แฟนโดนรุมข่มขืนเลยใจแตกไปมีชู้

[เมื่อ:]

แฟนเราก็มีชู้ ตอนรู้จักกันใหม่ๆดูเป็นคนเรียบร้อย น่ารัก ไม่ค่อยพูด ยิ้มหวานอย่างเดียว แต่พอแต่งงานอยู่กันกันยังไม่ถึงเดือนก็เริ่มด่าพ่อ ด่าแม่เรา พูดจาดูถูกดูหมิ่นเราเป็นประจำ (บ้านแฟนฐานะดีกว่าเรามาก) แล้วชอบด่าเราแบบหยาบๆใช้คำประเภท กรุ มึ ง อ้ายเจี้ ย อ้ายเสริฐ กับเราบ่อยๆ ทั้งที่เรียนจบสูง จบทั้งจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังมาก จบนิติศาสตร์ด้วยจากมหาวิทยาลัยเปิดด้วย เวลาพูดกับคนนอกบ้านเรียบร้อยมาก คนบอกเราโชคดีนะได้ภรรยาทั้งสวยทั้งเรียบร้อย รูปร่างหน้าตาก็ดีมากๆ เค้าไม่ได้มาฟังมาเห็นในบ้าน รับรองต้องรีบถอนคำพูดแทบไม่ทัน เรามานั่งนึกว่านี่ถ้าก่อนแต่งรู้ว่าเป็นคนแบบนี้คงไม่กล้าแต่งด้วย
แถมชอบใช้กำลัง ด่าว่าเราจนทนไม่ไหวไม่อยากทะเลาะด้วย ก็เข้าห้องพระนั่งสมาธิ เธอคว้ามีดปลายแหลมมาไล่แทงเรา จนต้องคว้าข้อมือแย่งเอาไปทิ้ง ทีหลังทะเลาะกัน พอด่าเราหยาบๆคายๆอีก เราก็ขับรถออกจากบ้านไปเรื่อยๆ ไปจอดนอนสยามสแควร์มั่ง ไปจอดนอนริมหาดพัทยามั่ง ชะอำมั่ง เช้าก็ขับกลับมาทำงาน
ตอนหลังยิ่งหนักข้อ ทะเลาะกับเรา เราไม่อยากทะเลาะด้วย แม่คุณขับรถออกไปนอกบ้าน ไปดวดเหล้าเมาแอ๋แล้วขับรถไปจอดแถวทางลัดบางกรวยไทรน้อย นนทบุรี เลยโดนผู้ชายช่วยกันลากเข้าบ้านรุมยำสามัคคีชุมนุม พอสร่างเมาขับรถมาบ้านน้ำอสุจิ งี้ไหลโจ๊กออกมาตลอด ยังกับในหนัง AV แถมหน้าอกกับบั้นเอวแดงเป็นจ้ำๆ เราก็นึกอนาถใจว่า กว่าจะขอแต่งงานกันได้ ต้องเก็บเงินเตรียมสู่ขอ ต้องตระเวนแจกการ์ดให้ทั้งญาติผู้ใหญ่ ทั้งครูบาอาจารย์แทบจะครึ่งคณะ งานแต่งก็หมดเงินเป็นหนี้เป็นสินต้องใช้หนี้เป็นปีๆ อยู่ดีๆเธอก็ออกไปเมาแอ๋ให้ผู้ชายกลัดมันมันช่วยสงเคราะห์เป็นผัวชั่วคราว ให้ฟรีๆเป็นโขยงสบายใจเฉิบ ดีที่ไม่ติด HIV มาด้วย บอกให้ไปแจ้งความก็ไม่ยอมไปแจ้ง บอกอายเค้า พอพูดกันเรื่องนี้ก็มีอาการคลุ้มคลั่งเกรี้ยวกราด ขนาดเรากำลังขับรถอยู่ให้เราจอดแล้วเธอขับกลับบ้านไปคนเดียว แถมถนนแถวนั้นยังสร้างไม่เสร็จ รถประจำทางก็ยังไม่มี เราต้องเดินตั้งไกลจนเท้าแตกเลือดออก ตอนหลังเธอคงเสียใจก็ทั้งกรีดข้อมือตัวเอง ทั้งกินยาเป็นกำ แต่ไม่ตาย ตอนหลังก็ไปเข้าร่วมปฏิบัติธรรมกับยุวพุทธิกสมาคม พอกลับมาบ้านก็ก้มกราบเท้าเรา บอกว่าสำนึกผิดแล้วต่อไปนี้จะเคารพเชื่อฟังสามี จะไม่ทำตัวเหมือนที่ผ่านมา เราก็สงสารก็ตกลงอยู่กันต่อ แต่เวลามีอะไรกันก็รู้สึกแปลกๆบ้างเหมือนกัน ดีที่คลอดลูกคนเล็กไปเกือบปีแล้ว ไม่งั้นถ้าเกิดท้องตอนนั้น คงต้องเช็ค DNA แน่นอน เพราะคงไม่อยากเป็นพ่อพระไปนั่งเลี้ยงลูกอ้ายผู้ชายหื่นแก็งค์นั้น
ตอนหลังก็เปลี่ยนมาทำงานเป็นทนายขอแรงคดียาเสพติดประจำศาล ความที่รูปร่างหน้าตาดี เวลาเดินไปไห ขนาดมีลูกแล้วสามคน ไปไหนผู้ชายยังมอง แรกๆก็ให้เราไปช่วยงานเสี่ยงๆ ประเภทส่งหมายเรียกนายตำรวจระดับผู้กำกับมาให้การในคดียาเสพติด ส่วนใหญ่แฟนเราชนะซะด้วย ปล่อยตัวพวกค้ายาเสพติดให้ออกจากเรือนจำได้เป็นร้อยๆราย ขนาดผู้กำกับบาง สน.โดนแฟนเราออกหมายเรียกแล้วไม่มา โดนศาลสั่งออกหมายจับเลยก็มี หรือคอยขับรถให้เวลาไปว่าคดีต่างจังหวัดไกลๆ แต่ไม่แนะนำใครว่าเป็นสามี แต่เวลาเจอใครที่ศาลเธอจะรีบบอกว่าบอกเป็นแค่เพื่อนกัน แล้วก็ยืนคุยกระซิกกระซี้กระชดกระช้อย กับ ตำรวจ อัยการ ต่อหน้าเรา เราก็ยืนงงทำตาปริบๆ ว่าเอ... เมียเรามันทำอะไรแปลกๆ

[ตอบ #1 เมื่อ:]

แล้วตั้งแต่เป็นทนายคดียาเสพติดเมียเราก็เริ่มพูดจาหยาบคายมากกว่าเดิม แล้วทำร้ายร่างกายเรามากขึ้น แล้วก็มีเรื่องเพิ่มมาอีก ครูประจำชั้นของลูกเราให้ลูกมาบอกเมียเราว่าเห็นเรานั่งทานข้าวกับสาวๆ พอเมียเรารู้ก็ยิ่งทำร้ายเรามากกว่าเดิม จนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลพญาไทสาม แล้วต้องแจ้งตำรวจ 191 กับ สน.เพชรเกษมไว้เป็นหลักฐาน แล้วเธอยังตามไปอาละวาดตบหน้าเราที่โต๊ะลงทะเบียนในงานเลี้ยงบริษัทที่โรงแรมใบหยกสอง จนเรารำคาญทนไม่ไหวก็หนีไปบวชพระที่วัดเกตุมวดีศรีวราราม ที่บางโทรัด สมุทรสาคร เมียก็ตามไปง้อขอให้สึกพระ บอกว่าอายคนเค้าที่สามีหนีมาบวชแบบนี้ พอเราสึกจริงปรากฏว่าเมียบอกยังอยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะตอนเธอโกรธเธอเที่ยววิ่งไปบอกพ่อแม่ บอกแฟนเก่าที่เป็นผู้อำนวยการ กกต. กับเพื่อนๆที่ช่องสามว่าเราเป็นคนไม่ดี แถมวิ่งพล่านไปบอกรุ่นพี่ที่สภาทนายความหาว่าเราข่มขืน ทั้งที่จริงๆเธอโดนผู้ชายข่มขืนตอนหนีไปกินเหล้าบอกบ้านคนเดียว เราก็งงว่าเมียทำเหมือนคนสติแตกที่พยายามใส่ร้ายเราขนาดนี้เพื่ออะไร ใครๆก็เลยคัดค้านไม่ให้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก เราเลยไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอก วันไหนเธอมีอารมณ์ก็มานอนด้วยตอนกลางวัน แล้วเย็นก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่ หรือเสาร์อาทิตย์ไหนพ่อแม่พี่ชายเธอไม่อยู่เธอก็ให้ลูกโทรมาตามให้ไปร่วมหลับนอนกันที่บ้าน แต่ต้องเข้าตอนดึกแล้วแอบออกมาตอนเช้าๆเพื่อไม่ให้คนใช้ในบ้านเห็น พวกตำรวจสายตรวจ แถวนั้นขับรถผ่านก็มองเราแบบงงๆ ว่าลูกเขยบ้านนี้มันยังไงกัน. ส่วนครูคนนี้ตอนหลังก็กรรมตามสนองโดนไฟไหม้ร้านจนขาดทุนต้องเลิกกิจการนวดเท้าในห้างฟิวเจอร์ปาร์ค แล้วลูกเราก็บอกว่าเสียใจที่ถูกครูยุหลอกใช้จนพ่อแม่มีเรื่องจนบ้านแตก
หลังๆเมียเราเริ่มมีอาการแปลกๆ สั่งเราไม่ให้ไปที่ศาล แล้วลูกๆบอกว่าเธอออกจากบ้านทุกวัน บอกว่ามีนัดศาลเกือบทุกวัน บอกต้องทำคดียาเสพติดประเภทขอแรงคนเดียวปีละร้อยกว่าคดี ส่วนใหญ่ชนะเกือบทุกคดี จนผู้ต้องหาซูฮกกันเป็นแถวๆมาขอสมัครเป็นลูกน้อง บอกมีปัญหากับใครขอให้บอก ยินดีลุยเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ช่วยให้ชนะตำรวจได้ หรือไม่งั้นก็บอกว่าเธอต้องเข้าเรือนจำบ่อยๆเพื่อไปพบผู้ต้องขังคดียาเสพติด ตอนแรกเราก็เชื่อตามที่พูด ตอนหลังเหมือนมันมีลางสังหรณ์ ตามไปที่ศาลกำลังนั่งรอแฟน พอแฟนเดินมา มีผู้พิพากษาหนุ่มๆวิ่งตามมาด้วย แต่พอเห็นหน้าเราก็หันหลังกลับเดินขึ้นศาลไป เราถามว่าที่วิ่งตามมาเป็นใคร แฟนบอกเป็นผู้พิพากษา เราก็งงว่าแล้วจะวิ่งตามแฟนเรามาทำไม
เราถามแฟนว่า ที่ศาลเค้าไม่รู้หรือว่ามีลูกมีสามีแล้ว เธอบอกไม่อยากให้ใครรู้เดี๋ยวทำงานไม่สะดวก แต่ต่อมาก็ได้ข่าวว่าเธอชอบรับทนายผู้ชายขึ้นรถไปไหนมาไหนด้วยกัน ต่อมาเมียของทนายผู้ชายรู้เข้าก็มาตามกำกับนั่งไปด้วยหรือไม่ก็ให้ลูกสาวมาเฝ้าแทน เวลาไปว่าคดีต่างจังหวัดพอแฟนเรารับทนายผู้ชายคนนี้ขึ้นรถ เมียกับลูกสาวเค้าก็จะขอนั่งไปด้วย ตอนหลังเธอคงรำคาญก็เลิกคบกับทนายคนนี้ไป
หลังจากนั้น อยู่บ้านเสาร์อาทิตย์ก็มีทนายผู้ชายคนใหม่โทรมาหา คุยกันยาว สี่ห้าทุ่มขึ้นตียงจะนอนกันอยู่แล้วยังหัวร่อต่อกระซิกกันร่วน เราก็บอกแหมเวลาคุยกับคนอื่นทำไมอ่อนหวานรื่นหูจัง ทีคุยกับเราพูดจาตะคอกใส่ตลอด แล้วเดี๋ยวก็เปรยว่าพี่ทนายคนนี้ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ทำไปทำมาบอกเวลาทำคดีต้องแบ่งค่าทำคดีให้พี่ทนายคนนี้ครึ่งนึงจะดีมั้ย เราก็งงว่าเอ๊ เมียเราเป็นคนรับคดี แล้วก็ว่าคดีเองตลอด ทนายคนนี้ไม่ได้ร่วมว่าคดีด้วยเลย ทำไมต้องแบ่งเงินให้เขาครึ่งนึง คดีละหลายหมื่น ทนายคนนี้ก็ได้ไปฟรีๆ เราก็เซ็ง บางทีก็มีผู้คุมจากเรือนจำโทรมาหาบ้าง ต่อมาก็บอกมีอัยการมาสนิทสนมด้วยอีกหลาย มาชวนไปทำงานด้วยในฝ่ายช่วยเหลือคดีประชาชน เราก็เอ... แฟนเราถ้าจะป็อบปูล่าในศาลน่าดู ขนาดว่าคดียาเสพติด พอเสร็จคดีก็จะมีนายตำรวจที่มาให้การในคดีตามจีบหลายคนแล้ว แต่เธอไม่สนใจ บอกว่าเกลียดตำรวจ อย่าหวังแม้แต่จะเห็นขาอ่อน ไม่มีทางได้แอ้มเธอแน่
หลังๆเริ่มทะเลาะมีปากมีเสียงโดยไม่ค่อยมีสาเหตุ แทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย แถมไม่ค่อยยอมให้นอนด้วยเหมือนตามปรกติ หรือถ้ามีอะไรกันก็จะสั่งว่าอย่าทำอะไรมาก เดี๋ยวรูปร่างเธอจะเสียทรง เดี๋ยวของเธอจะเยินหมด (นี่เธอพูดเอง) แล้วอยู่อยู่เธอก็ถามทีเล่นทีจริงว่าถ้ามีคนมาชอบจะว่าอะไรไหม เราก็เห็นเธอถามยิ้มๆก็นึกว่าพูดเล่น แต่ที่เป็นเรื่องใหญ่ก็ตอนเธอโดนศาลฟ้องยึดทรัพย์บังคับคดีบัตรเครดิต เธอโดนพ่อแม่สั่งให้ย้ายทะเบียนบ้านออกเพราะมีหมายศาลฟ้องและหมายยึดทรัพย์มาปิดหน้าบ้านเป็นสิบๆคดี เธอก็ขอให้เราย้ายทะเบียนบ้านเธอไปเข้าบ้านญาติเราที่วัดใหญ่ศรีสุพรรณ หมายศาลกับจดหมายทวงหนี้จากสำนักงานทนายความก็ตามไปอีก ญาติเราก็กลัวเสียชื่อ ขอให้เราย้ายชื่อเมียออก คราวนี้เมียเราโกรธมากโทรหาเราขู่จะเอานักโทษที่ทำคดีจะมาทำร้ายญาติเราที่เป็น รศ.ดร.คณะวิศวะในมหาวิทยาลัยชื่อดัง แล้วก็ให้เจ้าหน้าราชทันณ์ที่เป็นผู้หญิงที่เรือนจำที่ประจำศาลอาญาธนบุรีใช้คอมพิวเตอร์ประจำศาลมาค้นประวัติญาติๆเราว่ามีคดีอะไรบ้างเพื่อจะเอาเรื่อง แล้วก็โทรขู่เราว่าเจอประวัติป้าเราเคยมีคดีเช็ค เราเห็นมันจะไปกันใหญ่ก็อุตส่าห์ห้ามว่าอย่าทำเป็นเรื่องใหญ่เลย แค่ย้ายทะเบียนบ้านออกไปก็จบ เธอเลยโกรธแล้วด่าเราเสียๆหายอย่างรุนแรง บอกว่าจะฆ่าเราด้วยอีกคน เรากลัวเรื่องมันจะยุ่งไปกันใหญ่ก็ไปที่ศาลก็ไม่เจอ ถามเจ้าหน้าที่เค้าก็เหวอ... บอกทนายคนนี้เค้ายังไม่มีสามีไม่มีลูกสักหน่อย แล้วพวกผู้ชายในศาลก็ตามจีบกันให้เกรียวกราว มีไปว่าคดีต่างหวัดไกลๆกับทนายผู้ชายที่เป็นแฟนกันบ่อยๆ กำลังจะมีนัดไปต่างประเทศกันด้วย เราก็ยืนเซ่อเลยบอกพี่เจ้าหน้าที่ว่า ผมเป็นสามีที่แต่งงานถูกต้องตามประเพณีมาตั้งยี่สิบปีแล้ว ทุกเสาร์อาทิตย์ก็หลับนอนกันเป็นประจำ แล้วเมียเรามามีแฟนเป็นทนายที่ศาลได้ไงเนี่ย

[ตอบ #2 เมื่อ:]

เราฟังแล้วรู้สึกช็อคเหมือนโดนทุบที่หัวเลย ก็ถามว่าแล้ววันนี้แฟนเราไม่มาว่าคดีหรือเรากะจะมาคุยด้วยซักหน่อย เจ้าหน้าที่บอกเค้าไม่ค่อยมีนัดว่าคดีในศาลหรอก เห็นว่าไปช่วยงานสำนักงานช่วยเหลือประชาชนของสำนักงานอัยการ แล้วก็ช่วยบอกทางให้เรา เราก็ไปที่สำนักงานอัยการๆก็บอกยังไม่ได้เรียกตัวมาช่วยเลย ทีนี้เราก็ยืนเซ่อกินเลย ว่า เอ...แล้วที่แฟนเราบอกกับเราว่าไปศาลไปเรือนจำทุกวัน ตกลงเธอไปทำอะไรที่ไหนกันแน่
พอตกบ่าย แฟนก็โทรมาด่ากระจายเรื่องที่เราไปหาที่ศาล แถมบอกว่าแจ้งความตำรวจไว้ด้วยว่าเราไปรบกวนการทำงานที่ศาล เราก็งงมากเลย ว่าเราทำผิดตรงไหน ก็เมื่อก่อนเธอเป็นคนตามเราไปช่วยงานเอง อยู่ดีๆใครจะอยากไปที่ศาลเล่นกันเล่า...สงสัยที่เธอโกรธคงเป็นเพราะทำให้คนรู้ว่ามีลูกมีสามีแล้ว แล้วคนที่ศาลก็งงกันมากว่าทำไมยังมาควงกับทนายผู้ชายคนที่แบ่งเงินค่าทำคดีให้อีก เธอคงอายที่เสียภาพพจน์ เสร็จแล้วกลับบ้านเธอด่าเราให้ลูกฟังว่าเราเลวมากที่ไปเสนอหน้าที่ศาล ลูกๆก็งงว่าพ่อแม่ทะเลาะกันเรื่องอะไร แล้วเมียก็ไปล้างสมองลูกว่าพ่อเป็นไม่ดีอย่าพูดด้วย
ตอนหลังแม่เราเพิ่งรู้เรื่องที่เมียทำร้ายร่างกายเราอย่างหนักมาหลายครั้ง แล้วก็มีชู้ด้วย ก็เลยถามเราว่า ถ้าเมียมีชู้แล้วยังมาขออาศัยชื่อในทะเบียนบ้านเราทำไม ควรจะย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่กับชายชู้เลย ไม่ใช่ตัวไปอยู่กับชู้แล้ว แต่เอาชื่อมาอยู่ในบ้านญาติสามีเก่าแล้วให้มีหมายยึดทรัพย์กับจดหมายทวงหนี้มาที่บ้านญาติสามีเก่าแบบนี้

[ตอบ #3 เมื่อ:]

อ่านไม่รู้เลืองเลยงงงกลับข้อความ

[ตอบ #4 เมื่อ:]

งง แล้วเรื่องแฟนโดนรุมขมขื่นละ นายไม่ไปเคลียร์เหรอ เป็นเราคุณพวกนั้นไม่รอดหรอก ดูแลผู้หญิงคนเดียวยังไม่ได้แล้วจะดูแลลูกได้เหรอ

[ตอบ #5 เมื่อ:]

คุณคนเขียนคงหมายถึงว่า...

ตอนคบแรกๆ แฟนนิสัยดีน่ารัก.. พอแต่งงาน เป็นนางมารร้าย..
พอทะเลาะกันหนัก..เขาก็งอนแฟน..ไม่นอนบ้าน..แต่จะขับรถไปไกลๆ อาศัยนอนในรถ

พอผู้หญิงก็ทำเช่นกัน..แต่เมาหนัก..จอดรถนอน..ดันโดนผู้ชายข่มขืนเป็นฝูง..

แต่ผู้ชายคนนี้เขาก็ยังเอา..เพราะเห็นแก่รัก... อยากแจ้งตำรวจแต่ผู้หญิงไม่ยอม..

พอหนักเขา แฟนผู้หญิงได้ทำงานเป็นทนาย..แต่ที่ศาลผู้หญิงโกหกว่าไม่มีสามี ไม่มีลูก...

มีผู้ชายอื่น.. ประมาณนี้..

เข้าใจยัง.. เขากลุ้ม.. หาทางออกให้พี่เขาที

[ตอบ #6 เมื่อ:]

ผมว่าคุณควรตัดใจเสียเถอะนะไม่ได้ว่านะแต่ว่าเมียคุณเข้าข่ายเลวบริสุทธิ์แล้วละผู้หญิงดีๆยังมีอีกเยอะตัดอกตัดใจซะเถอะผมรู้ว่ามันตัดยากถ้าเรารักเค้าหมดใจแต่มันจะป็นการดีกว่าไหมถ้าเราจะหันมารักตัวเองให้มากกว่ารักคนอื่นเพื่อตัวเราเองเพื่อพ่อแม่เพื่อลูกที่เค้ายังรักเราดีกว่าที่จะปล่อยให้มันแย่ลงไปกว่านี้ ผมรู้ว่ามันต้องใช้เวลาแต่มันจะสวยงามเมื่อเวลามันผ่านไป

[ตอบ #7 เมื่อ:]

เลิกเถอะค่ะ แล้วเอาลูกมาเลี้ยงซะ อยู่กับแม่แบบนี้อนาคตลูกคุณ แย่แน่

[ตอบ #8 เมื่อ:]

เคยอ่านกระทู้ของคุณทั้ง3กระทู้

จึงอยากให้คุณพิจารณาตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ

ว่าตัวคุณมีข้อบกพร่องอะไร ที่ทำให้ภรรยาเปลี่ยนความรู้สึกจากเดิมไปได้มากขนาดนี้

จากที่คุณเล่ามา ภรรยาคุณเป็นคนฉลาด เข้มแข็ง ไม่ยอมคน

แล้วลองมาดูตัวคุณว่าคุณมีอุปนิสัยอย่างไรบ้าง สามารถปกป้อง เลี้ยงดูเธอ ให้ความอบอุ่นกับเธอได้หรือไม่

คุณมีภาวะความเป็นผู้นำพอที่จะให้เธอวางความเชื่อใจไว้ในมือคุณหรือไม่

ภรรยาของคุณ คุณก็รัก คุณก็ควรหาทางปกป้องเธอ ดึงเธอกลับมาจากคนที่ใช้เธอหวังให้เธอเป็นเครื่องมือให้สิคะ

คุณเข้มแข็งพอที่จะดึงเธอกลับมาได้หรือปล่าว คุณรู้ว่าเธอทำไม่ดีมีชู้ ถ้าคุณยังรักเธออยู่คุณก็ต้องทำให้ดีกว่าเดิม

ให้ดีกว่าไ อ้ชู้คนนั้นสิคะ

แต่ถ้าคุณไม่ได้รักเธอแล้ว ก็ปล่อยเธอไปดีกว่าค่ะ

[ตอบ #9 เมื่อ:]

ไม่อยากจะว่าคุณโง่ หรอกนะ คุณดีเกินไป ถ้าคุณฉลาดคุณเลิกกับเธอตั้งแต่ปีแรกที่เธอด่าบุพการีคุณแล้ว ไม่ให้เลยเวลาจนยี่สิบปีหรอก และเธอกล้าทำอย่างนั้นเพราะรู้ว่าคุณทำอะไรเธอไม่ได้ ยอมเธอตลอด ถึงไม่เกรงใจคุณ และที่เธอง้อคุณเวลาคุณหนีไป เพราะต้องการเก็บคุณคุณไว้ใช้เวลาไม่มีใครเหลือ ผู้หญิงคนนี้หาดีไม่ได้เลย แต่มักจะโชคดีเจอผู้ชายที่ดีอย่างคุณ และพวกชู้ทั้งหลายของเธอก็แค่ต้องการหลอกเล่น ไม่จริงจังหรอก ลองชายเหล่านั้นมาเห็นนิสัยของเธอจริงๆ ก็คงกระเจิงหนีเหมือนกัน คุณก็เก่งนะอยู่มาได้ตั้ง ยี่สิบปี ในสภาพที่ต้องทนแบบนี้ ทนไปได้ยังงัย

เราเชื่อว่าเมียคุณเค้าก็ฉลาดเลือกผู้ชายมาเป็นสามีนะ เค้าคงรู้ตัวว่าตัวเองนิสัยเสียยังไง คิดว่าหาคนที่จะทนเธอได้ ยอมรับในความเป็นเธอได้ และให้อภัยเสมอ เราว่าเธอคงเป็ณโรคจิตชนิดหนึ่ง ยิ่งแก่ยิ่งเป็นหนักนะนั่น

คงเป็นกรรมของคุณกับลูกแล้วหล่ะ คงต้องใช้กรรมให้หมด ก็อยู่กันมาจนแก่แล้วนิ ทนอีกหน่อยจะเป็นไรไป

[ตอบ #10 เมื่อ:]

q*0119ต้องเข้าใจความเป้นมนุษย์ด้วยกันก่อน ให้เกียรติแก่กันสร้างความเข้าใจ สร้างความประสานสัมพันธ์ อยู่กันมานานต้องทราบว่าค่ของเราชอบแบบใหน
หันมองตนเอง ให้ต่างฝ่ายต่างวิพากษ์กันเอาข้อ ดี 10 ข้อ ข้อเสีย 10 ข้อ แล้วลดข้อเสียลงมาประสานสัมพันกันทั้งสอง ฝ่ายเพื่อลูกๆๆของคุณ ลูกจะไม่มีแม่ได้อย่างไร ทั้งสวย ทั้งเก่ง คนที่เรียนนิติ ได้คือคนไม่ยอมคนนะต้องเข้าใจ แต่เดินไปในทางเดียวกันถึงไหนถึงกัน ประมาณนั้น ครับ ในส่วนลึกๆๆที่ไม่วิพากษ์ออกมาให้เห้น จะต้องส่วนบกพร่องทั้งสอง ฝ่าย..จนอีกฝ่ายจะรับไม่ได้ สังเกตจากให้ไปร่วมหลับนอนแบบลับๆๆ น่าคิด น่าสนใจ และน่าศึกษา นับว่าเป้นอุทธาหรณ์แก่คู่ผัวตัวเมียทั้งหลาย ว่าการครองรักนั้น ต้องรู้จักครองตน ครองเรือน และครองคนด้วยนั่นเองปัญหาทุกปัญหาย่อมมีทางออก แต่ต้องแก้ไปพร้อมๆๆกันทั้งสองคนผัวเมีย อย่าไปถามมือที่สามไม่มีประโยชน์น่าเป้นเช่นนั้น หรือท่านอื่นเห้นอย่างไรชี้แนะต่อยอดด้วยครับผม

[ตอบ #11 เมื่อ:]

ทุกปัญหามีทางออก

[ตอบ #12 เมื่อ:]

อยู่ด้วยกันมา20ปี...
ยังงี้คุณทั้งสอง..อายุไม่ล่อไป40กว่าแล้วหรือ...
เรียนนิติ เรียนเนติ จิตวิดยาอีก คงไม่ได้จบทั้งหมดแล้วแต่งงานน่ะ....
ป่านนี้คง ง่อมแล้วววว....
เธอคนดียัง...คิดบ.ได้อีก...
เชื่อเถอะ....ตัดใจ

[ตอบ #13 เมื่อ:]

หยุด...ไม่ต้องคิดมาก....ทุกๆคน
คู่นี้ เค้าเกิดแต่กรรม มาแค่ ชดใช้ กรรมที่ก่อไว้ ด้วยกัน....ก็เท่านั้น
บอกเลิกกัน แยกกัน ตัดกัน ตัดยังไงก็บ.ขาดดอก....มันยังชดใช้ยัง.....บ.หมดเด้ออ....
ตอนนี้ขอให้....รอ รอเวลาเท่านั้น ชดใช้กันให้หมด
หมดเวรหมดกรรมเมื่อไหร่....ก็จบ
จบแล้วววว......ก็แค่อโหสิกรรม เท่านั้นเป็นพอ หยุดจองเวรกันจองกรรม..ต่อๆๆไป


เท่าที่อ่านมา จขกท.น่าจะออกแนว...ระบายมากกว่า
ระบายบ้าง...เป็นทางออกที่ดี สบายใจขึ้น
เก็บความรู้สึก อึดอั้นตันใจ มานาน...มากมาย
อยู่ได้ยังไง....คนเดียว
คุณครั้น จะไป....ปรึกษา ระบายกะคนรอบข้าง คงไม่สะดวก มันรู้หน้าคร่าตา
เหมือนสาวไส้ให้กากิน....ความในห้ามออก ความนอกห้ามเข้า.....
ก็ เอาเป็นว่า....มาบรรจงลงทางนี้...น่าจะดีกว่าน่ะๆๆ จริงไหม๊....
ไม่เคยเห็นหน้า ไม่รู้จักชือ ไม่ทราบวงศ์นาม เหตุผลแค่นี้ มันดีพอ
ก็..เอากันแค่ ตัวอักษร...ที่คิดแล้ว...พิมพ์ลงกันมา ให้นั่งอ่านกัน.....
เพียงแค่นี้....มันก็อาจมีดี ที่จะต่อกำลังชีวิต ให้เดิน ก่าวกันต่อไป....

