ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเชื่อว่าคนไทยจำนวนมากคุ้นเคยกับการถอน-โอน-จ่ายผ่านแอปธนาคารบนมือถือ แต่แน่ใจหรือไม่ว่าเราทุกคนได้ใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ของแอปธนาคารบนมือถือได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว เนื่องจากการพัฒนา Mobile Banking ของธนาคารต่าง ๆ ทำกันมาอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มฟังก์ชันเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของธนาคารกันอยู่ตลอด
บริการเติมเงิน ผ่านแอปบนมือถือ ถือเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและน่าสนใจในยุคนี้ เพราะนอกจากจะใช้ เติมเงินมือถือ ได้แล้วยังสามารถใช้ เติมเงิน ในกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ หรือวอลเล็ตต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย วันนี้เราจะพาไปดูกันว่าวิธีการใช้ บริการเติมเงิน ของแอปธนาคารต่าง ๆ โดยรวมแล้วจะมีลักษณะเป็นอย่างไร
ขั้นตอนการ เติมเงิน ผ่านแอปมือถือ
1. เปิดแอปธนาคารที่มีอยู่บนมือถือเพื่อเข้าใช้งาน จากนั้นเลือกฟังก์ชันเติมเงิน
2. เลือก เติมเงินมือถือ โดยการกดเลือกค่ายมือถือ หรือกดเลือกวอลเล็ตที่ต้องการเติมเงิน
3. กรอกรายละเอียดตามเงื่อนไขที่แอปกำหนดมาให้ เช่น กรอกเบอร์มือถือ และยอดเงินลงไป
4. กดยืนยัน กรอกรหัสทำรายการ กดยืนยันรหัสอีกครั้ง ถือเป็นอันเสร็จสิ้น
อย่างไรก็ตามแอปธนาคารบนมือถือไม่ได้มีเพียงฟังก์ชัน
โอนเงิน KTB ถอน จ่าย เติมเท่านั้น แต่ยังทำธุรกรรมได้อีกหลายประเภท วันนี้เราจึงขอยกตัวอย่างแอป Krungthai NEXT จากธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีผู้ใช้งานราว 13 ล้านคน จากข้อมูลเมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา และถือเป็นธนาคารตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างโครงการสนับสนุนจากทางภาครัฐและประชาชน ว่าเราจะสามารถใช้แอป Krungthai NEXT ทำอะไรได้บ้าง เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากแอปนี้ได้อย่างเต็มที่
ตัวอย่างฟังก์ชันต่าง ๆ ของแอป Krungthai NEXT
- ถอนเงินสดไม่ใช้
บัตรเอทีเอ็ม ที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย
- เพิ่มบัญชีชื่อของผู้ใช้ได้อย่างไม่จำกัด
- เปิดบัญชีออมทรัพย์แบบออนไลน์ผ่านแอปได้เลย ไม่กำหนดวงเงินฝากขั้นต่ำ ไม่คิดค่าธรรมเนียมรักษาบัญชีแม้ไม่มีรายการเคลื่อนไหวในบัญชี
- ใช้ยื่นกู้สินเชื่อผ่านแอปได้แบบครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนกรอกใบสมัคร ส่งหลักฐานประกอบ ความยินยอมเปิดเผยข้อมูลเครดิต ไปจนถึงการรับเงินโอนเข้าบัญชี
- ใช้ยื่นคำขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร โดยเลือกรับรายงานผ่านทางอีเมล หรือทางไปรษณีย์ได้ตามต้องการ
- ใช้ซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและซื้อประกันเดินทางได้ด้วย โดยประกันเดินทางจะกำหนดให้ซื้อเป็นของตนเอง รวมผู้ร่วมเดินทางสูงสุดได้อีก 5 คน
- รองรับระบบสแกนใบหน้า (Face Recognition) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง เพื่อใช้เพิ่มความแม่นยำในการยืนยันตัวตนระหว่างการทำธุรกรรม ลดความจำเป็นในการเดินทางไปยังสาขาของธนาคาร
- กรณีผู้ใช้งานใช้เบอร์เดิมแต่เปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์ สามารถเข้าใช้งานแอปผ่าน User ID หรือ บัตร ATM ได้เลย แต่ในกรณีที่เปลี่ยนทั้งเบอร์ทั้งเครื่องโทรศัพท์ขอให้นำบัตรประชาชนและสมุดบัญชีไปติดต่อที่สาขาของธนาคารเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล
อย่างไรก็ตามนี่เป็นตัวอย่างฟังก์ชันการใช้งานเพียงบางส่วนเท่านั้น ผู้ใช้งานแอปธนาคารต่าง ๆ บนมือถือสามารถสำรวจฟังก์ชันการให้บริการบนแอปมือถือของตนเองได้ตลอด 24 ชม. อาจทำให้เราได้พบว่าแอปธนาคารที่ตนเองมีบัญชีอยู่สามารถทำธุรกรรมที่ต่างจากนี้ได้อีก เช่น การเปิดบัญชีกองทุนรวม การซื้อหน่วยลงทุนในกอง SSF เพื่อรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี เพราะแอปธนาคารบนมือถือในปัจจุบันนี้ยังคงไม่หยุดพัฒนา การติดตามและศึกษาการใช้งานฟังก์ชันใหม่ ๆ จึงกลายเป็นสิ่งควรทำ เพื่อรับประโยชน์สูงสุดจากฟังก์ชันที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเหล่านี้