อวาด้า กรุ๊ป คว้าเงินทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากบรูกฟิลด์ มุ่งสนับสนุนการผลิตไฮโดรเจนสีเขียว แผงโซลาร์เซลล์ และการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียน การระดมทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการระดมทุนมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อวาด้า กรุ๊ป (
Avaada Group ) เปิดเผยว่า บริษัทสามารถระดมทุนได้ 1.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับธุรกิจไฮโดรเจนและแอมโมเนียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศอินเดีย การระดมทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการระดมทุน 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
บรูกฟิลด์ รีนิวเอเบิล (Brookfield Renewable) ลงทุนผ่านทางกองทุนบรูกฟิลด์ โกลบอล ทรานสิชัน ฟันด์ (Brookfield Global Transition Fund: BGTF) สูง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในบริษัท อวาด้า เวนเจอร์ส ไพรเวท จำกัด (Avaada Ventures Private Limited)
ขณะที่บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC จะลงทุนเพิ่มเติมอีก 68 ล้านดอลลาร์สหรัฐในบริษัท อวาด้า เอนเนอร์ยี่ ไพรเวท จำกัด (Avaada Energy Private Limited) เพื่อปลดภาระหนี้และสนับสนุนการเติบโต
นอกจากนี้ อวาด้า กรุ๊ป ยังอยู่ระหว่างการเจรจาที่ถือว่ามีความคืบหน้ากับกลุ่มนักลงทุน เพื่อระดมทุนเพิ่มอีก 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อวาด้า กรุ๊ป เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานทั่วโลกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และได้กระจายการลงทุนไปสู่การผลิตไฮโดรเจนและแอมโมเนียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังได้ขยายการดำเนินงานเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยการผลิตโซลาร์เซลล์และแผงโซลาร์เซลล์ ปัจจุบัน อวาด้าดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนที่มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 4 กิกะวัตต์ และมีแผนที่จะเพิ่มเป็น 11 กิกะวัตต์ภายในปี 2569
เมื่อเร็ว ๆ นี้ อวาด้าเพิ่งชนะการประมูลโครงการสร้างโรงงานผลิตแท่งพลังงานแสงอาทิตย์ เซลล์ และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ขนาด 3 กิกะวัตต์ ภายใต้แผนงาน Production Linked Incentive (PLI) ของรัฐบาลอินเดีย
วินิต มิตตัล (Vineet Mittal) ประธานและผู้ก่อตั้งอวาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า “อวาด้า กรุ๊ป เป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในอินเดีย โดยจัดตั้งธุรกิจ ‘ทรายสู่โมเลกุล’ (Sand to molecule) แบบครบวงจร ซึ่งสอดคล้องกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสู่การใช้พลังงานที่ไม่ก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization) ผมมีความยินดีและขอต้อนรับบรูกฟิลด์สู่การเติบโตร่วมกับเราต่อไป ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้เราสามารถคว้าโอกาสอันน่าตื่นเต้น ในขณะที่เรามีบทบาทสำคัญในการตอบสนองต่อการเติบโตแบบทวีคูณของพลังงานที่ยั่งยืน และตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นมาอยู่แนวหน้าของการเปลี่ยนผ่านพลังงานทั่วโลก เราขอขอบคุณ GPSC ที่ให้การสนับสนุนเรามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะบรรลุพันธกิจในการส่งมอบอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป”
นาวัล ไซนี (Nawal Saini) กรรมการผู้จัดการสายงานพลังงานหมุนเวียนและการเปลี่ยนผ่านพลังงานของบรูกฟิลด์ กล่าวเสริมว่า “เรายินดีที่ได้ลงทุนในอวาด้าผ่านกองทุนบรูกฟิลด์ โกลบอล ทรานสิชัน ฟันด์ ซึ่งมุ่งเน้นการลงทุนที่เร่งสู่ความก้าวหน้าและเศรษฐกิจคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้จะใช้ประโยชน์จากผลการดำเนินงานระดับโลก การเข้าถึงเงินทุน และความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานของบรูกฟิลด์ ควบคู่ไปกับการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของอวาด้าในอินเดีย เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ของทั้งสองฝ่ายสำหรับธุรกิจการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน บรูกฟิลด์ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานสะอาดแห่งอนาคต และสนับสนุนแรงบันดาลใจในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของอินเดีย”
เกี่ยวกับ อวาด้า กรุ๊ป:
อวาด้า กรุ๊ป ซึ่งบริหารงานโดย วินิต มิตตัล (Vineet Mittal) ผู้ประกอบการเพื่อสังคม เป็นกลุ่มบริษัทพลังงานแบบครบวงจรที่มีความสนใจในธุรกิจที่หลากหลาย ตั้งแต่การผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ แผงเซลล์แสงอาทิตย์ และอิเล็กโทรไลเซอร์ ไปจนถึงการผลิตพลังงานหมุนเวียน ไฮโดรเจนสีเขียว และแอมโมเนียสีเขียว อวาด้า เอนเนอร์ยี่ (Avaada Energy) เป็นบริษัทเรือธงของอวาด้า กรุ๊ป และเป็นผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนอิสระที่เติบโตเร็วที่สุดในอินเดีย ภายในระยะเวลาห้าปี บริษัทพัฒนาพอร์ตธุรกิจได้อย่างน่าประทับใจ โดยผลิตพลังงานหมุนเวียนได้ถึง 4 กิกะวัตต์ในปัจจุบัน และมีแผนที่จะเพิ่มเป็น 11 กิกะวัตต์ภายในปี 2569 และ 30 กิกะวัตต์ภายในปี 2573 ทั้งนี้ GPSC ถือหุ้น 42.9% ในอวาด้า เอนเนอร์ยี่ ซึ่งเป็นธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในเครืออวาด้า
ธุรกิจการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของอวาด้าอยู่ในระหว่างการพัฒนาโรงงานผลิตแผ่นเวเฟอร์ เซลล์ และแผงเซลล์ ซึ่งเข้าสู่ช่วงท้ายของการพัฒนาแล้ว นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังดำเนินโครงการแอมโมเนียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในหลายภูมิภาค และวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตอย่างมีนัยสำคัญเพื่อตอบสนองความต้องการเชื้อเพลิงสะอาดทั้งในและต่างประเทศผ่านหน่วยธุรกิจที่แยกจากกัน
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่
https://www.thaipr.net/business/3331457