[ตอบ #14 เมื่อ:]

นึกว่าไม่มีใครอ่านแล้วนะครับ

บังเอิญเปิดมาเจอ ก็ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำ

หลายคนสงสัยว่าผมทนได้อย่างไรต้้งนาน

ผมอาจจะหัวโบราณไปหน่อยที่คิดว่าถ้าได้ผู้หญิงคนไหนแล้วก็คิดว่าควรอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต

แต่ฝ่ายผู้หญิงคงไม่ได้คิดแบบนั้นด้วย

เรื่องมันเลยสับสนอลเวงได้ขนาดนี้

เธอเป็นคนมีความต้องการสูง แล้วถูกพ่อแม่กดดันไม่ให้เจอผม

เธอก็เลยหันไปคว้าผู้ชายใกล้ตัวมาบำบัดความต้องการ

แต่ก็พยายามปิดผมไม่ให้รู้ว่ามีความสัมพันธ์ทางเพศกับเพื่อนร่วมงาน

แล้วก็ปิดเพื่อนร่วมงานว่ามีสามีและลูกหลายคนแล้ว

เรื่องมันเพิ่งมาแดงตอนที่เธอทะเลาะกับผมทางโทรศัพท์

แล้วใช้วิธีตั้งโปรแกรมไม่รับสายผม

ผมติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ก็เลยไปที่ศาล

ทีนี้ทุกฝ่ายก็เลยรู้กันหมดว่าอะไรเป็นอะไร

แน่นอนเธอโกรธมากเพราะสังคมไทยคงรับไม่ได้ที่

ผู้หญิงมีสามีและลูกแล้ว ยังไปมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเพื่อนร่วมงานอีก

ทุกวันนี้เรื่องก็ยังไม่จบ เธอเข้าไปโพสต์กระทู้กินเด็กอายุ 18-19

ในเว็บบอร์ด ความรักความสัมพันธ์ เมื่อเร็วๆนี้

เข้าใจว่าพวกผู้ชายที่ศาล หลังจากได้เธอไปแล้วก็คงทิ้งเธอไป

เพราะอายุเธอก็มากใกล้ๆจะห้าสิบแล้ว

เธอเลยหันมาคว้าเด็กหนุ่มๆที่ยังไม่รู้ประสีประสามาทดแทน

เวรกรรม...

[ตอบ #15 เมื่อ:]

ภรรยาของคุณ จากข้อความบอกเล่าถึงพฤติกรรมต่างๆ ที่เธอทำมา
แสดงว่าเธอมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง คิดแก้ไขปัญหาต่างๆ แบบขอไปที ไม่ยี่หระและไม่แคร์ใครมาตั้งแต่เด็ก
คงด้วยฐานะดี คุณพ่อ คุณแม่ ตามใจมาตลอด ขาดความรับผิดชอบที่จะมีต่อครอบครัว แม้กระทั่งตัวเอง
ไม่อยากแนะนำให้คุณเลิกกันหรอกครับ เพราะเธอต้องแค้นคุณแน่ หากไม่ทำอะไรตามใจของเธอ
เป็นห่วงก็เรื่องลูกทั้ง 3 ของคุณน่ะครับ คุณแม่เธอทำให้เขาประสาทหลอน จนไม่เข้าใจเรื่องของชีวิต
แต่จากการบอกเล่าของคุณ คิดว่าคงอีกไม่นาน เมื่อเธอเสียชื่อเสียงจากการที่เธอทำไว้กับตัวเอง
เธอคงไม่มีโอกาสได้กลับไปทำงานอย่างเดิมอีก เพราะทุกคนที่รู้เรื่อง คงรู้สึกรังเกียจ ไม่กล้ายุ่งเกี่ยว
ถามใจตนเองดีกว่าครับ คิดจะตอบโต้อะไรเธอบ้างไหม เวลาที่เธอแสดงความบ้าคลั่งออกมากับคุณ
อนาคตไม่มีอะไรจะบอกได้ว่า ชีวิตครอบครัวจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปไหม นอกจากจะหันหน้าเข้าหากัน
แก้ไขสิ่งต่างๆ ด้วยความเข้าใจกันให้ดีก่อน ก็ต้องทำใจไว้บ้างครับ กับพฤติกรรมของเธอ

[ตอบ #16 เมื่อ:]

ให้ยืมปืนเอาไหม ไม่ได้ให้เอาไปยิงแฟนนะให้ยิงตัวเอง เรียนก็สูง จบจิตวิทยาอีกต่างหากเรื่องแค่นี้ไม่รู้จักคิด

[ตอบ #17 เมื่อ:]

ส่วนตัวมองว่า ฝ่ายหญิงคงต้องทำเช่นนี้มานานเพราะดูเป็นมานานแล้ว และดูชื่นชมกับสิ่งที่เป้นอยู่ ที่นี้งานที่ทำนั้น เป้นทนาย ความเป็นนักกฏหมาย ดูจะไม่สนใจกับใครผู้ใด และคนเรียนกฏหมาย เป้นคนที่ไม่ค่อยยอมคนง่ายๆและมีจุดยืนของตัวเอง ดูเป้นเช่นนั้นเพราะรู้ลึก บางครั้งพฤติกรรมที่แสดงออกจึงเป้นพฤติกรรมเดิมที่ฝังใจมาตั้งแต่เดิมก่อนแล้ว อาจในห้วงเรียน ม.ด้วยซ้ำ และเรื่องเพศ ดูเป็นเพียงอาหารเสริมของเขา และเขาชอบจะเป้นเช่นนี้ด้วย คงมีบทสรุป ว่า ทนได้ ทนไป ทนไม่ได้ก็เลิกกันเสีย น่าจะเป้นเช่นนั้น และเชื่อว่า ส่วนอื่นเขาคงมีส่วนดีมากกว่านี้ แต่เราได้รับฟังเฉพาะด้านลบ สามีจึงยังทิ้งไม่ได้นั่นเอง หรือท่านผู้อ่านเห็นต่างอย่างไร ช่วยวิพากษ์ต่อยอดด้วย นะคะ

[ตอบ #18 เมื่อ:]

อืม...ต้องยอมรับว่า อ่านเคสนี้แล้ว รู้สึก ทั้ง ชื่นชม และ ทำให้ตระหนักได้ในหลายๆอย่าง
ที่บอกว่าชื่นชมก็คือ การที่คุณได้พยายามทำตัวเป็นสามีที่ดี อย่างที่สุดแล้ว
ดิฉันไม่แปลกใจที่ใครอ่านเรื่องราวของคุณแล้วจะอดคิดไม่ได้ว่า คุณดูเหมือนผู้ชายโง่ๆ หรือ ซื่อบื้อ
และจนถึงขนาดนี้แล้ว รู้ความจริงหมดแล้ว ตัวคุณก็ยังใช้สำนวนการเล่าที่ยังไม่ดูเคร่งเครียดมากเท่าไหร่
คุณคง "รักเธอ" มาก
พอๆ กับที่ "เจ็บปวด" มากเช่นกัน

สำหรับเรื่องของภรรยาคุณ ดิฉันไม่มีอะไรจะวิเคราะห์ไปมากกว่านี้แล้ว
เพราะที่คุณเล่ามามันชัดเจนหมด

และดิฉันกลับสงสารเธอด้วยซ้ำ ที่ชีวิตมีวิบากกรรม...ได้มากขนาดนี้
เดาได้เลยว่า ชาติก่อนๆเธอคงทำกรรมเรื่อง ศีลข้อ 3 มามาก
จึงไม่สามารถหลุดพ้น บ่วงกรรมเหล่านี้ได้
มันเริ่มตั้งแต่
แต่งงานกัน แล้วก็ทะเลาะ ทำร้ายสามี
โดนข่มขืน
ไปมีชู้
มีความต้องการสูง
ครอบครัวไม่มีความสุขอย่างสม่ำเสมอราบรื่น

และประเด็นสำคัญคือ ภรรยาคุณมี "มิจฉาทิฐิ" ค่อนข้างสูง
สูงขนาดที่ว่า ไม่สามารถแยกแยะการกระทำใด ถูก-ผิด ศีลธรรมได้
และยังขาด หิริโอตัปปะ
เธอมีกรรมหนักมาก
น่าเสียดาย ตอนที่เธอไปปฏิบัติธรรมแล้วกลับมากราบเท้าคุณ
ตอนนั้นเธอ เหมือนกำลังพบทางสว่าง
อย่างที่มีคำกล่าวว่า "ใครได้พบธรรมะ ผู้นั้นได้พบทางแห่งแสงสว่าง"

แต่กรรมเธอก็มาตัดรอน ทำให้เธอต้องวนเขาวัฎจักรเดิมในเรื่องของกาเม
เพราะเธอเป็นคนมีจิตใจที่ไม่นิ่ง
อ่อนไหวไปตามสภาพแวดล้อม เพราะกรรมเก่าที่มักมากในกามคุณ
ทำให้เธอเมื่อเจอของที่ชอบ ที่ปราถนามาแต่ก่อนแล้ว ก็มักจะติดได้ง่าย เหมือน ไฟเจอเชื้อ ยังไงยังงั้น

อายุเธอก็ไม่ใช่น้อยแล้ว จะ 50 อีกไม่นาน คุณทั้งคู่อายุมากจริงๆ ดิฉันเองยังอายุแค่ 27 ปีเอง
รู้สึกละอายใจเล็กน้่อยที่ต้องมาแนะนำคนรุ่นพ่อแม่

แต่ขอให้คิดเสียว่าเป็นคำแนะนำเพื่อเพื่อนมนุษย์
ถ้าให้ดิฉันเดา จากที่อ่านมาคุณเอง ทำให้ดิฉันคิดว่าคุณไม่่ได้อยากจะทอดทิ้งเธอเลย
กรรมคุณกับเธอคงยังไม่จบ ถ้าจบคุณจะได้ไปในที่ที่เหมาะสมกว่านี้
ก็ขอให้ยอมรับชะตากรรมต่อไป

อายุคุณปาไปขนาดนี้แล้ว ขอให้หันเข้าทางธรรมให้มากๆ
เธอไม่สามารถหยุดได้ คุณก็ต้องหยุดตัวเอง
แนะนำให้หัดไปปฏิบัติธรรมให้มากๆ คนมีฐานะอย่างเช่นคุณ น่าจะหาเวลาไปไม่อยาก
ถ้าคุณคิดจะอยากแก้ปัญหาจริงๆ คุณต้องทำ

คุณอาจจะ งง ว่าทำไมฉันแนะให้คุณทำ
ทำไมไม่เป็นภรรยา ทั้งๆที่เธอก่อเรื่อง
นั้นเป็นเพราะว่า อย่างที่บอก เธอมี มิจฉาทิฐิสูง
กว่าเธอจะคิดได้ ก็อาจจะสายไปเสียแล้ว
ถ้าคุณยังรักและเป็นห่วงเธอจริงๆ
ขอให้ไปทำ
แล้วพวกลูกๆ ถ้าเมียจะสอนให้เกลียดพ่อแม่ แล้วเขายังวิเคราะห์เองไม่ได้ว่าอะไรถูก-ผิด
ก็ขอให้ปล่อยวาง
คุณแค่ปฏิบัติตัวให้เขาเห็นก็พอ

แล้วอีกอย่าง เลิกให้เมีย ลากไป ลากมา ได้แล้ว
คุณไม่ได้โง่หรอกนะ แต่คุณซื่อเกินไป
ควรดึงความเป็นผู้นำออกมาให้มากกว่านี้
จงมีจุดยืนเป็นของตัวเอง

