โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นโรคมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับสองใน
ผู้หญิงไทย รองจากมะเร็งเต้านม โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ในแต่ละปี ประเทศไทยจะพบผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ประมาณ 8,000 คนต่อปี และมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกประมาณ 4,500 รายต่อปี

จากข้อมูลดังกล่าว จะเห็นได้ว่าโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคมะเร็งที่ใกล้ตัวสาว ๆ มาก และจะต้องให้ความสำคัญในการดูแลตนเองมากที่สุด แล้วสาว ๆ จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ห่างไกลจากโรคมะเร็ง เรามีคำแนะนำมาฝาก
รวม 3 สิ่งที่ผู้หญิงควรทำเพื่อการรับมือกับมะเร็งปากมดลูกอย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ว่าสถิติโรคมะเร็งปากมดลูกจะดูน่ากลัว แต่สาว ๆ ก็สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกได้ง่าย ๆ เพียงทำ 3 สิ่งต่อไปนี้
1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก หรือวัคซีน HPV เป็นวิธีป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถป้องกันได้ถึง 70% - 90% โดยในปัจจุบันจะมีให้เลือกฉีดอยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่ วัคซีน Cervarix ป้องกันได้ 2 สายพันธุ์ , วัคซีน Gardasil ป้องกันได้ 4 สายพันธุ์ และ วัคซีน Human Papillomavirus 9-valent Vaccine เป็นวัคซีนใหม่ล่าสุด สามารถป้องกันได้ถึง 9 สายพันธุ์
สำหรับเคล็ดลับในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกให้มีประสิทธิภาพสูงสุด มีดังนี้
- ควรฉีดก่อนการมีเพศสัมพันธ์จะดีที่สุด
- จะต้องฉีดให้ครบจำนวนเข็มที่แพทย์แนะนำ เพื่อที่ภูมิคุ้มกันจะได้รับการกระตุ้นอย่างเต็มที่
- สามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี ขึ้นไป
2. เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปี
หลังจากที่สาว ๆ มีเพศสัมพันธ์แล้ว ก็ควรเข้ารับการตรวจภายในและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ ทุก 1 - 2 ปี โดยในปัจจุบัน จะมีวิธีตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่มีประสิทธิภาพมาก อยู่ 2 วิธี ได้แก่
- การตรวจแบบลิควิดเบส (Liquid-based cytology) : หรือที่เรียกว่า “ตินเพร็พ” (ThinPrep Pap test) เป็นวิธีที่สามารถตรวจพบมะเร็งปากมดลูกได้ตั้งแต่ระยะแรก ๆ และมีความแม่นยำสูงถึง 90-95%
- การตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA testing) : เป็นวิธีที่สามารถตรวจหาความเสี่ยงในการเกิดรอยโรคก่อนมะเร็งได้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในปากมดลูกก็ตาม
3. ทำประกันมะเร็ง
แม้ว่าเราจะป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ดีแค่ไหนก็ตาม แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นโรคร้ายที่พบได้บ่อย ก็ล้วนสามารถเกิดขึ้นกับเราได้ทุกเมื่อ สาว ๆ ทุกคนจึงควรทำประกันมะเร็งไว้ เพื่อเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ ซึ่งประกันมะเร็งจะไม่ได้ให้ความคุ้มครองเฉพาะแค่มะเร็งปากมดลูกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมะเร็งสตรีอื่น ๆ ที่พบบ่อยอย่างเช่น มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งรังไข่ด้วย โดยในปัจจุบันจะมีให้เลือกทำทั้งแบบประกันเจอจ่ายจบมะเร็ง และประกันมะเร็งที่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามจริง สาว ๆ สามารถเลือกทำประกันมะเร็งรูปแบบที่เหมาะสมกับตนเองได้เลย
สรุป

โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นโรคมะเร็งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถรับมือกับโรคร้ายนี้ได้เลย เพียงสาว ๆ ทำตามคำแนะนำที่เราให้ไว้ข้างต้น ได้แก่ การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในช่วงวัยที่เหมาะสม เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปี และทำประกันมะเร็งไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพียงเท่านี้ก็สามารถรับมือกับมะเร็งปากมดลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว