หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: เมื่อคืน แฟนดิฉัน ไปตีหม้อมา  (อ่าน 20439 ครั้ง)
Guest
เสียใจ
เรทกระทู้
« เมื่อ: 2 มิ.ย. 10, 16:02 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

เราแต่งงานกันแล้วค่ะ แฟนอายุ 25 ปี ส่วนดิฉัน อายุ 24 ปี เมื่อคืนดิฉันเข้านอนตั้งแต่สี่ทุ่ม เพราะแฟนโทรมาบอกว่าจะมีผู้รับเหมาจะพาไปเลี้ยงข้าว ที่จริงดิฉันก็ไม่อยากให้ไปนัก เพราะแฟนเป็นคนกินเหล้าเก่ง ขับรถเร็วมาก (เป็นห่วง) แต่เค้าก็ชอบว่า เออเนี่ย ทีคนอื่นเค้าทำงานเหนื่อยๆ เค้าก็อยากไปสังสรรค์บ้าง ไรบ้าง ไปแค่นี้ไม่ได้หรือไง?? ดิฉันก็งอลๆ ไป แต่ก็ยังให้ไป พอสะดุ้งตื่นอีกที

03.00 เค้ายังไม่กลับ ดิฉันก็เลยโทรไปหา เค้าไม่รับสาย 4-5 ครั้ง ในใจเราก็นึกเป็นห่วงว่าทำไมถึงยังไม่กลับอีก เลยโทรไปหาพี่ที่ไปด้วยกัน 2 ครั้ง เค้าก็ไม่รับ อีกประมาณไม่ถึงนาที แฟนดิฉันโทรกลับมา บอกว่า กำลังจะกลับ แต่พี่ที่ทำงานเมามาก ต้องพาไปส่งบ้านก่อน ดิฉันก็เลยบอกว่าให้กลับมารับดิฉันก่อน จะไปด้วย แฟนก็บอกว่า มากินกันที่ร้านใกล้ๆบ้านพี่เค้า จะให้กลับไปรับที่บ้านอีกหรือไง ดิฉันก็เลยบอกว่าไม่ต้อง ไปส่งพี่เค้าก่อนก็ได้ ดิฉันก็รอจนแฟนกลับ
03.45 แฟนกลับถึงบ้าน ดิฉันก็เลยบอกให้ไปอาบน้ำ นอน ในใจดิฉันก็คิดไปต่างๆ นาๆ ว่าเค้าไปไหน ทำอะไรยังไง แต่ก็ไม่ได้อยากถามอะไรมาก
ก็เลยให้เข้านอน ตอนเช้าค่อยว่ากัน
04.00 - 04.45 ดิฉันเริ่มนอนไม่หลับ เลยว่าจะออกไปเปิดอินเตอร์เน็ตเล่น เห็นกระเป๋าตังแฟนวางอยู่ในใจไม่ได้คิดอะไรมาก พี่ๆน้องๆ คะ
ดิฉันเจอสลิปเซเว่น ซื้อถุงยางอนามัย ตอนเที่ยงคืน ใจดิฉันเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก เลยรีบปลุกแฟนขึ้นมาคุยกัน ตอนแรกแฟนบอกไม่ใช่ของเค้า ดิฉันก็เลยโมโห ถ้าไม่ใช่ของหมามั้ง มันมาอยู่ในกระเป๋าเนี่ย ดิฉันร้องไห้ เสียใจมาผม้สึกขยะแขยงอย่างบอกไม่ถูก ไม่คิดว่าแฟนจะทำถึงขนาดนี้ แฟนดิฉันเค้าก็มาคุกเข่าต่อหน้า ร้องไห้ เสียใจ บอกว่าผิดไปแล้ว ขอโอกาศอีกสักครั้งได้รึเปล่า... ตอนนี้ดิฉันจิตตก ไม่เป็นอันทำงาน ไม่ได้กินข้าวกินน้ำ ในใจนึกถึงแต่พ่อกับแม่ อยากกลับบ้านจัง

พี่ๆ น้องๆ คะ ดิฉันควรทำไงดี T^T

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 2 มิ.ย. 10, 16:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ยังดี..ที่ใช้ถุงยาง...เฮ่อออออออออออ q*025
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
เสียใจ
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 2 มิ.ย. 10, 16:29 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

แล้วดิฉัน ควรทำไงดีคะ ให้โอกาส ให้อภัย แต่ยังไงตอนนี้ก็ยังรับไม่ได้อยู่ เฮ้ออออ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 2 มิ.ย. 10, 16:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สัญนิษฐานว่า แฟนไปเที่ยวผู้หญิงตั้งแต่เวลา 24.45 หน่อยๆ เพราะ
กลับมามีแต่บิลซื้อที่ 7/11 ก็พอดีแหละเวลามาตรฐาน 3 ชม. พอ
03.45 ถึงบ้าน เผื่อเหลือเผื่อขาดเวลาเดินทาง นิดหน่อย

ที่แน่ๆ คือเค้าใช้หมดกล่องเลย 3 ชิ้น
อย่างน้อยก็ยังใช้ .. ดีกว่าไม่ใช้

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ผู้ชายคนหนึ่ง
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 2 มิ.ย. 10, 16:41 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

...เฮ่อออออออออออ q*00 คิดมากไปได้ q*027

เขาไม่ได้ไปมีเมียน้อยซะหน่อย q*012 แถมไม่ได้ติดเอดส์มาด้วย q*013

แฟนของคุณเค้าก็มาคุกเข่าต่อหน้า ร้องไห้ เสียใจ บอกว่าผิดไปแล้ว ขอโอกาสอีกสักครั้ง คุณก็ให้อภัยเขาซะสิครับ q*042

ทำใจสบายๆ เรื่องแค่นี้ q*033 ชิวล์ ชิวล์ q*043 คนเราก็ผิดกันได้ แค่หน้ามืดตามัวไปหน่อย q*002q*024


เขาไปเที่ยว ก็ยังดีกว่าไปมีเมียน้อย

มาแล้ว q*040ยังดีกว่ามาช้า

มาช้ายังดีกว่าไม่มา



เหลวไหลจริงๆเลย เหลวไหลทุกทีเลย
เหลวไหล จริง ๆ เลย เหลวไหลทุกทีเลย

เหลวไหล จริง ๆ เลย (โกรธจริงหรือเปล่า q*031)
เหลวไหล จริง ๆ เลย (อย่าเคืองฉันเลย q*039) q*012q*013q*042