เวลาไปปฏิบัติธรรมก็ขอให้คุณ "แผ่เมตตาให้ภรรยาคุณ" ให้มากๆ
ทำไปเรื่อยๆ เชื่อเถอะว่า ถึงเธอจะไม่ดีขึ้น แต่คุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
ในโลกใบนี้ มันเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง มีเกิดก็ต้องมีดับ เป็นของคู่กัน
ดังนั้นอีกไม่นาน เรื่องเหล่านี้มันก็จะจบไป

โชคดีค่ะ

[ตอบ #19 เมื่อ:]

สงสารลูกคุณน่ะ
แต่งกันมานานขนาดนี้ ลูกน่าจะโตมากแล้ว
เจอพ่อไม่กล้าตัดสินใจ เจอแม่เอาแต่อารมณ์
ตัดหางปล่อยวัดตัวแม่ได้แล้ว
ห่วงแต่ตอนนี้ ลูกๆจะเป็นอะไรไปบ้างแล้ว

ตัดสินใจบ้างนะครับ
ผมอายุไล่ๆ กับคุณนี่วแหละ

[ตอบ #20 เมื่อ:]

เห็นใจเจ้าของกระทู้
แต่ขำ zeroman อ่านยังไงเข้าใจผิดเป็นคนละเรื่อง
คนที่เรียนจิตวิทยาเป็นภรรยาไม่ใช่หรือครับ
เจ้าของกระทู้ไม่ได้บอกตัวเองจบอะไรนี่นา

[ตอบ #21 เมื่อ:]

พกรูปเมีย

สมบูรณ์เป็นอีกคนหนึ่งที่พกรูปถ่ายของภรรยาติดกระเป๋าสตางค์ไว้เสมอ แม้ว่าภรรยาของเขาจะเสียชีวิตไปนานแล้ว ทุกครั้งที่สมบูรณ์ประสบกับปัญหา สมบูรณ์จะหยิบภาพถ่ายออกมาดูและเขาก็ผ่านพ้นปัญหานั้นไปได้เสมอ ไม่ว่าสมบูรณ์จะเจออุปสรรคมากมายขนาดไหน

จนวันนี้ สมบูรณ์ก้าวสู่ความสำเร็จจนได้รับรางวัลบุคคลสู้ชีวิตแห่งปี ซึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ผ่านอุปสรรคอัยเลวร้ายต่างๆมาได้ ก็เพราะพกภาพถ่ายของภรรยาติดตัวไว้ตลอดเวลา ใครๆที่ได้ยินต่างก็พากันชื่นชมในตัวสมบูรณ์ เมื่อสมบูรณ์กลับถึงบ้าน เขาควักรูปถ่ายของภรรยาออกมาดูอีก แล้วรำพึงรำพันกับภาพถ่ายว่า

"ทุกครั้งที่ท้อแท้สิ้นหวัง ก็มีภาพถ่ายของเธอนี่แหล่ะ ที่ทำให้ได้ระลึกอยู่เสมอว่า ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่าตอนที่อยู่กับเธออีกแล้ว"

จาก MAXIM April 2010.

เอามาฝากเจ้าของกระทู้ อย่าซีเรียสนะครับ พอขำๆ
จงสู้ต่อไป ทาเคชิ

[ตอบ #22 เมื่อ:]

โห คห 21

แรงสสสส์...

[ตอบ #23 เมื่อ:]

เรื่องนี้น่าสนใจ
เลยตามไปดู มีตัวบุคคลตามในเหตุการณ์จริง
รูปร่างหน้าตาสวยมาก ขาวอวบ หุ่นดี หน้าอ่อนเหมือนคนอายุแค่สามสิบ ท่าทางเรียบร้อยมากๆ สวยกว่าดาราดังๆเสียอีก
แต่คงทำกรรมเวรเอาไว้มากชีวิตเลยลงเอยไม่ดี
เห็นว่าโดนลูกความคดีอาญาสนองคุณให้จนต้องเป็นสามีภรรยากันอย่างลับๆ
ล่าสุดก็โดนลูกความกลุ่มนึงใช้ยุทธการ ปิดประตู ทุบหม้อข้าว ตีเมืองจนแตกแหลกเละเทะหมดราคาไปแล้ว

[ตอบ #24 เมื่อ:]

ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ สุภาสิตโบราณนี้ยังคงใช้ได้ดีถึงปัจจุบัน คนดีเกินไปมักถูกเอาเปรียบ พอไม่ให้เอาเปรียบก็หาว่าเหลี่ยมจัด เลิกเสียเถอะครับเอาไปทำปุ๋ยดินยังเสียเลยครับ สงสารลูกด้วยครับ

[ตอบ #25 เมื่อ:]

คุณคงเป้นคนดีมากเกินไปมั้งคะ
เลยต้องเจ็บแบบนี้
แต่สำหรับฉัน ฉันคิดว่าในโลกนี้คงมีคนดีแบบคุณน้อยมาก ฉันนับถือคุณเลยค่ะ
ถ้าคุณรักเอมาก และคุณคิดว่าเธอคือคนที่ใช่สำหรับคุณแล้ว ฉันก็ขอให้คุณมีความสุขกับคนที่คุณรักละกันคะ
แต่ถ้าคุณคุณคิดว่าเธอไม่ใช่ ก็ตัดใจเถอะคะ หันมาดุแลลูกๆๆของคุณให้เค้าเป็นคนดีเถอะคะ

[ตอบ #26 เมื่อ:]

จากความเห็น #24
ดูท่าจะรู้จักคนในครอบครัวนี้ดีทีเดียว

[ตอบ #27 เมื่อ:]

สงสัยอยู่อย่างหนึ่ง.......แล้วเอามา เล่าทำไม

[ตอบ #28 เมื่อ:]

นี่ถ้าเป็นบางประเทศ
ผู้หญิงที่ทำแบบนี้ต้องถูกลงโทษประหารชีวิต
ด้วยการปาก้อนหินจนกว่าจะขาดใจตาย

[ตอบ #29 เมื่อ:]

อ่าน แล้วน่าสงสัย มันอาจมีอะไรมากกว่านั้น คุณคนเขียนอาจปิดบังอะไรบางอย่างไว้หรือเปล่า นี่เป็นเพียงฟังความข้างเดียว ผมมีสามีภรรยาอยู่ข้างบ้านตัวสามีถูกด่าสาดเสียเทเสียทุกวัน และภรรยาก็มีคนนั้นคนนี้มาพัวพัน โดยเน้นเรื่องผลประโยชน์ด้วย แต่สามีก็ไม่เลิกเพราะไม่สามารถไปใหนได้ ก็เพราะต้องพึ่งภรรยานั่นเอง

[ตอบ #30 เมื่อ:]

แค่เล่าเรื่องเพื่อระบายความคับข้องใจน่ะดีแล้ว
อย่าถึงบันดาลโทสะไปลงไม้ลงมือกัน
เรื่องแบบนี้มันเป็นไม่เข้าใครออกใคร
เคยมีระดับ ผกก ไปพัวพันกับเมียเสี่ยคนนึง
ขนาดเอาลูกน้องไปเป็นเพื่อนตั้งสามคน
อาเสี่ยแกมาดักรออยู่ พอเจอตัวก็สาดกระสุนใส่ไม่ยั้ง
ผกก กับ ลูกน้องระดับประทวนอีกสองนายตายทันที
ผู้กองอีกคนไม่ตายแต่พิการท่อนล่างมาจนถึงทุกวันนี้
มาออกรายการทีวีกับภรรยาน่าสงสาร
แต่ก็ไม่ได้บำเหน็จบำนาญอะไรเพราะไปในกิจส่วนตัว
ทุกวันนี้ภรรยาสาวอดีตนิสิตจุฬาต้องทำงานหาเงินเลี้ยงสามีอดีตผู้กอง
ที่พิการเพราะตามนายไปจีบเมียชาวบ้าน

[ตอบ #31 เมื่อ:]

อืม...ต้องยอมรับว่า อ่านเคสนี้แล้ว รู้สึก ทั้ง ชื่นชม และ ทำให้ตระหนักได้ในหลายๆอย่าง
ที่บอกว่าชื่นชมก็คือ การที่คุณได้พยายามทำตัวเป็นสามีที่ดี อย่างที่สุดแล้ว
ดิฉันไม่แปลกใจที่ใครอ่านเรื่องราวของคุณแล้วจะอดคิดไม่ได้ว่า คุณดูเหมือนผู้ชายโง่ๆ หรือ ซื่อบื้อ
และจนถึงขนาดนี้แล้ว รู้ความจริงหมดแล้ว ตัวคุณก็ยังใช้สำนวนการเล่าที่ยังไม่ดูเคร่งเครียดมากเท่าไหร่
คุณคง "รักเธอ" มาก
พอๆ กับที่ "เจ็บปวด" มากเช่นกัน

สำหรับเรื่องของภรรยาคุณ ดิฉันไม่มีอะไรจะวิเคราะห์ไปมากกว่านี้แล้ว
เพราะที่คุณเล่ามามันชัดเจนหมด

และดิฉันกลับสงสารเธอด้วยซ้ำ ที่ชีวิตมีวิบากกรรม...ได้มากขนาดนี้
เดาได้เลยว่า ชาติก่อนๆเธอคงทำกรรมเรื่อง ศีลข้อ 3 มามาก
จึงไม่สามารถหลุดพ้น บ่วงกรรมเหล่านี้ได้
มันเริ่มตั้งแต่
แต่งงานกัน แล้วก็ทะเลาะ ทำร้ายสามี
โดนข่มขืน
ไปมีชู้
มีความต้องการสูง
ครอบครัวไม่มีความสุขอย่างสม่ำเสมอราบรื่น

และประเด็นสำคัญคือ ภรรยาคุณมี "มิจฉาทิฐิ" ค่อนข้างสูง
สูงขนาดที่ว่า ไม่สามารถแยกแยะการกระทำใด ถูก-ผิด ศีลธรรมได้
และยังขาด หิริโอตัปปะ
เธอมีกรรมหนักมาก
น่าเสียดาย ตอนที่เธอไปปฏิบัติธรรมแล้วกลับมากราบเท้าคุณ
ตอนนั้นเธอ เหมือนกำลังพบทางสว่าง
อย่างที่มีคำกล่าวว่า "ใครได้พบธรรมะ ผู้นั้นได้พบทางแห่งแสงสว่าง"

