พลิกฟื้นชุมชน พลิกวิกฤตเป็นโอกาสการอวยพระพรของพระเจ้า
เขียนโดย ปัทมโรจน์ มากสุริวงศ์
พลิกฟื้นชุมชน พลิกวิกฤตเป็นโอกาส การอวยพระพรของพระเจ้า
(Transformation : turning the crisis as an opportunity to bless the Lord.)
จากเหตุการณ์บ้านเมืองไทยของเราในปัจจุบันที่เกิดเหตุวินาศกรรม
ทั้งเหตุไฟไหม้อาคารห้างสรรพสินค้า ธนาคารและสถานที่ราชการหลายแห่ง
นำมาซึ่งการสูญสียทั้งทรัพย์สิน และขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต
ผู้คนอยู่ในสถาวะโศกเศร้า "เราจะอยู่กันอย่างไร" เป็นประโยคที่ถูกตามกัน
อาคารสถานที่อาจจะพอซ่อมสร้างใหม่ได้ แต่สภวะทาง
จิตใจต้องใช้ระยะเวลาในการเยียวยา นานพอสมควร
สภาพบ้านเมืองของเราอยู่ในสภาวะวิกฤตการณ์อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ผมในฐานะของคริสตชนคนไทยคนหนึ่ง ขอเสนอความคิดเห็นว่า
เราน่าจะใช้โอกาสนี้พลิกฟื้นชุมชน โดยเริ่มต้นจากชุมชนใกล้ตัว
ทั้งครอบครัว โรงเรียนและชุมชนศาสนา
การรื้อฟื้นจริยธรรมต้องเป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อการเยียวยารักษาประเทศไทยจะเกิดขึ้น
ผมเชื่อว่าเมื่อเราลุกขึ้นช่วยกันพลิกฟื้นชุมชน
จะเห็นสิ่งที่ดีงามเกิดขึ้นและเมื่อเราช่วยกันร้องทูลอธิษฐานอย่างวิงวอน
องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงสดับฟัง
และพระองค์จะให้อภัยแก่บาปของเราและจะรักษาแผ่นดินของเราให้หาย
ให้คืนกลับสู่สภาพดี
หนังสือ หนึ่งในพระวิญญาณเพื่อการพลิกฟื้นชุมชนของ รูธ รุยบอล (Root
Ruibal) ได้เขียนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองคาลี
เมืองที่เต็มไปด้วยความบาปของประเทศโคลัมเบีย
และบทบาทของคริสเตียนที่นั่น
ที่ได้ลุกขึ้นเอาจริงเอาจังในการอธิษฐานเผื่อเมือง
เธอกล่าวว่า "เมืองคาลีตกอยู่ในสภาพที่สิ้นหวัง
เป็นที่รู้จักดีว่าเมืองคาลีมีขบวนการค้ายาเสพติด
ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการอาชญากรรมที่เป็นระบบที่สุดในโลก
เนื่องจากการฆาตกรรม การลักพาตัว การทรมาน และอื่น ๆ
ตอนแรกดูเหมือนไม่มีใครสนใจความเป็นไปของเมือง
ความเจริญทางวัตถุทำให้พวกเขาไม่เห็นสภาพที่แท้จริงของเมือง
แต่ต่อมามันกลายเป็นความวิตกทางสังคมที่มากและเพิ่มขึ้น"
นี่จึงเป็นสาเหตุให้กลุ่มคริสเตียนเริ่มต้นจับกลุ่มกันติดตามความเป็นไปของเมือง
พวกเขากล่าวว่า "เมืองของเราจะพินาศฝ่ายวิญญาณหากไม่มีการแทรกแซงที่รุนแรง"
กลุ่มศิษยาภิบาลจากที่ต่าง ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้พบปะกัน
ได้เริ่มต้นพูดคุยกันถึงปัญหาของเมือง
และเริ่มมีการจัดการอธิษฐานเพื่อเมืองอย่างแท้จริงพวกเขาเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงเคลื่อนไหวในเมือง
ดังนั้นจึงมีการจัดอธิษฐานโต้รุ่งหลายต่อหลายครั้ง
พวกเขาอธิษฐานเพื่อต่อต้านความบาปทุกรูปแบบ ทั้งอธิษฐานต่อต้านการฉ้อโกง
อธิษฐานขอการยุติความรุนแรง อธิษฐานเผื่อปัญหายาเสพติดให้หมดไป
จากการอธิษฐานเล็ก ๆ กลายเป็นการรวมพลังที่ยิ่งใหญ่
ทุกคนกลับไปด้วยภาระใจว่า
จะลุกขึ้นปกป้องเมืองคาลีและยังมีการแยกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ
และอธิษฐานตามที่สำคัญทั่วเมือง
รูธ รุยบอล กล่าวว่า "เมื่อคนแห่งความเชื่อเพียงไม่กี่คนพบกัน
เพื่ออธิษฐานเผื่อชุมชนก็จะมีฤทธิ์เดช อย่าดูหมิ่นวันเล็กน้อย
เมื่อพระเจ้าทรงเริ่มตอบคำอธิษฐานเหล่านั้น คนอื่นจะถูกดึงดูดเข้ามา
คนเพียงสองคนหรือสามคนร่วมใจกันอธิษฐานและอดอาหารก็เพียงพอที่จะจุดไฟ
และการพลิกฟื้นเมืองคาลีก็ได้ค่อย ๆ เกิดขึ้น
เมื่อทุกคนลุกขึ้นเพื่อเมืองอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