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ผู้ชายคนหนึ่ง
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 2 มิ.ย. 10, 16:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
แล้วดิฉัน ควรทำไงดีคะ ให้โอกาส ให้อภัย แต่ยังไงตอนนี้ก็ยังรับไม่ได้อยู่ เฮ้ออออ

ชีวิตคือการลงทุน ตัวชีวิตคือต้นทุน สิ่งที่ได้มาหลังจากชีวิตคือกำไรทั้งหมด

การเกิดมาในโลกนี้ เหมือนการมาเที่ยว หรือไปเที่ยวต่างประเทศ, เราชื่นชมได้ทุกอย่างที่เห็น แต่เมื่อจะเดินทางกลับจะต้องวางทุกอย่างไว้ที่เดิม เพราะนั่นเป็นสมบัติของแผ่นดินนั้น เก็บเอาเพียงความสุข ความเบิกบานใจ ไปติดตัวกลับบ้านก็พอ ชีวิตในโลกนี้ มีทั้งกำไรที่เป็นสินทรัพย์และกำไรที่เป็นอริยทรัพย์ สินทรัพย์ที่เราทิ้งไว้ให้เป็นสมบัติของโลกต่อไป ให้คนอื่นชื่นชมด้วย หากเรามีโอกาสกลับมาเที่ยว (เกิดใหม่) อีก เราก็มีโอกาสได้ชื่นชมอีก อริยทรัพย์ คือ บุญ ความสุข ความเบิกบานใจ อิ่มใจ พอใจ เป็นสมบัติแท้ของเราตามเราไปได้ทุกแห่งหน

การลงทุนให้ได้กำไร คือ หัดทำความพอใจในสิ่งที่เรามี

ความโชคร้ายของมนุษย์ คือ การไม่รู้ว่าตนเองโชคดีทุกชีวิตล้วนมีภัย ภัยของชีวิตอาจเกิดขึ้นได้ทุกเสี้ยววินาที ภัยที่เกิดจากภายนอก ไม่ร้ายแรงเท่ากับภัยภายใน

ภัยที่ผู้อื่นสร้างขึ้น กระทบเรา น้อยกว่าภัยที่เราสร้างขึ้นเอง

คนรอบข้างบางคนทำผิดแล้ว กลับมานั่งเสียใจในภายหลังก็บ่อย ภัยทั้งหลายล้วนเป็นยาพิษ ที่ปลิดชีวิตจิตใจเราได้ทั้งสิ้น มนุษย์อื่นทำลายเรา ก็ทำได้เพียงขณะหนึ่ง แต่จิตที่ตั้งไว้ผิดจะทำลายเราข้ามภพชาติ ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงสอนเรื่อง “อภัยทาน” คือ การยกโทษ แสดงอโหสิกรรมต่อกัน

บางคนรักมาก หลงมาก ก็ปรารถนาให้รักเราคนเดียว
บางคนก็สาปส่งไม่ขอร่วมเดินทาง แต่ก็ไม่ยกโทษ
ในที่สุดผลของการไม่ยกโทษ คือไม่ยอมให้อภัย ก็เหมือนการผูกสิ่งที่เราไม่ชอบไว้ที่เอวตนเองตลอดเวลา

การให้อภัย จะทำให้เราสามารถยุติปัญหาต่าง ๆ ได้ เหมือนคนล้างแก้วน้ำสะอาด ทำให้เหมาะสมที่จะรองรับน้ำบริสุทธิ์ที่เทลงไปใหม่ เหมือนการโยนของที่เราไม่ชอบทิ้งเสีย โดยไม่ต้องเสียดาย
การให้อภัย คือการแสดงกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อภัยทานเวลาจะให้ ไม่ต้องไปขอใคร ไม่เหมือนใครมาขอเงินเรา เราต้องควักกระเป๋าให้ แต่ให้อภัย เราไม่ต้องหาจากไหน และไม่รู้สึกว่าเป็นการสูญเสีย

ขอให้เราภูมิใจ เมื่อมีใครมาขอโทษ เมื่อมีใครให้อภัยเรา หรือเมื่อสำนึกได้ว่า เราได้ทำอะไรผิดพลาดไป ก็ขอโทษกัน การขอโทษหรือการให้อภัย
มิใช่การเสียหน้า หรือเสียรู้ มิใช่การได้เปรียบเสียเปรียบแต่อย่างใด หากแต่เป็นการชำระใจให้สะอาด เหมือนภาชนะสกปรก ก็ชำระล้างให้สะอาด
จะคิดอย่างไรมิใช่ประเด็น แต่สำหรับเราผู้แสดงออกว่า เราให้อภัยในเรื่องนี้ต่อบุคคลผู้นี้แล้ว นั่นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสิ่งนั้นจะถูกบรรจุลงไปในเครื่องคอมพิวเตอร์คือจิตของเราทันที

ความ โกรธ เกลียด ความคิดเสียใจ น้อยใจ ทิฐิมานะ
เป็นต้น เป็นเสมือนเชื้อไวรัส

อภัยทาน คือ เครื่องมือแอนตี้ไวรัส ส่วนจิตของเรา เหมือนคอมพิวเตอร์


ในชีวิตที่เหลืออยู่นี้ อาจจะดูเหมือนยาว แต่มีใครบอกได้ว่าเราจะอยู่ได้ปลอดภัยถึงวันไหน q*031

เราต้องการความทรงจำที่เลวร้าย หรือต้องการความทรงจำที่ดีในชีวิต
เราต้องการนั่งนอนอย่างมีความสุข มีชีวิตอยู่ด้วยความอิ่มเอิบหรือต้องการมีชีวิตอยู่ด้วยการถอนหายใจ ด้วยความทุกข์และกังวลใจ สิ่งเหล่านี้ กำหนดได้ที่ตัวเราเอง กำหนดวิธีคิดให้ถูกต้อง
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ผู้ชายคนหนึ่ง
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 2 มิ.ย. 10, 17:03 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

การที่เราไม่ยอมให้อภัย เหมือนเราไม่ยอมล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกายเรา แม้เราจะไปที่ไหน สวมใส่เสื้อผ้าชิ้นใด งามเพียงไร ร่ายกายของเราก็ยังคงสกปรก และตามไปทุกหนทุกแห่งความงามของเรือนร่างที่ประดับด้วยเครื่องเพชร ด้วยเสื้อผ้า ก็ไม่อาจทำให้ร่างกายสะอาดได้ การให้อภัย เปรียบเหมือนการอาบน้ำชำระร่างกาย ข้อนี้ เปรียบเสมือนเมื่อเราไม่ให้อภัยใคร ใจเรายิ่งดิ่งอยู่กับคนนั้น และตัวเขาก็จะถูกผูกไว้กับความรู้สึกของเรา เหมือนความสกปรกของร่างกายที่ตามเราไปตลอดเวลา เพราะไม่ยอมชำระล้างให้สะอาด

การตอบรับซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นความดี เป็นความรัก ความอบอุ่นก็ดีไป แต่ถ้าเป็นความเกลียด ความ โกรธ สิ่งที่จะตามมาคือการรับรู้และเก็บอารมณ์ทั้งโกรธและเกลียดนั้นไว้ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อรู้แล้วก็ควรสละอารมณ์นั้นด้วยตัวเราเองก่อน เพื่อป้องกันจิตเรามิให้เป็นทุกข์เพราะ คนนั้นเป็นเหตุ เราอาจคิดเสมือนหนึ่งเขาไม่ได้มีอยู่ในโลกนี้เลยก็ได้

การให้อภัยเขา คือคิดถึงเขาในฐานะเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย

ไม่สมควรจะไปยึดเป็นรักเป็นชังก็เมื่อแม้แต่รัก ท่านยังสอนให้เราละทิ้ง เพื่อมิให้ยึดติดแล้วทำไมเราจะยังมองเห็นโกรธ เป็นสิ่งที่จะต้องยึดมั่นอยู่ได้

การที่เราเห็นสิ่งผิดปกติในชีวิตเราบางครั้ง เช่น มีแต่เรื่องให้เกิดทุกข์ มีแต่คนทำให้ใจขุ่นมัว มีสามีไม่ดี ไม่สมประสงค์ทำให้เราต้องเก็บ มาคิดเสมอ ขอให้เราถือว่า นี่คือเศษเสี้ยวแห่งผลกรรมที่ติดอยู่ในความคิดตั้งแต่อดีตชาติ ซึ่งบัดนี้เผล็ดผล งอกงามออกมาอยู่ใกล้ตัวเราที่สุด

วิธีแก้คือ ต้องอภัยให้แก่ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่วินาทีนี้ทันที เพื่อวันต่อไป ภพชาติต่อไปเราจะได้ไม่ต้องรับรู้ความทุกข์ของใครต่อใครอีก

พึงทราบว่า คนที่ทำให้เราทุกข์ใจที่สุด คือคนที่เรารักที่สุด คือผู้อยู่ใกล้เราที่สุด บางครั้ง ศัตรูยอมอธิษฐานจิตแห่งความพยาบาท ให้มาเกิดเป็นสามีของเรา เป็นคนที่เรารักของเรา ก็มี
เพื่อเขาจะได้ทำลายน้ำใจ ชื่อเสียง วงศ์สกุลของเราให้ถึงที่สุด นั่นเป็นเพราะเราไม่ได้อโหสิกรรมต่อเขา หรือไม่ได้แสดงอภัยทานต่อเขาจากชาติที่แล้วนั่นเอง ฉะนั้น ทุกครั้งที่เราเห็นเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นกับชีวิตใครหรือแม้แต่เกิดกับเราเอง และเราเองไม่สามารถจะวิเคราะห์ได้ด้วยปัญญาธรรมดา ขอให้ลองมองผ่านกฎเกณฑ์แห่งกรรมดูบ้าง ก็จะช่วยให้จิตใจของเราโปร่งเบาขึ้นมาได้

การคิดถึงกฎแห่งกรรม หาใช่การคิดแบบทอดธุระ หรือโยนบาป โดยไม่คิดจะแก้ปัญหาไม่ การคิดเรื่องกฏแห่งกรรมเป็นหลักการสำคัญข้อหนึ่งในการแก้ปัญหาทางใจตามหลักพระพุทธศาสนา หลักกรรม เป็นกฎเกณฑ์ที่ให้ผลได้แยบยลทั้งในปัจจุบันและอนาคต

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ผู้ชายคนหนึ่ง
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 2 มิ.ย. 10, 17:43 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
หากคิดได้เช่นนี้ ก็จะทำให้จิตใจเราเยือกเย็นและอ่อนโยนลงได้ความทุกข์ส่วนใหญ่ มักเกิดจากการไม่ยอมรับความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ความทุกข์ของมนุษย์ส่วนมาก มักเกิดจากต้องการเปลี่ยนแปลง แต่เปลี่ยนไปไม่ได้ หรือไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง แต่กลับเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น


ถามว่าการให้อภัยในความผิพลาดของคน ๆ หนึ่ง เป็นสิ่งที่ทำยากหรือง่าย

คำตอบคือ ทำง่าย หากฝึกหัดทำเป็นประจำ

ขอให้เราฝึกเสมอ ๆ ว่า ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรกับเรา ขอให้เราฝึกให้อภัยทุกวัน ทำเหมือนที่เราแผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ ขอให้เราทำทุกครั้ง ทำทุกวินาที ทำเหมือนกรวดน้ำหลังทำบุญ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้สรรพสัตว์น้อยใหญ่เมื่อเราสร้าง "อภัยทาน” ให้เป็นลักษณะนิสัยตลอดเวลาได้แล้ว เราจะรู้สึกว่า การให้อภัยแก่ใครนั้น เป็นเรื่องง่ายดาย เป็นเรื่องธรรมดา ๆ คือทำได้โดยไม่ต้องฝืนใจทำ ขอให้เราทราบไว้ว่า เมื่อเราหัดสร้าง "อภัยทาน” เป็นปกติแล้ว เศษกรรมต่าง ๆ แทนที่จะติดตามเราไปข้ามภพข้ามชาติ ก็จะถูกสลัดออก คือตามไปไม่ได้ เพราะมิได้เป็นกรรมอีกต่อไป หากแต่เป็นแต่เพียงกิริยาที่แสดงออก เพราะเราให้อภัยเสียแล้ว เมื่อเราให้อภัยเสียแล้ว ใคร ๆ ที่ผูกอาฆาตพยาบาทเราไว้ แรงพยาบาทของเขา ก็จะหมดโอกาสติดตามเรา เพราะกรรมรนั้นหมดแรงส่ง เนื่องจากเราได้ "อโหสิ” เสียแล้ว