แต่กรรมเธอก็มาตัดรอน ทำให้เธอต้องวนเขาวัฎจักรเดิมในเรื่องของกาเม
เพราะเธอเป็นคนมีจิตใจที่ไม่นิ่ง
อ่อนไหวไปตามสภาพแวดล้อม เพราะกรรมเก่าที่มักมากในกามคุณ
ทำให้เธอเมื่อเจอของที่ชอบ ที่ปราถนามาแต่ก่อนแล้ว ก็มักจะติดได้ง่าย เหมือน ไฟเจอเชื้อ ยังไงยังงั้น

อายุเธอก็ไม่ใช่น้อยแล้ว จะ 50 อีกไม่นาน คุณทั้งคู่อายุมากจริงๆ ดิฉันเองยังอายุแค่ 27 ปีเอง
รู้สึกละอายใจเล็กน้่อยที่ต้องมาแนะนำคนรุ่นพ่อแม่

แต่ขอให้คิดเสียว่าเป็นคำแนะนำเพื่อเพื่อนมนุษย์
ถ้าให้ดิฉันเดา จากที่อ่านมาคุณเอง ทำให้ดิฉันคิดว่าคุณไม่่ได้อยากจะทอดทิ้งเธอเลย
กรรมคุณกับเธอคงยังไม่จบ ถ้าจบคุณจะได้ไปในที่ที่เหมาะสมกว่านี้
ก็ขอให้ยอมรับชะตากรรมต่อไป

อายุคุณปาไปขนาดนี้แล้ว ขอให้หันเข้าทางธรรมให้มากๆ
เธอไม่สามารถหยุดได้ คุณก็ต้องหยุดตัวเอง
แนะนำให้หัดไปปฏิบัติธรรมให้มากๆ คนมีฐานะอย่างเช่นคุณ น่าจะหาเวลาไปไม่อยาก
ถ้าคุณคิดจะอยากแก้ปัญหาจริงๆ คุณต้องทำ

คุณอาจจะ งง ว่าทำไมฉันแนะให้คุณทำ
ทำไมไม่เป็นภรรยา ทั้งๆที่เธอก่อเรื่อง
นั้นเป็นเพราะว่า อย่างที่บอก เธอมี มิจฉาทิฐิสูง
กว่าเธอจะคิดได้ ก็อาจจะสายไปเสียแล้ว
ถ้าคุณยังรักและเป็นห่วงเธอจริงๆ
ขอให้ไปทำ
แล้วพวกลูกๆ ถ้าเมียจะสอนให้เกลียดพ่อแม่ แล้วเขายังวิเคราะห์เองไม่ได้ว่าอะไรถูก-ผิด
ก็ขอให้ปล่อยวาง
คุณแค่ปฏิบัติตัวให้เขาเห็นก็พอ

แล้วอีกอย่าง เลิกให้เมีย ลากไป ลากมา ได้แล้ว
คุณไม่ได้โง่หรอกนะ แต่คุณซื่อเกินไป
ควรดึงความเป็นผู้นำออกมาให้มากกว่านี้
จงมีจุดยืนเป็นของตัวเอง

เวลาไปปฏิบัติธรรมก็ขอให้คุณ "แผ่เมตตาให้ภรรยาคุณ" ให้มากๆ
ทำไปเรื่อยๆ เชื่อเถอะว่า ถึงเธอจะไม่ดีขึ้น แต่คุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
ในโลกใบนี้ มันเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง มีเกิดก็ต้องมีดับ เป็นของคู่กัน
ดังนั้นอีกไม่นาน เรื่องเหล่านี้มันก็จะจบไป

โชคดีค่ะ

อ่านแล้วฮา...ครับ

เลิกให้เมีย ลากไป ลากมา ได้แล้ว

ยังดีนะไม่บอกว่า จูงจมูก กร๊าก... :)))

[ตอบ #32 เมื่อ:]

ปรกติถ้าเป็นข้าราชการมีเรื่องชู้สาวแบบนี้ มีโทษทางวินัยถึงให้ออกโดยไม่มีบำเหน็จบำนาญ
แล้วคนที่เป็นทนายความมาเป็นชู้สาวกันเองแบบนี้ สภาทนายความไม่เพิกถอนใบอนุญาตว่าความหรอกรึ

[ตอบ #33 เมื่อ:]

เรื่องบังเอิญอย่างบัดซบ
เมื่อ: 29 พ.ค. 10, 02:03 น

ผมกับแฟน ได้รับการแนะนำผ่านเพื่อนของพี่สาว เค้าดูเรียบร้อย ติ๋ม ๆ เค้าทำงานกับบริษัทต่างชาติ ประจำที่ประเทศเวียดนาม
ผมเป็นนักบิน รู้จักกันได้ซัก สองเดือน ผมก็ไปเยี่ยมเขาที่เวียดนาม ผมแกล้งลองใจเค้า ขอพักที่อพาร์ทเม้นท์เค้า เค้าก็ไม่ให้ครับ ผมก็รู้สึกดี ก็ไปพักที่โรงแรมแทน เราก็เที่ยวกันในเมือง หาที่กินข้าว แค่นั้น
เราก็คบกันมาจนประมาณเดือนที่ห้าได้ ผมรู้สึกค่อนข้างมั่นใจว่าคนนี้จะเป็นตัวจริง
วันหนึ่งเพื่อนที่เป็นชาวเวียดนาม รู้จักกันตอนเรียนต่างประเทศ มันกลับมาทำโปรเจ็คท์ที่เวียดนาม ได้ประมาณปีกว่าแล้ว วันหนึ่งมันก็นัดผมให้มาเที่ยวบ้านมัน ผมไม่ได้บอกแฟนผม ก็นัดเพื่อนผมไปคอฟฟี่ช็อปในโฮจิิมินท์ มีเพื่อนฝรั่งมาจากนิวซีแลนด์อีกคน ไปด้วยกัน
คืนแรกที่เจอกัน มันเล่าว่ามันเดทกับหญิงไทยคนนึง ไม่ค่อยสวย แต่ดูดี หน้าที่การงานดีด้วย มันจะแนะนำให้ผมรู้จัก ผมก็แกล้งแซวว่า ตัวจริงหรือเปล่า มันบอกยังไม่รู้ ผมเลยถามว่าคบกันซีเรียสขนาดไหน มันบอก ก็เข้าห้องนอนเค้าได้แล้วล่ะ ผมก็ขำ ๆ บอกว่า หญิงไทยส่วนใหญ่ ไม่ค่อยง่าย มันบอกว่า ใช่ คนนี้ ดูข้างนอกก็ถือตัว แต่มันลองชวนไปที่ห้องมัน เค้าก็ไป มันก็เลย เอาดีีวีดี ไปขอดูที่ห้องหญิงบ้าง เธอก็ให้เข้าไปในห้อง มันก็เลยกล้ารวบรัด แถมยังดันเล่าอีกว่า เธอไ่ม่ซิงหรอก แต่มันก็ไม่ถือ นี่ก็เดทกันมาจะครบปีแล้ว แต่มันก็คบคนอื่นไปด้วยครับ
คืนนั้นผมลองโทรหาแฟนผม แต่เค้าปิดโทรศัพท์ ตอนเช้าผม skype ไปหา เค้าบอกยุ่งอยู่ และจะต้องประชุมถึงเย็น ผมเลยไม่ได้บอกว่าผมมาเวียดนาม ผมก็ไปเที่ยวแทน
ตอนเย็น เพื่อนมันก็มาฉกตัวที่โรงแรม บอกจะพาไปคาราโอเกะ จะพาแฟนมาแนะนำด้วย ผมก็บอกมันไปว่า แฟนผมก็อยู่ที่โฮจิมินท์ แต่่ท่าทางจะงานยุ่ง ผมเห็นใจเพื่อนนิวซีแลนด์ ไม่มีแฟน ก็เลยตัดสินใจว่าจะไม่บอกแฟน
เย็นนั้นที่คาราโอเกะ ประมาณสองทุ่ม ผมกับเพื่อนฝรั่งรอที่คาราโอเกะ เพื่อนเวียดนามซิ่งมอไซค์ไปรับแฟนมัน ผมตื่นเต้นนิด ๆ เพราะเป็นหญิงไทย
แล้วเค้าก็มาถึงคาราโอเกะ ผมมองจากชั้นบน เห็นผู้หญิงใส่เสื้อแขนกุด กางเกงขายาว ดูดี ซ้อนมอไซค์เพื่อนผม เธอกอดเอวคนขี่แนบสนิท ผมแอบคิดในใจว่า เปรี้ยวไม่เบา
เธอถอดหมวกกันน็อคออก แต่ผมไม่ทันดูต่อ หันมาคุยกับเพื่อนฝรั่งว่า มากันแล้ว
แล้วประตูก็เปิด ผมเห็นแฟนเพื่อนผมอย่างชัดเจน
..คนเดียวกับคนที่ผมคิดว่าเธอเป็นแฟนผมครับ ผมอึ้ง คิดว่าหน้าคงเหวอมากก เธอก็ดูงง หรือตกใจไม่ทราบ
เพื่อนเวียดนามมันก็โอบเอวอย่าสนิทสนม แล้วแนะนำตัวแฟนมัน แต่มันพูดว่า She's my friend ไม่พูดว่า girlfriend
เธอถามผมว่า มาได้ไงเนี่ย ไม่เห็นบอกกันเลย (หน้าเหมือนสงสัยจริง ๆ) เพื่อนฝรั่งก็ชมกับเวียดนามว่า แฟนยูน่ารักดี เธอหันมาบอกผมเป็นภาษาไทยว่า ไม่ใช่แฟนนะ แค่เพื่อนกัน เค้าเคยช่วยหาลูกน้องให้เธอ ก็เลยคุยกันบ่อย
เพื่อนสองคนไม่เข้าใจหรอกครับว่าผมกับเธอพูดอะไรกัน แต่ผมรู้สึกจุกมาก เลยนั่งลง เธอก็นั่งใกล้ ๆ แต่เพื่อนเวียดนามนั่งเบียดอีกข้างของเธอ เธอทำเป็นขยับห่าง ผมไม่พูดอะไรอีกเลย รู้สึกเหมือนถูกทุบหัว
เธอก็ไม่ค่อยพูด คุณเวียดเพื่อนผมพูดแกมตลกว่า she's not talkative but don't worry. เธอก็ยิ้ม
ผมทนได้แค่ครึ่งชั่วโมงก็ขอตัวกลับ บอกเพื่อนว่าปวดท้อง ขอไปพัก เธอถามผมว่า พักที่ไหน ผมบอกไปเป็นภาษาไทยแล้วก็กลับเลย
คืนนั้น เพื่อนฝรั่งกลับโรงแรมประมาณห้าทุ่ มันบอกว่าหลังจากผมกลับ ก็ไม่ค่อยสนุก เพื่อนเวียดนามเลยชวนไปดูดีวีดีที่ห้องมันแต่แฟนมันอยากกลับ มันก็เลยไปส่งเธอ
ตอนเช้า เธอมาหาผมที่โรงแรม ผมลงมาหาเธอที่ล็อบบี้ เธอทำเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ ยังถามอีกว่า ตอนเย็นไปทำอะไรกินที่อพาร์ทเม้นท์เธอไหม ผมไม่อยากเชื่อเลย เพราะเธอดูไม่ใช่คนสำส่อน หรือปล่อยตัว แต่ผมก็ไม่สามารถเชื่อว่าเธอไม่มีอะไรกับเพื่อนผม ผมไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอ แต่รู้สึกจุกตลอดเวลา เลยบอกเธอว่า ผมจะกลับเย็นนั้นเลย และขอตัวไปนอนต่อ เพราะยังเพลียอยู่ เธอก็ไปทำงาน แต่ทำเป็นห่วงผม
เชื่อไหมครับ อีกสองอาทิตย์ต่อมา เธอกลับมาเมืองไทย เธอกับเพื่อนพี่สาวผม นัดพี่สาวผมทานข้าว ผมยังไม่ได้อัพเดทพี่สาว และก็ไปทานข้าวด้วย เพื่อนพี่สาวแซวว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน สามสิบสามแล้ว เธอทำเป็นเขินนิด ๆ แล้วไม่พูดอะไร ยังดูดีเหมือนเดิม แต่ผมทนไม่ไหว และรับไม่ได้ ถึงผมจะรู้สึกรักเธอไปแล้ว แต่ผมรังเกียจการกระทำของเธอมากครับ ผมเลยขอตัวออกมาโทรศัพท์ และกลับบ้านก่อน พี่สาวก็โวยวาย
ตอนนี้ ผมยังไม่ได้เล่าให้พี่สาวฟัง แต่ความรู้สึกของผม ผมอยากกระชากหน้ากากเธอมาก ทั้งหวง และโกรธเมื่อนึกว่าเธอปล่อยตัวกับผู้ชายคนอื่น แต่ทำเป็นคบกับผม
ผมยังไม่รู้จะจัดการยังไง แต่เลิกแน่นอน ตอนนี้ไม่ได้บินมาสองอาทิตย์แล้วครับ จิตใจมันไม่นิ่ง ผมเลยขอหยุด