นี่เป็นตัวอย่างของคริสเตียนในเมืองคาลี ประเทศโคลัมเบีย
ที่มีใจปรารถนาจะมีส่วนช่วยกันพลิกฟื้นเมืองให้บริสุทธิ์
เป็นเมืองที่น่าอยู่และสงบสุข
ในพระวจนะของพระเจ้าในหนังสือพงศวารบันทึกไว้ว่า
2 พศด.7:14-15
14 ถ้าประชากรของเราผู้ซึ่งเขาเรียกกันโดยชื่อของเรานั้นจะถ่อมตัวลง และอธิษฐานและ
แสวงหาหน้าของเรา และหันเสียจากทางชั่วของเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่
บาปของเขาและจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย
15 และตาของเราจะลืมอยู่และหูของเราจะฟังคำอธิษฐานซึ่งเขาทั้งหลายอธิษฐาน
ณ สถานที่นี้
พระธรรมตอนนี้ เป็นพระสัญญาที่พระเจ้าให้ไว้แก่ซาโลมอนว่า
หากชนอิสราเอลกระทำความผิดบาป
การพิพากษาลงโทษของพระเจ้าก็จะมาถึงชุมชนของเขา
ไม่ว่าจะเป็นการกันดารอาหาร โรคระบาด หรือแมลงศัตรูพืชระบาด
อันเป็นสภาพของความสูญเสีย และเสียหายต่อทั้งแผ่นดินอิสราเอล
แต่หากประชาชนหันหลังกลับจากบาปและกลับมาแสวงหาพระเจ้า
พระองค์จะทรงรักษาแผ่นดินให้หาย และนำการอวยพรของพระเจ้ากลับคืนมา
จากพระธรรมตอนนี้ เราสามารถเห็นถึงวิถีของการพลิกฟื้นชุมชน
ให้พ้นจากสภาพความผิดบาป ความเสื่อมโทรม
กลับมาเป็นชุมชนที่บริสุทธิ์และเต็มเปี่ยมด้วยการอวยพรของพระเจ้า
อันเป็นน้ำพระทัยที่พระเจ้ามีต่อชีวิตของเราได้ ดังนี้
หนทางสู่การพลิกฟื้นชุมชน (The ways to transform the community)
เราจะนำการพลิกฟื้นมาสู่ชุมชนที่เราอยู่ได้อย่างไร
1. การพลิกฟื้นชุมชนเริ่มต้นที่คนของพระเจ้า (ข้อ 14) (Transformation
starts from the people of God)
พระวจนะกล่าวว่า
"ถ้าประชากรของเราผู้ซึ่งเขาเรียกกันโดยชื่อของเรานั้นจะถ่อมตัวลง
และอธิษฐานและแสวงหาหน้าของเรา และหันเสียจากทางชั่วของเขา
เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขา
และจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย"
การพลิกฟื้นชุมชนต้องเริ่มต้นที่คนของพระเจ้า
เนื่องจากสภาพความเสื่อมโทรมทั้งทางวัตถุ และทางจริยธรรมในสังคมนั้น
ล้วนเกิดจากความผิดบาป และพระเจ้าไม่สามารถอวยพรชุมชนนั้นได้
คนของพระเจ้าจึงจำเป็นต้องนำความชอบธรรมของพระเจ้าลงมา
โดยการถ่อมตัวลงอธิษฐานแสวงหาพระเจ้า และหันเสียจากความบาป
ลุกขึ้นทำการดีเพื่อสังคมและคนรอบข้าง
ดังที่พระเจ้าทรงตั้งเราไว้ให้เป็นเกลือและแสงสว่าง เริ่มต้นจากตัวเราเอง
จนสามารถส่งอิทธิพลที่ดีต่อคนทั้งสังคมได้
ทุกคนในชุมชนต้องมีส่วนช่วยกัน (ข้อ 15) Everyone in the community must
participate
พระวจนะกล่าวว่า "...ซึ่งเขาทั้งหลายอธิษฐาน ณ สถานที่นี้" เห็นได้ว่า
ไม่เพียงแต่ผู้เชื่อเพียงคนเดียว
แต่ทุกคนในชุมชนมีส่วนช่วยกันในการพลิกฟื้นชุมชน
แม้ว่าการริเริ่มอาจจะเริ่มที่คนหนึ่งคน
แต่หากจะทำให้การพลิกฟื้นชุมชนมีพลังต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกคนในสังคม
โดยหนุนใจกันและกันให้มากขึ้นในการมาอธิษฐานเผื่อชุมชนที่เราอยู่
สารภาพบาปเผื่อชุมชน
และร่วมแรงร่วมใจทำสิ่งดีที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนในภาคปฏิบัติ
เราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกัน ในบทบาทที่เราเป็นอยู่
ทำในสิ่งที่เราเป็นให้ดีที่สุด
เมื่อทุกคนทำบทบาทของเราเราก็จะเป็นเหมือนฟันเฟืองที่เป็นกลไกลขับเคลื่อนการทำ
งานของเครื่องจักรให้ทำงานต่อไปได้
หากส่วนหนึ่งหยุดทำงาน เครื่องจักรก็จะรับผลกระทบไปด้วย
จอร์จ วอลตัน ลูคาส จูเนียร์ (George Walton Lucas, Jr.) เป็นผู้กำกับภาพยนตร์
ผู้อำนวยการสร้าง ผู้เขียนบทภาพยนตร์ ชาวอเมริกัน
มีชื่อเสียงจากภาพยนตร์ชุดไตรภาคสตาร์ วอร์ส และอินเดียน่า โจนส์
ได้กล่าวว่า "ผมไม่เสียใจกับสิ่งที่ผมทำลงไป