จึงขอเชิญชวนท่านเจ้าของกระทู้ มาฝึกปฏิบัติ "อภัยทาน” และ "อโหสิกรรม” ตั้งแต่บัดนี้กันเถิด เพื่อยุติสนิมในใจ คือ ความเสียใจ น้อยใจ เพื่อยุติแรงส่งของกรรม ที่ตามไปเผล็ดผลอันเผ็ดร้อนข้ามวันข้ามคืน q*039
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 2 มิ.ย. 10, 18:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถึงให้อภัยจิตใจคุณก็คงไม่เหมือนเดิม แต่สักวันหนึ่งจิตใจจะปรับตัวของมันเองจนถึงสภาวะรับได้...ส่วนเค้าจะเลิกหากินนอกบ้านแบบนี้หรือเปล่าก็ขึนอยู่กับเงือนไขและความเด็ดขาดของคุณ การทำอะไรครั้งที่หนึ่งแล้วครั้งที่สองก็ย่อมเป็นไปด้วยง่ายกว่าาาาา....อาจมีอีก ดังนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะมีเงื่อนไขมาล๊อกหรือป้องกันได้หรือเปล่า คุมใจไม่ได้แต่คุมกายก็พอได้แต่มันจะมีความสุขกันหรือเปล่า...หากเงือนไขที่ว่าจะรัดตัวเค้าเกินไป มีวิธีการใดที่จะให้เค้าแสดงความบริสุทธิื์ใจยามไม่ได้อยู่กับคุณ ยามเค้าไปเที่ยว....สงสัยต้องรอยุค 3 G ทอสัพเห็นหน้ากัน อยู่ใหนก็ต้องเห็นหมด..เฮ้อคุมยากนักคุมคนอื่น ขู่ไปเลยมั๊ยว่าถ้าเค้ามีเราจะมีบ้าง....แบบนี้ถึงจะได้สำนึกใจเค้าใจเรา..คับผม

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 2 มิ.ย. 10, 21:25 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คือผู้หญิงเราถ้ารู้ว่าสามีที่เราจงรักภักดีไปมีอะไรกับหญิงอื่นนั้น

คงทำใจยอมรับไม่ได้ในวันเดียวหรอกค่ะ มันต้องใช้เวลา

แต่จะนานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับความรัก ความเข้าใจที่ผ่านมาของแต่ละคู่

และทีสำคัญอีกอย่างคือ หลังจากการนอกใจหรือเผลอใจในครั้งนั้นแล้ว

สามีแสดงพฤติกรรมอย่างไรต่อภรรยาน่ะค่ะ ใช่ค่ะ การให้อภัยคือ

คำตอบที่น่าจะดีที่สุด ถ้าคุณรัก และคิดที่จะใช้ชีวิตคู่กันต่อไป

แต่ถ้าจะให้อภัยในทันทีก็ไม่น่าจะใช่ เพราะฝ่ายชายอาจจะได้ใจแล้วคิดจะทำอีก

เพราะฉนั้นช่วงนี้น่าจะเงียบไว้ก่อนค่ะ พูดน้อยๆ ให้เขารู้สึกว่าเราเสียใจ

แต่เราเคยทำอะไรให้เขาต้องทำเหมือนเคยนะคะ

ถ้าเขามาง้อครั้งแรก ก็บอกเขาไปว่าไม่มีอะไร ถ้ามาง้ออีกครั้งที่สอง คราวนี้

ร่ายยาวเลยค่ะ ว่าคุณรักเขามากขนาดไหน แคร์เขาขนาดไหน เสียใจแค่ไหน

ทรมานมากแค่ไหนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ต้องพูดในลักษณะน้อยใจนะคะ

ให้เขารู้สึกผิดจากข้างในนะค่ะ และสุดท้ายบอกเขาว่า ได้โปรดอย่าทำอีกเลยค่ะ

เพราะความสุขของเขากับหญิงอื่นแค่ 2-3 ชม.มันทำให้คนที่ รักเขาจริงๆ

ห่วงเขาจริงๆ พร้อมที่จะลำบากกับเขา ซื่อสัตย์กับเขา จงรักษ์ภักดีต่อเขา

และจะดูแลเขาเมื่อแก่เฒ่านั้น ต้องตกนรกทั้งเป็นเพียงใด ทุกข์ทรมานมากแค่ไหน

ถ้าเขารักคุณ เชื่อว่าเขาคงไม่อยากให้คุณรู้สึกทุกข์ทรมานเหมือนตกนรก

เพราะฉนั้นคิดว่าเขาน่าจะยับยั้งชั่งใจที่จะไม่ให้เกิดเรื่องอย่างนั้นได้อีกน่ะค่ะ q*014


ถ้าอยากกลับบ้าน ก็กลับเถอะค่ะ อยู่กับตัวเองซักพัก ร้องไห้ซะให้พอ แล้วค่อยกลับมาคุยกับแฟน

แต่อย่าใช้อารมณ์ในการคุยนะคะ ใช้ความเข้าใจน่าจะดีกว่าค่ะ

ทำใจให้ได้เร็วๆนะคะ อย่าปล่อยให้ตัวเองทุกข์นานค่ะ สงสารตัวเองบ้าง q*014









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 3 มิ.ย. 10, 02:34 น โดย erdbeere2010 » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 3 มิ.ย. 10, 09:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผู้หญิงบางคนยางชอบเล่นชู้เลยคร๊าบบบ.... q*013 แล้วจะเอาอารายกับผู้ชายชอบตีหม้อ... q*013 ปล่อยๆปายเถอะคร๊าบบ... q*013