เล่ามายาว เพราะอัดอั้นมากครับ ผมจะทำยังไงให้เธอสำนึกดีครับ เธอยังทำเหมือนเป็นแฟนผม เธอแสดงเก่งมากนะครับ

[ตอบ #34 เมื่อ:]

เรื่องบังเอิญอย่างบัดซบ
ตอบ #13 เมื่อ: 30 พ.ค. 10, 07:59 น


ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ

ทั้งท่านที่เตือนสติ และที่ให้คำแนะนำ

ผมรู้สึกเหมือนคุณ temto ครับ ถ้ารู้สึกรัก เราก็ไม่อยากทำร้าย และผมให้เกียรติเค้ามาก
เธอเป็นคนแรก ที่ผมรู้สึกอยากใช้ชีวิตด้วย ในชีวิต มีหลายคนที่ผมสนใจ และเคยดู ดู แต่ไม่เคยรู้สึกผูกพันกับคนไหนเลย จนเคยบอกที่บ้านว่าผมคงไม่แต่งงานแล้ว จนกระทั่งรู้จักเธอ แรก ๆ ผมว่าเธอดูจืด ๆ แต่เจอกันหลายครั้งกลับรู้สึกผูกพัน และรักเธอ ผมไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนเจ้าชู้ หรือจะปล่อยตัว

เท่าที่คิดกลับไป กลับมา ผมรู้สึกเหมือนถูกหลอก หรือเป็นตัวเลือก ทั้ง ๆ ที่เราได้คุยกันว่าเราจะคบกันจริงจัง และหวังจะสร้างครอบครัวด้วยกัน ที่สำคัญ เธอก็รู้จักพี่สาวผม เป็นคนที่ครอบครัวผมให้เกียรติ
ตั้งแต่ผมคบเธอ ผมไม่เคยคุยเล่นกับผู้หญิงอื่น ทำนองจีบ หรือสร้างความหวังเลย เพราะผมไม่อยากให้ใครเสียเวลา หรือเสียใจกับผม

หลังจากเหตุการณ์นี้ เพื่อนเวียดนาม ยังดันมาถามว่า แฟนมันดูดีไหม พอดีมันมีช้อยส์ 2-3 คน แต่เธอดูจะทุ่มเทให้มันมากที่สุด (ผมไม่เข้าใจ) เธอไม่ขี้หึง และเป็นคนที่ดูแลตัวเองได้ เธอเคยจะตามมันไปอเมริกาตอนมันกลับไปต่อพาสปอร์ต (ถือสัญชาติอเมริกัน) เธอยังโพสต์ในเฟซบุ๊คด้วยว่า จะไปบอสตันกับกิ๊ก ซึ่งผมลองเช็คดู ก็จริง (ตอนนั้นเราเพิ่งรู้จักกัน ยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟน) แถมมันยังเล่าอีกว่าโปรเจ็กท์ที่มันทำ กำลังจะหมดสัญญา มันอยากหางานในเอเชียทำ และคงจะตัดสินใจแต่งงาน มันเลยคุยกับเธอเรื่องมาแนะนำตัวกับครอบครัว มันพาเธอไปรู้จักญาติในเวียดนามแล้ว และรอจังหวะมาเมืองไทยเพื่อรู้จักครอบครัวเธอ ฯลฯ ดูจริงจังขนาดนั้น แต่มันตะขิดตะขวงใจนิดหนึ่งที่ (ผมก็ช็อคอีกครั้ง) เธอยังคบกับแฟนเก่าอีกคนหนึ่ง (อยู่ที่ประเทศไทย) ยังไปเที่ยวต่างประเทศกับคนนั้นหลายครั้ง เธอบอกเพื่อนผมว่า แค่เพื่อน แต่มันบอกว่า หมอนั่นเคยมาหาเธอที่โฮจิมินท์ และค้างที่อพาร์ทเม้นท์เธอ มันเจอกางเกงในผู้ชายตากในห้องน้ำเธอ มันเลยถามดู เธอก็บอกตรง ๆ ว่าของแฟนเก่า นี่คือเมื่อสอง สามเดือนที่ผ่านมานี่เองนะครับ (ถ้าคุณเห็นหน้าเธอ คุณจะไม่เชื่อว่าเธอจะเป็นแบบนี้)

เพื่อนผู้หญิงของผมหลายคน เปรี้ยวครับ ตามแบบคนสมัยใหม่ แต่ผมยังไม่เคยเจอใครที่ ดีลกับผู้ชายสองคนแบบจริงจังแบบนี้ บางคนมีกิ๊ก 4-5 คน แต่พวกเธอไม่เสแสร้งเป็นคนเรียบร้อย อยู่ในกรอบ และส่วนมากจะหยุดที่คนที่เธอจะจริงจังด้วยครับ แบบนี้ผมนับถือและคิดว่าเธอมีเกียรติ
และถ้าคนเรา ผมหมายถึงในความสัมพันธ์แบบนี้ เราไม่เสแสร้งเป็นคนละบุคลิกกับที่เราเป็น มันจะดีกว่า เราจะได้ไม่ต้องทำบาปกับใคร ผมเชื่อว่าผมไม่เคยทำบาปกับใคร เพราะหลายครั้ง มีผู้หญิงที่เปิดเผยว่าอยากคบผมเป็นแฟน ผมก็ดีลกับเขาตรง ๆ ว่าผมยังไม่รู้สึกแบบนั้น และผมให้เกียรติเค้าโดยไม่ยุ่งกับเค้า ส่วนใครที่ไม่ได้คิดจริงจัง แค่สนุก เราก็ดีลกันแบบนั้น

มันก็ยังมีเรื่องขำอยู่ คือเพื่อนพี่สาวผม เค้าพูดกับผมว่าให้รีบแต่งได้แล้วนะ เพราะพ่อ แม่ผู้หญิง เค้ากังวล กลัวผมไม่เอาจริง กลัวผมเจ้าชู้ เค้าหวงลูกสาว ผมเป็นแฟนคนแรกของลูกสาว (น่าเห็นใจครับ) ใคร ๆ ก็เห็นเธอเป็นกุลสตรี ผมก็เห็นแบบนี้ ผมเลยให้คุณค่าเค้าสูง ความรู้สึกเลยเหวี่ยงมาก ตอนเห็นอีกด้านหนึ่ง

ผมตัดสินใจแล้วครับ ผมต้องกลับไปทำงาน ผมไม่สามารถมีเรื่องกังวลในหัวได้เวลาทำงาน ผมจะเลิกกับเธอ ไม่จำเป็นต้องบอกใคร หรือเล่าให้ใครฟัง ผมได้ระบายส่วนที่อัดอั้นออกมาเต็มที่ ที่นี่แล้ว (เป็นพระคุณกับชีวิตผมมาก)
ผมไม่ได้หวังว่าจะได้หญิงพรหมจารีย์นะครับ แต่ผมหวังว่าจะได้คนที่ผมรัก และคนนั้นเป็นเพื่อนแท้ครับ ผมขอเป็นคนเดียวของเธอ เพราะผมจะให้เธอเป็นคนเดียวของผมเหมือนกัน
อายุ 33 แต่เพิ่งเข้าใจว่าอกหักเป็นยังไง ถึงคิดว่าเธอไม่ได้เป็นคนอย่างที่เราเข้าใจ แต่ความรู้สึกผูกพัน อาลัยอาวรณ์มันก็ยังอยู่ และรู้สึกเหมือนชีวิตมันไม่เต็ม มีส่วนสำคัญมันหายไป

ขอบคุณที่ให้ข้อคิด กำลังใจ ถึงจะไม่รู้จักกัน แต่ก็ได้เอื่้อเฟื้อกัน ขออวยพรให้ทุกท่านที่นี่ มีความสุขนะครับ

[ตอบ #35 เมื่อ:]

เรื่องบังเอิญอย่างบัดซบ
ตอบ #34 เมื่อ: 10 มิ.ย. 10, 01:31 น


เคยคบผู้หญิงคนนึง หน้าซื่อ ตาแป๋ว ไม่มีจริตมารยาใด ๆ เลย ดูเชยนิดนิดด้วยซ้ำ
แต่แร่ดลึกร้ายกาจมากกกก

