหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี เพื่อระบุอายุของฟันและเขาควายที่ค้นพบในโพรงของ mustatil แห่งหนึ่งในเมืองอัลอูลา ซึ่งอยู่ปะปนกับวัตถุอื่น ๆ ที่ดูเหมือนว่าจะใช้ในพิธีกรรม เผยให้เห็นว่ามาจากยุคหินใหม่ตอนปลาย (Late Neolithic) หรือราว 6,000 ปีก่อนคริสตกาล
การวิจัย mustatil คือเป้าหมายหลักของ RCU โดยโครงการวิจัยทางโบราณคดีทั่วเมืองอัลอูลา ซึ่งรวมถึงการค้นพบ mustatil ได้รับการถ่ายทอดผ่านสารคดีชุด Architects of Ancient Arabia ทางช่อง Discovery Channel
ศูนย์กลางการค้นพบ
The Kingdoms Institute ได้รับการจัดตั้งขึ้นให้เป็นศูนย์กลางทางวิทยาศาสตร์ระดับโลกสำหรับการวิจัยทางโบราณคดีและการอนุรักษ์ โดยมุ่งศึกษายุคประวัติศาสตร์และยุคก่อนประวัติศาสตร์ของคาบสมุทรอาหรับ รวมทั้งอนุรักษ์มรดกตกทอดในฐานะจุดเชื่อมสามทวีป โดยการปฏิบัติงานภาคสนามทั่วอัลอูลาได้ช่วยเติมเต็มช่องว่างทางประวัติศาสตร์ของมนุษย์และธรรมชาติในพื้นที่นี้
The Kingdoms Institute ได้รับแรงบันดาลใจจากบทบาทของเมืองอัลอูลาในฐานะจุดตัดทางวัฒนธรรม รวมถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการค้าโลก โดยจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางวิชาการและแหล่งรวมวัฒนธรรมทั้งองค์ความรู้ การสำรวจ และแรงบันดาลใจ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเสาหลักของโครงสร้างพื้นฐานทางวัฒนธรรมในเมืองอัลอูลาภายใต้แผนแม่บท The Journey Through Time Masterplan ที่เพิ่งเปิดตัวไปในเดือนนี้
The Kingdoms Institute จะทำภารกิจการวิจัยทางโบราณคดีและการอนุรักษ์หลายสิบโครงการทั่วเมืองอัลอูลา ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาวิชา ขณะที่ทีมงานจากสถาบันต่าง ๆ ทั้งในซาอุดีอาระเบียและต่างประเทศได้เริ่มทำงานไปแล้ว เช่น King Saud University ได้วางรากฐานการทำงานอันมีค่ามาตลอด 15 ปี รวมถึงองค์กรอีกหลายแห่ง อาทิ UNESCO, ICOMOS, Centre national de la recherche scientifique จากฝรั่งเศส, Deutsches Archaologisches Institut จากเยอรมนี และ University of Western Australia เป็นต้น
"เราเพิ่งเริ่มบอกเล่าเรื่องราวของราชอาณาจักรโบราณแห่งอาระเบียเหนือที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน" Jose Ignacio Gallego Revilla กรรมการบริหารฝ่ายโบราณคดี การวิจัย และการอนุรักษ์มรดกของ RCU กล่าว "เราค้นพบมรดกทางโบราณคดีในพื้นที่มากขึ้นเรื่อย ๆ และสิ่งที่ไม่เคยได้รับการจัดแสดงมาก่อนตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาก็จะได้รับการนำเสนออย่างที่ควรจะเป็นใน The Kingdoms Institute"
The Kingdoms Institute ไม่เพียงลอกคราบประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองอัลอูลาและอิทธิพลระหว่างวัฒนธรรมผ่านการค้นพบทางโบราณคดีเท่านั้น แต่ยังพัฒนาโครงการฝึกอบรมเชิงวิชาการและวิชาชีพทั้งในระดับชาติและนานาชาติด้วยวิธีการและเทคนิคที่ทันสมัย เพื่อบ่มเพาะผู้เชี่ยวชาญชาวซาอุดีอาระเบียรุ่นใหม่ให้มาช่วยสานต่อภารกิจของ The Kingdoms Institute จากรุ่นสู่รุ่น
ทั้งนี้ Dr. Abdulrahman Alsuhaibani ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการ ขณะที่ Munirah Almushawh ได้รับตำแหน่งนักโบราณคดีหญิงคนแรกที่เป็นผู้อำนวยการร่วมของโครงการทางโบราณคดีในซาอุดีอาระเบีย
Dr. Rebecca Foote ผู้อำนวยการฝ่ายโบราณคดีและการวิจัยมรดกทางวัฒนธรรมของ RCU กล่าวว่า "เมืองอัลอูลากำลังทำโครงการวิจัยมากมาย และจะก้าวขึ้นเป็นพื้นที่ที่มีการวิจัยทางโบราณคดีคึกคักที่สุดในตะวันออกกลาง เราเพิ่งเสร็จสิ้นการสำรวจพื้นที่ 22,000 ตารางกิโลเมตรทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน และบันทึกจุดที่มีความสำคัญทางโบราณคดีกว่า 30,000 จุด นอกจากนั้นยังทำการขุดค้นพื้นที่เป้าหมายกว่า 50 จุด ทำให้ได้รับข้อมูลมากมายโดยเฉพาะเกี่ยวกับยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย (ราว 6,000-2,000 ปีก่อนคริสตกาล) พร้อมผลการค้นพบอันน่าทึ่ง เช่น ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับ mustatil"
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Kingdoms Institute และแผนแม่บท The Journey Through Time Masterplan ได้ที่ https://ucl.rcu.gov.sa/
เกี่ยวกับอัลอูลา
หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ
The Kingdoms Institute เป็นพหูพจน์และไม่แสดงความเป็นเจ้าของ
ชื่อเมืองอัลอูลาในภาษาอังกฤษสะกดว่า AlUla เสมอ ไม่ใช่ Al-Ula
เกี่ยวกับ Royal Commission for AlUla
Royal Commission for AlUla (RCU) ก่อตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาในเดือนกรกฎาคมปี 2017 เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาเมืองอัลอูลาในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ แผนการระยะยาวของ RCU คือการพัฒนาเศรษฐกิจและเมืองด้วยความระมัดระวัง รับผิดชอบ และยั่งยืน พร้อมกับอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติในพื้นที่ ตลอดจนส่งเสริมให้เมืองอัลอูลาเป็นจุดหมายปลายทางการอยู่อาศัย ทำงาน และท่องเที่ยว เป้าหมายเหล่านี้ก่อให้เกิดโครงการมากมายทั้งในด้านโบราณคดี การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา และศิลปะ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการตอบสนองต่อความหลากหลายทางเศรษฐกิจ การสร้างพลังให้กับชุมชน และการอนุรักษ์มรดกตกทอดตามวิสัยทัศน์ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1499035/Kingdoms_Institute_Conceptual_design.jpg