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
noina2526
เรทกระทู้
« ตอบ #11 เมื่อ: 3 มิ.ย. 10, 13:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เคยเจอเรื่องแบบนี้มากับตัวเองเหมือนกัน
แต่ไม่ใช่เรื่องใบเสร็จรับเงิน
แต่มันเป็นเบอร์โทรศัพท์ของผู้หญิงคนนั้นที่โทรเข้า
และแฟนดิฉันก็โทรออก โทรหากันตลอด
จนเริ่มเอ่ะใจ ว่าทำไมถึงกลับมาบ้านสว่างเกือบทุกครั้ง
และทุกครั้งที่กลับมา ก็จะอ้างว่า
ไปกินเลี้ยงมาบ้าง
ไปทำงานมาบ้าง
กลับไม่ได้เมามาก
เลยต้องนอนห้องพี่ที่ทำงานด้วยกัน. .
เป็นแบบนี้มา 5-6 เดือน
ก็เลยลองโทรไปที่เบอร์นั้น (เบอร์ผู้หญิงคนนั้นดู)
แล้วถามว่า เป็นแฟน "..." (ถามชื่อแฟนไป)
ใช่ไหม
ผู้หญิงคนนั้นรับเต็มคำว่า "ใช่คะ" เราเป็นแฟนกัน
คบกันมานานแล้ว
เรื่องมันก็เลยมาแตกเอา
เราก็ต้องคุยกันว่าจะเอายังไง
จะทำยังไงต่อไป
ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ยอมเลิกง่ายๆๆด้วย
เพราะว่าเกิดการมีอะไรกันมานานมาก
แล้วผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า แฟนเราบอกเลิกกับเราตั้งนานแล้ว
บอกประมาณว่า "โสด" เราก็เลยอึ้งไปสักพัก
หลังจากนั้นเรื่องมันก็ไม่จบ
เพราะคำว่า "ไม่รู้จักพอ" ของทั้ง "ผู้หญิง และ ผู้ชาย"
มันก็ยังไปมาหาสู่
เรียกง่ายๆๆว่าไปนอนเอากันอยู่นั้นแหละ
ก็รู้อยู่เต็มอก
ว่ามันเลิกกันไม่ได้
ก็เลยปล่อยให้เลยตามเลย
ผลสุดท้าย
แฟนเราก็กลับมาตายรัง
เพราะว่า
เรายื่นคำขาดว่า
ถ้าคิดจะแอบคบกัน
เดี๋ยวจะเป็นคนไปเอง
ผลสุดท้ายมันเลิกกับเราไม่ได้
มันพูดกับผู้หญิงคนนั้นว่า
มันผูกพันกับเรามาก
สุดท้าย ผู้หญิงคนนั้นก็ต้องยอมเลิก
เพราะว่ามัน ไม่อยากเป็น "เมียน้อย"
----- เรื่องแบบนี้ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง
อย่าโทษใครเลย
ค่อยๆๆคิด ค่อยๆๆแก้ปัญหา
แล้วคุณจะรู้ดีว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือใคร
--- ถ้าไม่ใช่ "ตัวเรา" และ "ครอบครัว"เรา

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #12 เมื่อ: 3 มิ.ย. 10, 14:08 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

รู้สึกเห็นใจคุณจังนะ ความรู้สึกของผู้หญิงอย่างเรา จะมีใครเห็นใจคนที่มีหัวอกแบบเดียวกันบ้างนะ มันเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์ที่ผิดพลาดของเขาที่ผ่านมา เขามีความสุขมากใช่ไหมกับการที่เราต้องนั่งรอนอนรอเป็นห่วง แต่เขากับมีความสุขสนุกสุดเหวี่ยงกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่เมียตัวเอง ถ้าหากเขายังรักสนุกก็ไม่น่าจะรีบแต่งงาน เพราะการที่เรายอมแต่งงานกันมันหมายถึงว่า เราทั้งสองจะหยุดอยู่ที่กันและกัน และพร้อมที่จะสร้างครอบครัวใหม่ แต่หลายครอบครัวไม่เป็นอย่างนั้นกับใช้คำว่าครอบครัว เป็นเครื่องบังหน้า แต่เมื่อเผลอจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน เขาก็พร้อมที่จะนอกใจได้ตลอดเวลา อย่างที่เขาว่าเมื่อแก้วมันร้าว ยากนักที่จะทำให้เหมือนเดิม เมื่อมองเห็นรอยร้าวทุกครั้งก็เจ็บปวด จนบางครอบครัวจึงตัดสินใจหาแก้วใบใหม่มาเติมความรักที่ขาดหายไป......อยากเห็นทุกคนมีความสุขจัง....

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #13 เมื่อ: 3 มิ.ย. 10, 14:40 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ชั่งมันเถอะ ไม่ต้องคิดมากแค่เที่ยวผู้หญิง แถมเขายังใช้ถุงยางด้วยไม่ต้องกลัวเอาโรคมาติดเรา ถ้าคุณคิดว่าในชีวิตนี้คุณจะต้องอยู่กับผู้ชายที่นอนกับคุณแค่คนเดียวไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับใครอีกเลย คุณหาไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าไม่เชื่อลองถามเพื่อนผู้ชายของคุณดูซิว่าเขานอนกับภรรยาเขาแค่คนเดียวหรือเปล่าถ้ามีโอกาสเขาจะนอกกายเธอไม๊

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
เสียใจ
เรทกระทู้
« ตอบ #14 เมื่อ: 3 มิ.ย. 10, 16:55 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอบคุณนะคะ ที่ให้กำลังใจ

เมื่อคืนก็นั่งคุยกันกับแฟนทั้งคืน สำหรับเรื่องที่ผ่านมา

โอกาส + ให้อภัย มีให้เสมอ แต่ อยู่ที่คนได้รับ ว่าเค้าจะทำได้ดีแค่ไหน

ก็ร้องไห้กันทั้งสองคน

สงสารตัวเอง สงสารทั้งเค้า ว่าเราไปทำอะไรไว้หนอ มันถึงมาเกิดกับเราอย่างงี้

กำลังพยายามทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คงต้องใช้เวลาอีกหน่อย

มันติดอยู่ตรงที่รับไม่ได้ ว่า ผู้หญิงคนนี้ผ่านผู้ชายมาแล้วกี่ร้อยกี่พันคน แล้วหนึ่งในนั้นก็แฟนเรา T^T

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกกำลังใจนะคะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #15 เมื่อ: 3 มิ.ย. 10, 17:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
มันติดอยู่ตรงที่รับไม่ได้ ว่า ผู้หญิงคนนี้ผ่านผู้ชายมาแล้วกี่ร้อยกี่พันคน แล้วหนึ่งในนั้นก็แฟนเรา

ตรงนี้น่าจะทำให้คุณคิดได้นะครับว่าเค้าไม่มีทางที่จะมาจับ หรือติดพันสามีได้ เพราะมันเป็นอาชีพของเค้า คงจะยากมากที่เค้าจะมาเป็นภรรยาน้อยของสามีคุณ นี่ยังดีกว่าผู้หญิงอื่นๆ อีกหลายคนที่เข้ามาปรับทุกข์เรื่องสามีไปแอบมีภรรยาน้อย หรือแอบไปทำผู้หญิงอื่นท้องนะครับ สบายใจเถอะครับ (ผู้ชายเกือบร้อยทั้งร้อยก็ต้องมีเที่ยวผู้หญิงมาบ้างไม่มากก็น้อยครับ อยู่ที่ว่าใครจะไปบ่อยแค่ไหน เลิกไปตอนอายุเท่าไร ฯลฯ)

ทำใจให้สบายเถอะครับ ... q*054
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #16 เมื่อ: 3 มิ.ย. 10, 17:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
25 กับ 24 เพิ่งแต่งงานกัน

จะอยู่กันอีกกี่ปีก็ไม่รู้ แต่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น..แบบนี้...