เราไม่อยู่แค่สี่เดือน ไปฝึกงานต่างประเทศ ระหว่างนั้นก็คุยกันตลอดนะ เราคิดถึงหล่อนมาก รักมาก อยากกลับมาหา
พอกลับมาก็คุยเรื่องแต่งเลย

วันหนึ่งไปขอใช้คอมของหล่อน เจอรูปหล่อนไปเที่ยวกับผู้ชายคนนึง ที่ทะเล เธอใส่ชุดว่ายน้ำ แน่นอนว่าไม่โป๊ และเชยนิดหน่อย ตามคอนเซ็ปท์ แต่เธอ***นั่งตักคุณนั่น ซึ่งมันนุ่งกางเกงว่ายน้ำตัวเดียว พิงอกมัน ถือกล้องถ่ายรูปเอง หน้าชิดกันเชียว
พอถามเธอบอกเป็นเพื่อนเก่า เคยคบกันมาพักใหญ่ อะไรวะ เลยถามไปว่าเคยกะมันยัง เธอทำเป็นโกรธ เสียใจ ว่าเราดูถูก
เออ เราก็ทำใจอ่ะนะ

หลังจากนั้นไม่นาน เจอเพื่อนที่ทำงาน รู้จักหล่อนคนนี้ด้วย เล่าให้ฟังว่า หล่อนคนเนี้ย ไปกินข้าวกับผู้ชาย มีตักป้อนกัน มีจับมือกันด้วย เราไม่ค่อยอยากเชื่อ แต่ระแวงแล้ว ก็เลยถามเพื่อนว่ามันจำผิดหรือเปล่า *** มันโชว์รูปเลย ชัดมากกกก
แถมเป็นคนละคนกับคุณที่ไปเที่ยวทะเลด้วย

เหมือนถูกทุบหัว เธอไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก ไม่ค่อยพูดมาก ดูเรียบร้อย ซื่อ เป็นงี้ได้ไงวะ
วันหนึ่งเลยแอบดูเมล์ skype กับเอ็มของหล่อน โอ้โห เห็น ข้อความทั้งหลายแล้วกรูอยากจะถลกหนังหน้าคุณ

คุยกันหยั่งกับวัยรุ่นสิบสี่ ทั้งที่อายุสามสิบแล้วนะ สรุปเธอชอบให้คนจีบ ชอบคุยเฉพาะกับผู้ชาย ที่คุยประจำมี ห้า หกคน
ในนั้นมีนัดไปเที่ยวกันมาแล้วก็มี ไม่อยากนึกเลยว่ามันจะไปถึงไหนต่อไหน
ทั้งแค้น แต่ยังรักและเสียดาย เรายังไม่เคยล่วงเกินมันเลย แต่เท่าที่ประเมินดู มันคงถูกล่วงเกินมาหลายครั้งแล้วล่ะ
ก็เลยแกล้งคุยกับเหยื่อคนนึง แกล้งทำเป็นเธอ ชัวร์แล้ว มันเคยกันแล้วจริง ๆ ด้วย คุณหมอนั่นดูจะอยากได้อีก นัดใหญ่เลย แถมช่ัวกว่านั้นอีก มันถามว่าจะให้ส่งรูปยังไง เราก็แกล้งบอกว่าส่งที่เมล์นี้แหละ มันส่งมาสิบรูป มีถ่ายในห้องนอน ในโรงแรมที่ฮ่องกง สองต่อสอง แบบถือกล้องถ่ายเองเลย หน้าชิดอีกแล้ว ถึงไม่ได้แก้ผ้า แต่ก็จินตนาการได้นะ

รุ่งขึ้นเลยส่งรูปให้หล่อนดูแล้วบอกสิ่งที่คิด พร้อมบอกเลิก เธอทำหน้าเศร้าแบบคนซื่อ หาว่าเราอกุศล เธอแค่อยากมีเพื่อน (นอนมั้ง) ตอนนั้นเราไม่อยู่ มันเหงา อีเวร ขอด่าเลยนะ เราบอกมันว่า ก็ไปเลือกเอาซักคนที่บริการถึงใจไว้คบต่อละกัน กรูขอลาละ
ตั้งแต่นั้นมา ไม่เคยคิดว่าคนหน้าใสซื่อ มันจะเป็นอย่างนั้นจริงเลย
ตอนนี้เธอก็ยังไม่มีผัว แถมใคร ๆ ก็นึกว่าอียังโสด บริสุทธิ์ เนียนชิบเป๋ง แต่เราเห็นแล้วว่าหนอนไชเน่าหมดแล้ว แต่เธอก็มีหน้าที่การงานดีนะ แต่ไม่เสียดายเลยว่ะ ดีใจที่แคล้วคลาดมาได้
เป็นเพื่อนกันนะคุณนักบิน ไม่ต้องเสียเวลา เสียใจกับกากี และก็อย่าได้เสียศูนย์ เราไม่จำเป็นต้องเลวแข่งกับมัน คนดียังมีอยู่แหละ นี่ก็มอง ๆ อยู่สอง สาม คน ยังไม่กล้าเปิดตัว เปิดใจ ดูไปก่อน

[ตอบ #36 เมื่อ:]

ทำไมเวลาผู้ชายจับได้ว่าผู้หญิงมีชู้ ถึงชอบบอกว่า...เหมือนถูกทุบหัว
มันมึนมากเลยเหรอ...

[ตอบ #37 เมื่อ:]

นี่ถ้าเป็นบางประเทศ
ผู้หญิงที่ทำแบบนี้ต้องถูกลงโทษประหารชีวิต
ด้วยการปาก้อนหินจนกว่าจะขาดใจตาย

ถ้าเป็นบางศาสนาไม่ใช่แค่ภรรยาทีต้องถูกลงโทษนะ ชายชู้ก็ต้องโดนลงโทษให้ตายตกตามกันด้วย เมืองไทยน่าจะมีบทลงโทษที่เอาจริงเอาจังกว่านี้ คนจะได้เลิกสำส่อนกันเสียที

[ตอบ #38 เมื่อ:]

อ่านเรื่องนี้แล้ว สรุปว่าเป็นเรื่องทนายสาวแก่ไฟสวาทแรงสูงและบ้าอำนาจ อยากรู้จักบ้างเห็นว่า สวย ง่าย ฟรี และชอบจ่ายเงินให้ผู้ชาย ดีจังเลย

[ตอบ #39 เมื่อ:]

ผบก.น. สั่งตั้ง 4 ทีมล่าตัวรองสารวัตรปืนดุยิงกิ๊กดับ

จ.ส.อ.หญิงทหารสังกัดกองพลาธิการ กรมยุทธบริการทหารบก ถูกรองสารวัตรธุรการใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่คิ้วซ้ายนั่งหงายศีรษะเสียชีวิตอยู่บนเก้าอี้พลาสติกในชุดเครื่องแบบทหาร ต่อหน้าเพื่อนที่นั่งร่วมโต๊ะ ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดที่ร้านส้มตำข้างถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ใกล้สามแยกเตาปูน เมื่อกลางดึกวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

[ตอบ #40 เมื่อ:]

สาวแก่บ้าผู้ชาย...

[ตอบ #41 เมื่อ:]

อะไรไม่ว่าไปเสี้ยมสอนลูกให้เป็นไปด้วย อนาถ

[ตอบ #42 เมื่อ:]

เธอก็ใหญ่นะ ออกหมายจับผู้กำกับได้เนี่ย
แบบนี้พ่อค้ายาเสพติดคงลิงโลดดีใจตาย
ได้ทนายเก่งกาจขนาดนี้มาทำคดีให้
แต่สงสัยว่าทนายขอแรงทำไมมีคดีตั้งเป็นร้อยคดีในปีเดียว
มีผลประโยชน์ร่วมกับใครหรือเปล่า ฟังดูแปลกๆ
ปรกติทนายขอแรงจะได้ว่าคดีปีละไม่ถึงสิบคดีด้วยซ้ำ

[ตอบ #43 เมื่อ:]

[ตอบ #44 เมื่อ:]

อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าการศึกษาไม่ได้ช่วยอะไรเลย อุตส่าห์เรียนจนได้เกียรตินิยมจิตวิทยาทั้งจบนิติด้วย แต่การกระทำแย่มากเป็นคนบ้าอำนาจ ใช้ความรู้ทางกฎหมายไม่ถูกทาง และการไปคลุกคลีใกล้ชิดกับเหล่าอาชญากรเลยยิ่งไปกันใหญ่ทำตัวเหมือนมาเฟียไปด้วย ที่อ่านดูมีนักเลงในสังกัดอีกต่างหาก แถมนิสัยเดิมก็ดูเป็นผู้หญิงใจง่ายอยู่แล้วด้วย เลยยิ่งสนุกใหญ่ได้เข้าไปอยู่ในดงผู้ชายสมใจนึก งงว่าไปเรือนจำบ่อยๆทำไม ไปศาลทุกวันยังพอเข้าใจได้ว่าใช้ศาลเป็นที่พบปะกับชายชู้ซึ่งสามีคงไม่รู้ระแคะระคายหรืออาจนึกไม่ถึง แต่ไปเรือนจำเกือบทุกวันนี่ไปทำไม หล่อนจะไปพบใครที่นั่นด้วยหรือไง

[ไอค่อนข้อความ:]

	ปรากฎข้อผิดพลาดตังต่อไปนี้ขณะส่งข้อความนี้:
	คำเตือน: ความคิดเห็นนี้ถูกล็อกไว้! เฉพาะผู้ดูแลเท่านั้นที่ตอบได้
ชื่อ:
	แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:	ไอค่อนขณะนี้ กระทู้ทั่วไปเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย กระทู้สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กระทู้สำหรับเด็ก กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี กระทู้เฉพาะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน
	ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา ขนาดตัวอักษร เล็กมาก เล็ก ปกติ ใหญ่ ใหญ่มาก เปลี่ยนสี สีดำ/ขาว สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีม่วง สีนํ้าเงิน/ฟ้า สีเทา สีน้ำตาล สีเขียวฟ้า สีกรมท่า สีเลือดนก สีเหลืองอมเขียว
	[เพิ่มเติม]
	กลับไปกระทู้นี้ หลังจากการตั้งความคิดเห็น ไม่ใช้สัญลักษณ์แสดงอารมณ์
แนบไฟล์:	(แนบไฟล์เพิ่ม) ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ :	ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
	ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ: