Watr จะงัดใช้ประโยชน์จากเครือข่าย Algorand ที่สร้างขึ้นมาเอง เพื่อมอบความโปร่งใสอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในการตรวจสอบฟุตพริ้นท์ของสินค้าโภคภัณฑ์
Watr Foundation ด้วยความร่วมมือกับ Algorand ร่วมประกาศเปิดตัว Watr Ecosystem ในวันนี้ โดยเป็นเครือข่ายบล็อกเชนแบบเปิดระดับ Layer 1 ที่มีการคัดกรอง KYC-AML ซึ่งมาพร้อมกับอัตลักษณ์ที่ยืนยันแล้ว เพื่อนำเทคโนโลยีการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) มาใช้กับสินค้าโภคภัณฑ์ อัตลักษณ์ที่ยืนยันแล้วที่ว่านี้จะเปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมทรัพยากรได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชนและ DeFi เพื่อให้อุตสาหกรรมดังกล่าวยกระดับความโปร่งใสในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ไปอีกขั้น สนับสนุนผู้บริโภคในการตัดสินใจเรื่องการจัดซื้อและลงทุน พร้อมทำให้การจัดหาเงินทุนเป็นที่เข้าถึงได้ทั่วทั้งซัพพลายเชนสินค้าโภคภัณฑ์ เครือข่าย Watr นี้ได้รับการออกแบบเพื่อปลดล็อกศักยภาพในการสร้างสัญญาและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อความเป็นหนึ่งในแวดวงสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งจะเข้ามาสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทุกวันนี้เป็นสิ่งที่แลกเปลี่ยนและทดแทนได้ ทั้งนี้ เครือข่ายบล็อกเชน Watr เตรียมเปิดให้บริการในต้นปี 2565
เครือข่าย Watr จะสร้างเครือข่ายสาขาของ Algorand MainNet แบบสาธารณะขึ้นมาเอง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในลักษณะนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อก้าวขึ้นเป็นแหล่งรวมสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน รวมถึงแนวทางการนำไปใช้ในแวดวงซัพพลายเชน ผู้ขนส่ง ผู้ซื้อ ผู้ให้ทุน และผู้ผลิต
เครือข่ายดังกล่าวพัฒนาขึ้นด้วยความร่วมมือทางกลยุทธ์กับ Algorand ซึ่งเป็นโปรโตคอลระดับองค์กรชั้นนำที่พัฒนาขึ้นโดยผู้ก่อตั้งที่เคยคว้ารางวัลทัวริงมาแล้วอย่างคุณ Silvio Micali โดยต่อยอดมาจากเทคโนโลยี Pure-Proof-of-Stake ที่มีความล้ำสมัยและมีผู้พิสูจน์มาแล้ว บล็อกเชนWatr มีอำนาจในตัวเอง แต่ขณะเดียวกันก็ยังเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับเครือข่ายหลักของ Algorand เปิดโอกาสให้แอปพลิเคชันแบบไม่รวมศูนย์ (dapp) สำหรับสภาพคล่องและเครือข่ายของ Watr ทำงานได้อย่างไหลลื่นระหว่างเชนทั้งสอง
"Watr มีวิสัยทัศน์ในการสร้างตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีพื้นฐานอยู่ที่ความโปร่งใส ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการดำเนินการของผู้มีส่วนร่วมทุกคน ซึ่งสอดรับกันเป็นอย่างดีกับความเป็นผู้นำของ Algorand ในฐานะเครือข่ายที่ปล่อยคาร์บอนเป็นลบ" W. Sean Ford ซีโอโอของ Algorand กล่าว "เราขอยกย่องทีมที่มีประสบการณ์ล้ำลึกเช่นนี้ ในขณะที่พวกเขาบรรลุหมุดหมายใหม่ในการทำให้องค์ประกอบหลักของสินค้าโภคภัณฑ์มีความเป็นดิจิทัลบน Algorand และสร้างความโปร่งใสในแง่ของฟุตพริ้นท์ประจำสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละชิ้นในเครือข่าย"
Watr จะเป็นบล็อกเชนสาธารณะตัวแรกที่มีหลายสถาบันควบคุมดูแล โดยออกแบบขึ้นเพื่อรองรับความเป็นส่วนตัว ความพร้อมที่จะให้ตรวจสอบ การปฏิบัติตามข้อกำหนด และข้อกำหนดขั้นสุดท้ายของสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งจะมีขึ้นเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเครือข่ายแอปพลิเคชันแบบไม่รวมศูนย์ (dapp) ให้เติบโต ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการเทรด แลกเปลี่ยน สินทรัพย์ที่เป็นโทเคน กลุ่มสินค้าและสัญญารูปแบบใหม่ ๆ การออก Stablecoin ไปจนถึงความสามารถในการให้สินเชื่อแบบกระจายศูนย์ (DeFi)
"นี่คือจุดเปลี่ยนสู่ความเป็นดิจิทัลและความโปร่งใสสำหรับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ Watr มีกรอบการปฏิบัติตามข้อกำหนดชัดเจน และมีการดำเนินงานบุกเบิกข้ามอุตสาหกรรม โดยมีพันธกิจเพื่อขับเคลื่อนความครอบคลุมทางการเงิน ความโปร่งใส และตัวเลือกของลูกค้า" Maryam Ayati ประธานของ Watr Foundation Council กล่าว "เราเชื่อว่า การนำโมเดลทรัพยากรเหล่านี้มาทำซ้ำควรเป็นสิ่งที่ร่วมสร้างในโมเดลสร้างกำไรที่เป็นเจ้าของร่วมกัน การได้ทำงานร่วมกับผู้บุกเบิกเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์ บล็อกเชน อุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์ทางสิ่งแวดล้อมนับเป็นเรื่องที่พิเศษและอบอุ่นใจอย่างยิ่ง เพื่อทำให้เครือข่ายบล็อกเชนนี้กลายเป็นความจริงขึ้นมา"
บนบล็อกเชน Watr นั้น สัญญาดิจิทัลอัจฉริยะส่วนต่าง ๆ จะเป็นตัวควบคุมการกำหนดราคา การเทรด และการจัดหาเงินของทรัพยากรกายภาพที่สังคมบริโภค ไม่ว่าจะเป็นโลหะ พลังงาน และการเกษตร ไปจนถึงการขนส่งและการจัดหาเงินทุนเบื้องหลังอุตสาหกรรมเหล่านี้ โดยโมดูลอัตลักษณ์ที่สร้างขึ้นบน Watr นั้นเปิดโอกาสให้ผู้บริโภค (และผู้ให้ทุน) กำหนดฟุตพริ้นท์เจาะจงได้ตามที่อยากให้การบริโภคของตนมีส่วนจัดหาเงิน ในขณะเดียวกัน ฝั่งซัพพลายเออร์ก็จะสร้างทรัพยากรกลุ่มใหม่ ๆ ได้ตามฟุตพริ้นท์ทางสิ่งแวดล้อมที่สินค้าโภคภัณฑ์ของตนทิ้งไว้เบื้องหลัง ทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างแหล่งซื้อขายที่โปร่งใสโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ภายในกรอบการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่มีอยู่ ซึ่งคุณลักษณะแต่ละอย่างใน ESG ได้เปลี่ยนเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในราคาที่อิงกับตลาด โดยเริ่มต้นด้วยตลาดคาร์บอนแบบกระจายศูนย์
Watr จะเปิดตัวด้วยสกุลเงินทั่วไป (Fiat currency) รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลมากมายที่เป็นไปตามข้อกำหนดและสืบแหล่งที่มาได้ ซึ่งรวมถึง Stablecoin เพื่อใช้เป็นวิธีชำระเงินและทำธุรกรรม
TrustToken ผู้คิดค้น TUSD stablecoin มูลค่าหลักพันล้านดอลลาร์ ได้ลงทุนใน Watr โดยการสร้าง TUSD ขึ้นนั้นทำให้ TrustToken มีความเชี่ยวชาญอย่างแข็งแกร่งในด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนดและสินทรัพย์ดิจิทัล และจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วย Watr Foundation ในการพัฒนากลยุทธ์การปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ทรงพลัง รวมถึงกลยุทธ์ด้าน Stablecoin เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมสินค้าโภคภัณฑ์อยู่บนเชน
Rafael Cosman ซีอีโอของ TrustToken กล่าวว่า "สิ่งที่ Watr กำลังทำอยู่นั้นน่าตื่นเต้นเอามาก ๆ ในการนำประสิทธิภาพและความโปร่งใสของบล็อกเชนมาใช้กับอุตสาหกรรมสินค้าโภคภัณฑ์มูลค่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ เราเชื่อว่า นี่เป็นวิธีที่ดีกว่าในการทำธุรกรรมกับสินทรัพย์เหล่านี้ ด้วยเหตุนี้ การเปลี่ยนแปลงทั่วทั้งอุตสาหกรรมก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้"
ส่วน Neo ในนามของ Watr Foundation ก็ได้หลอมรวมกลุ่มพันธมิตรข้ามอุตสาหกรรมเป็นปึกแผ่น ครอบคลุมทั้งภาคสินค้าอุปโภคบริโภค เหมืองแร่ พลังงาน การเกษตร ชิปปิง เทรดดิง ยักษ์ใหญ่วงการบล็อกเชน และตลาดทุน
กลุ่มพันธมิตรที่ว่านี้หลอมรวมผู้นำภาคสินค้าโภคภัณฑ์และบล็อกเชนมาอยู่ด้วยกันผ่านความร่วมมือกับ HC Group เพื่อร่วมคิดค้น สร้าง และลงทุนในโมเดลธุรกิจบล็อกเชนใหม่ ๆ สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน พร้อมกับเทรดบน Watr
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Watr และเครือข่ายเบื้องหลังได้ที่ www.watr.org