โอกาสเกิด มีอีกหรือไม่รู้ได้..ทำใจได้แค่ไหน...

ก่อนนี้เขาเคยทำแบบนี้รึเปล่าว...??? ยังเป็นคำถาม..

พูดไปเหมือนจะยุ น๊ะ แต่ดูท่าทางคุณแล้ว..คงจะอยู่กันลำบากแน่..

เพราะ ระแวง...การทะเลาะอาจจะตามมาอีกแน่...

นอกจากทำใจแล้วคุณเองต้องมีสติ...ปฎิบัติที่ตัวเรา เพ่ือพร้อมสำหรับทุกสถามนการณ์

ไม่อยากฟันธง...แต่ผมฟิวอย่างนั้นจริงๆ...

ชีวิตคู่แบบนี้แหละครับ...ยกเว้นคุณจะไปเจอ ที่เขา ดีจริงๆๆเกิดมาไม่เคยนอนกับใครเลย

นอกจากคุณ..เกิดมาเพื่อคุณ โดยเฉพาะ...จะมีไหม?..สังคม ชีวิต

คู่มันเป็นแบบนั้นจริงๆครับ...อยู่คนเดียวดีแล้ว... q*054
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #17 เมื่อ: 3 มิ.ย. 10, 21:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ประเด็นที่ว่าใช้ถุงยางหรือไม่ใช่มันก็รับไม่ได้อยู่ดี แต่คนเราก็ต้องให้โอกาสกันนะคะ ถ้ารักกัน แต่โอกาสควรที่จะมีแค่ 1 ครั้งเท่านั้นนะคะ ยื่นคำขาดไปเลยคะ ถ้าครั้ง2 จะไม่มีโอกาสให้อีกแล้ว ยังนี่แหละคะโหดไปเลย q*010
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
fgfg
เรทกระทู้
« ตอบ #18 เมื่อ: 4 มิ.ย. 10, 15:04 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

แฟนคุณ ง่าว พลาดจนไม่น่าให้อภัย....

จะเก็บบิลไว้เบิกหรือไง 555

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
คนมันรัก
เรทกระทู้
« ตอบ #19 เมื่อ: 4 มิ.ย. 10, 19:40 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เราก็เคยเจอแบบนี้นะ อยู่ในกล่องเอกสารถามเขา เขาก็บอกว่าของเพื่อนซื้อมาไม่ได้ใช้ ถุงยาง 1 กล่องมี 3 ชิ้นแต่มันเหลือ 2 ชิ้นอะ แล้วบอกไม่ได้ใช้แล้วมันไปไหน เอาไปเป่าเล่นอันหรอ ฉันไม่ได้โง่นะ สรุปตอนนี้เลิกกันไปแล้วเพราะเรารับไม่ได้ ตอนแรกก็ว่ายังดีทั้ใช้ถุงยางแต่จิตใจซิคิดไปเป็นอาทิตย์ก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี
เพราะในเมื่อคบกันเราไม่เคยยุ่งกะใครแต่เขาทำไมต้องทำกับเราแบบนี้

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #20 เมื่อ: 4 มิ.ย. 10, 19:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ง่าวที่เก็บบิล
แต่ฉลาดที่ไปเที่ยวหญิงบริการหรือ?

พี่เข้าใจน้อง จขกท.มาก ถึง มากที่สุด
เพราะเคยเจอด้วยตัวเองมาแล้ว

ตอนนี้ความเจ็บได้จางลง
แต่แผลในใจไม่เคยหายขาด
เพียงแต่เวลาที่ผ่านไปหลายเดือน
ได้ช่วยเยียวยาไปค่อนช้างมากแล้ว

ดูแล้วถ้าเป็นครั้งแรก (ที่จับได้)
และเขาก็ยอมรับ ขอโอกาสแก้ไขในสิ่งผิดพลาด ก็ให้อภัยเถอะนะคะ
ต้องดูพฤติกรรมหลังจากนี้ด้วยว่า
เขาอยากจะปรับเปลี่ยนจริงหรือไม่
ตอนนี้น้องอาจจะมองไม่ออกว่า จะหลุดพ้นความทุกข์ทรมานใจช่วงนี้ไปได้ยังไง
ไม่ว่าจะกิน จะนอน มันก็พาลไพล่ไปคิดแต่เรื่องเจ็บช้ำ
กินไม่ได้ นอนไม่หลับ

ก็ต้องบอกเขานะคะ ว่าเรารู้สึกยังไง ร่างกายและจิตใจเสื่อมโทรมแค่ไหน
ถ้าเขายังต้องการเคียงคู่กันต่อ เขานั่นแหละที่ต้องช่วยบำบัด
แต่เขาก็เครียดมากนั่นแหละ
สามีแม่ดุ้ยเอง ถึงกับหลุดออกมาว่าจะให้เขาฆ่าตัวตายหรือ ถึงจะหาย

เข้าใจดีค่ะ ว่าไม่มีใครบริสุทธิ์ผุดผ่อง
แต่เมื่อแต่งงานแล้วก็ควรจะรู้จักระงับอารมณ์เบื้องต่ำที่มีต่อคนอื่นที่ไม่ใช่คู่ของตนเอง
เคยคุยและเป็นที่ปรึกษาให้กับเพื่อนและคนรอบข้างหลายๆคนที่มีปัญหาสามีนอกกาย /นอกใจ
แต่พอมาเจอกับตัวเอง ถึงรู้ว่า ทฤษฎีใดๆ ก็ไม่ซึ้งเท่าของจริง

ตามหลักการจริงๆแล้ว ในแนวทางการควบคุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เขาถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่ต้องสนับสนุนให้พก condom
เพราะอาจเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาได้
แต่จะมีภรรยากี่คนที่ใจกว้างเตรียม/หรือรับรู้ให้สามีพกถุง
บางแนวคิดยังสนับสนุนให้ผู้ปกครองเตรียมให้บุตรหลาน(ทั้งชายและหญิง) อีกต่างหาก
แต่เรื่องเพศศึกษาในไทยเรายังไม่เปิดกว้างขนาดนั้นค่ะ

ที่พูดมาก็อย่างน้อยอยากให้สบายใจว่าเขาใช้ถุง
ไม่นำโรคติดต่อมาให้
และการทีเขานอนกับหญิงบริการที่ไม่ผูกพันกัน
ก็ยังพอทำใจได้ว่าไม่มีการต่อเนื่อง
(ครงนี้ก็ต้องสังเกตการณ์ต่อเหมือนกันค่ะ ว่าเป็นหญิงอย่างว่าจริงหรือไม่)

การเข้ามาปรับทุกข์ในนี้ช่วยได้มากค่ะ
น้องต้องพักผ่อนทั้งกายและใจมากๆนะคะ

บางเรื่องที่คุยกับคนอื่นได้ก็คุยบ้าง จะได้ไม่อัดอั้นเกินไป
แล้ววันที่ทุกข์ร้อนนี้มันก็จะค่อยๆผ่านไป
วันที่ดีกว่ารออยู่เสมอค่ะ อดทนนิดหนึ่งนะ q*063

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
คนอ่าน
เรทกระทู้
« ตอบ #21 เมื่อ: 4 มิ.ย. 10, 19:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*030
รับไม่ได้ก็เลิก ไม่ต้องคิดมาก
แล้วอย่ามาร้องคร่ำครวญทีหลังนะ q*034q*039q*013

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
หูซ้ายหูขวา
เรทกระทู้
« ตอบ #22 เมื่อ: 4 มิ.ย. 10, 22:20 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*031 หนทางที่ตรงที่สุด กลับเป็นที่ใครๆก็เข้าใจยากที่สุด q*003 อืมมม ..

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
4444
เรทกระทู้
« ตอบ #23 เมื่อ: 5 มิ.ย. 10, 11:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ตื่นครับๆๆๆๆๆๆๆๆๆ........คุณคิดว่าคนที่บอกว่าอย่างโน้นดีอย่างนี้ดี คนนั้นไม่ดีคนนี้ดี........ผมว่าหยุดเถอะครับ ดีมีครับ แต่คงจะอยู่ในมุมที่ๆแตกต่างจากนี้แน่นอน คนก็คือคน ถ้าจะบอกว่าต้องการแบบถอดด้ามมาเลย ผมถามจริงๆสิ่งที่คุรปราถนาอย่างยังจะเหลือให้คุณคัดสรรอีกเหรอครับ ผมว่าไม่มีหลอกครับ ถ้ามีจริงก็คงไม่ได้มาง่ายๆ...เอาผมต่อให้ได้มาก็ได้...แล้วคิดเหรอครับว่าคุณจะเข้ากันได้...อาจจะได้ก็น่าจะเป็นสังคมที่คุณหรือเขาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการ....ก็เท่านั้นเองครับ
ชีวิตคู่.........คุณเข้าใจแค่ไหนครับ ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณไม่เข้าใจงั้นลองตั้งสติคิดน่ะครับ....(ผมไม่ได้พูดถึงพวกที่ถูกหล่อหลอมมาจนไม่รู้ว่า........มากมายน่ะครับ) ถ้าคุณอยากจะกลับบ้านจริงๆก็กลับไปเลยครับ แล้วก็เลิกทิ้งเขาไปเลยครับ หาเอาใหม่เลยครับ แบบประเภทอยากได้แต่ไม่มองความจริงบนพื้นฐานความคิดที่ตัวเองมี พวกนี้น่าสงสารครับ ทั้งชีวิตเขาก็ไม่สามารถหาในสิ่งที่ใจเขาปราถนาได้หลอกครับ....เพราะมันคือโลกแห่งความฝัน ไม่ใช่โลกแห่งความจริงครับ........ผมพูดอยู่บนเหตุและผล ทุกอย่างต้องมีเหตุและผลครับ.......คุณใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว บางอย่างให้อภัยกันได้ก็ต้องยอมบ้าง การยอมมีหลายรูปแบบ อยู่ที่เทคนิคของแต่ล่ะึคน คุณต้องให้เวลาในการเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตคู่กันมากกว่าครับ...คุณจะแต่งงานกันเพื่ออะไรครับ ค่อยๆเรียนรู้ ให้อภัยเขาบ้าง ถ้าหัวใจคุณยังรับได้ในความเป็นจริง ผมไม่ได้หมายความว่าให้คุณทนจนความรู้สึกคุณด้านชาซะหน่อย ได้โปรดเข้าใจด้วยครับ......ถ้าผู้ชายต้องคุกเข่า ร้องไห้ .....แค่คำว่าขอโทษ ถ้ามันออกมาจากความรู้สึกลึกๆ ก็เจ็บปวดแล้วครับ ไม่ใช่ลิเกหรือละครที่บางคนพูดแล้วพูดอีกแทบจะแ...ตูดดมก็ว่าได้ ประเภทนั้นเละเทอะครับ....ชีวิตคู่ มันไม่ได้ยากครับ แต่อย่างน้อยที่สุดคุณต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันบ้าง อดทนแล้วทำความเข้าใจดีกว่าครับ....โชคดีครับ...........อย่่าให้อารมณ์มาเป็นคำตอบครับ....ตรงนี้อันตรายครับ อิอิ q*008q*008q*008q*008

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #24 เมื่อ: 5 มิ.ย. 10, 20:59 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
โบราณว่าไว้ คำว่าสามีจะใช้ได้ก็เฉพาะตอนที่เค้าอยู่ต่อหน้าเราอยู่ในบ้าน แต่เมื่อออกไปนอกบ้านแล้ว ลับตากันแล้ว เค้าก็เป็นตัวเค้า นี่คือเหตุผลแห่งการครองเรือนที่ยืดยาม ปิดตาไว้สักข้างนึงสิ ข้างที่มองแล้วเกิดทุกข์ คนเราอย่ารับรู้ทุกเรื่องมันก็จะสบายใจนะ. q*021q*060
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #25 เมื่อ: 8 มิ.ย. 10, 18:48 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เป็นเราก็ขยะแขยงนะ

ของเคยใช้ๆกับเราแต่อยู่ๆไปใช้กับคนอื่น !

q*015

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
กอ ไก่
เรทกระทู้
« ตอบ #26 เมื่อ: 8 มิ.ย. 10, 20:59 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผู้ ญ ลืม ยาก แต่ยังไงก้อเป็นกำลังใจให้นะค่ะ ตัดสินใจให้ดีๆ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
แตงกวาดอง
เรทกระทู้
« ตอบ #27 เมื่อ: 18 ต.ค. 15, 10:27 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผู้ชายที่ไม่เคยไปเที่ยวเลย หรือ แต่งงานแล้วไม่เที่ยวเลย มีอยู่ไม่กี่แบบครับ
(เฉพาะเที่ยวนะครับ ไม่เกี่ยวกับมีเมียน้อย)


1. รักและให้ความสำคัญกับคำว่าเมียและครอบครัวมากจนไม่เที่ยวไหนเลย อาจมีเรื่องศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเภทนี้มีน้อยมาก

2. บ้างานมาก กรณีนี้อาจไม่ยุ่งกับเมียที่บ้านด้วย เพราะเซ็กส์เสื่อมไปแล้ว

3. มันเป็นเกย์ครับ

4. ไม่เที่ยวหญิงครับ แต่ไปนวดชาย คือสามีคุณเป็นไบ

โลกผมอาจจะแคบนะครับ เท่าที่เห็นก็มีแค่นี้ ถ้ารับคุณที่มีอยู่ไม่ได้ก็เลิกไปเลยครับ พึ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง อีก 40 ปี อยู่ด้วยกันทำไง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ผู้หญิงคนนึ่ง
เรทกระทู้
« ตอบ #28 เมื่อ: 20 ก.ย. 18, 11:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ชีวิตคือการลงทุน ตัวชีวิตคือต้นทุน สิ่งที่ได้มาหลังจากชีวิตคือกำไรทั้งหมด

การเกิดมาในโลกนี้ เหมือนการมาเที่ยว หรือไปเที่ยวต่างประเทศ, เราชื่นชมได้ทุกอย่างที่เห็น แต่เมื่อจะเดินทางกลับจะต้องวางทุกอย่างไว้ที่เดิม เพราะนั่นเป็นสมบัติของแผ่นดินนั้น เก็บเอาเพียงความสุข ความเบิกบานใจ ไปติดตัวกลับบ้านก็พอ ชีวิตในโลกนี้ มีทั้งกำไรที่เป็นสินทรัพย์และกำไรที่เป็นอริยทรัพย์ สินทรัพย์ที่เราทิ้งไว้ให้เป็นสมบัติของโลกต่อไป ให้คนอื่นชื่นชมด้วย หากเรามีโอกาสกลับมาเที่ยว (เกิดใหม่) อีก เราก็มีโอกาสได้ชื่นชมอีก อริยทรัพย์ คือ บุญ ความสุข ความเบิกบานใจ อิ่มใจ พอใจ เป็นสมบัติแท้ของเราตามเราไปได้ทุกแห่งหน

การลงทุนให้ได้กำไร คือ หัดทำความพอใจในสิ่งที่เรามี

ความโชคร้ายของมนุษย์ คือ การไม่รู้ว่าตนเองโชคดีทุกชีวิตล้วนมีภัย ภัยของชีวิตอาจเกิดขึ้นได้ทุกเสี้ยววินาที ภัยที่เกิดจากภายนอก ไม่ร้ายแรงเท่ากับภัยภายใน

ภัยที่ผู้อื่นสร้างขึ้น กระทบเรา น้อยกว่าภัยที่เราสร้างขึ้นเอง

คนรอบข้างบางคนทำผิดแล้ว กลับมานั่งเสียใจในภายหลังก็บ่อย ภัยทั้งหลายล้วนเป็นยาพิษ ที่ปลิดชีวิตจิตใจเราได้ทั้งสิ้น มนุษย์อื่นทำลายเรา ก็ทำได้เพียงขณะหนึ่ง แต่จิตที่ตั้งไว้ผิดจะทำลายเราข้ามภพชาติ ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงสอนเรื่อง “อภัยทาน” คือ การยกโทษ แสดงอโหสิกรรมต่อกัน

บางคนรักมาก หลงมาก ก็ปรารถนาให้รักเราคนเดียว
บางคนก็สาปส่งไม่ขอร่วมเดินทาง แต่ก็ไม่ยกโทษ
ในที่สุดผลของการไม่ยกโทษ คือไม่ยอมให้อภัย ก็เหมือนการผูกสิ่งที่เราไม่ชอบไว้ที่เอวตนเองตลอดเวลา

การให้อภัย จะทำให้เราสามารถยุติปัญหาต่าง ๆ ได้ เหมือนคนล้างแก้วน้ำสะอาด ทำให้เหมาะสมที่จะรองรับน้ำบริสุทธิ์ที่เทลงไปใหม่ เหมือนการโยนของที่เราไม่ชอบทิ้งเสีย โดยไม่ต้องเสียดาย
การให้อภัย คือการแสดงกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อภัยทานเวลาจะให้ ไม่ต้องไปขอใคร ไม่เหมือนใครมาขอเงินเรา เราต้องควักกระเป๋าให้ แต่ให้อภัย เราไม่ต้องหาจากไหน และไม่รู้สึกว่าเป็นการสูญเสีย

ขอให้เราภูมิใจ เมื่อมีใครมาขอโทษ เมื่อมีใครให้อภัยเรา หรือเมื่อสำนึกได้ว่า เราได้ทำอะไรผิดพลาดไป ก็ขอโทษกัน การขอโทษหรือการให้อภัย
มิใช่การเสียหน้า หรือเสียรู้ มิใช่การได้เปรียบเสียเปรียบแต่อย่างใด หากแต่เป็นการชำระใจให้สะอาด เหมือนภาชนะสกปรก ก็ชำระล้างให้สะอาด
จะคิดอย่างไรมิใช่ประเด็น แต่สำหรับเราผู้แสดงออกว่า เราให้อภัยในเรื่องนี้ต่อบุคคลผู้นี้แล้ว นั่นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสิ่งนั้นจะถูกบรรจุลงไปในเครื่องคอมพิวเตอร์คือจิตของเราทันที

ความ โกรธ เกลียด ความคิดเสียใจ น้อยใจ ทิฐิมานะ
เป็นต้น เป็นเสมือนเชื้อไวรัส

อภัยทาน คือ เครื่องมือแอนตี้ไวรัส ส่วนจิตของเรา เหมือนคอมพิวเตอร์


ในชีวิตที่เหลืออยู่นี้ อาจจะดูเหมือนยาว แต่มีใครบอกได้ว่าเราจะอยู่ได้ปลอดภัยถึงวันไหน q*031

เราต้องการความทรงจำที่เลวร้าย หรือต้องการความทรงจำที่ดีในชีวิต
เราต้องการนั่งนอนอย่างมีความสุข มีชีวิตอยู่ด้วยความอิ่มเอิบหรือต้องการมีชีวิตอยู่ด้วยการถอนหายใจ ด้วยความทุกข์และกังวลใจ สิ่งเหล่านี้ กำหนดได้ที่ตัวเราเอง กำหนดวิธีคิดให้ถูกต้อง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม