แล้วดิฉัน ควรทำไงดีคะ ให้โอกาส ให้อภัย แต่ยังไงตอนนี้ก็ยังรับไม่ได้อยู่ เฮ้ออออ
ชีวิตคือการลงทุน ตัวชีวิตคือต้นทุน สิ่งที่ได้มาหลังจากชีวิตคือกำไรทั้งหมด
การเกิดมาในโลกนี้ เหมือนการมาเที่ยว หรือไปเที่ยวต่างประเทศ, เราชื่นชมได้ทุกอย่างที่เห็น แต่เมื่อจะเดินทางกลับจะต้องวางทุกอย่างไว้ที่เดิม เพราะนั่นเป็นสมบัติของแผ่นดินนั้น เก็บเอาเพียงความสุข ความเบิกบานใจ ไปติดตัวกลับบ้านก็พอ ชีวิตในโลกนี้ มีทั้งกำไรที่เป็นสินทรัพย์และกำไรที่เป็นอริยทรัพย์ สินทรัพย์ที่เราทิ้งไว้ให้เป็นสมบัติของโลกต่อไป ให้คนอื่นชื่นชมด้วย หากเรามีโอกาสกลับมาเที่ยว (เกิดใหม่) อีก เราก็มีโอกาสได้ชื่นชมอีก อริยทรัพย์ คือ บุญ ความสุข ความเบิกบานใจ อิ่มใจ พอใจ เป็นสมบัติแท้ของเราตามเราไปได้ทุกแห่งหน
การลงทุนให้ได้กำไร คือ หัดทำความพอใจในสิ่งที่เรามี ความโชคร้ายของมนุษย์ คือ การไม่รู้ว่าตนเองโชคดีทุกชีวิตล้วนมีภัย ภัยของชีวิตอาจเกิดขึ้นได้ทุกเสี้ยววินาที ภัยที่เกิดจากภายนอก
ไม่ร้ายแรงเท่ากับภัยภายใน ภัยที่ผู้อื่นสร้างขึ้น กระทบเรา
น้อยกว่าภัยที่เราสร้างขึ้นเอง คนรอบข้างบางคนทำผิดแล้ว กลับมานั่งเสียใจในภายหลังก็บ่อย ภัยทั้งหลายล้วนเป็นยาพิษ ที่ปลิดชีวิตจิตใจเราได้ทั้งสิ้น มนุษย์อื่นทำลายเรา ก็ทำได้เพียงขณะหนึ่ง แต่จิตที่ตั้งไว้ผิดจะทำลายเราข้ามภพชาติ ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงสอนเรื่อง “อภัยทาน” คือ การยกโทษ แสดงอโหสิกรรมต่อกัน บางคนรักมาก หลงมาก ก็ปรารถนาให้รักเราคนเดียว
บางคนก็สาปส่งไม่ขอร่วมเดินทาง แต่ก็ไม่ยกโทษ
ในที่สุดผลของการไม่ยกโทษ คือไม่ยอมให้อภัย ก็เหมือนการผูกสิ่งที่เราไม่ชอบไว้ที่เอวตนเองตลอดเวลา
การให้อภัย จะทำให้เราสามารถยุติปัญหาต่าง ๆ ได้ เหมือนคนล้างแก้วน้ำสะอาด ทำให้เหมาะสมที่จะรองรับน้ำบริสุทธิ์ที่เทลงไปใหม่ เหมือนการโยนของที่เราไม่ชอบทิ้งเสีย โดยไม่ต้องเสียดาย
การให้อภัย คือการแสดงกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อภัยทานเวลาจะให้ ไม่ต้องไปขอใคร ไม่เหมือนใครมาขอเงินเรา เราต้องควักกระเป๋าให้ แต่ให้อภัย เราไม่ต้องหาจากไหน และไม่รู้สึกว่าเป็นการสูญเสีย
ขอให้เราภูมิใจ เมื่อมีใครมาขอโทษ เมื่อมีใครให้อภัยเรา หรือเมื่อสำนึกได้ว่า เราได้ทำอะไรผิดพลาดไป ก็ขอโทษกัน การขอโทษหรือการให้อภัย
มิใช่การเสียหน้า หรือเสียรู้ มิใช่การได้เปรียบเสียเปรียบแต่อย่างใด หากแต่เป็นการชำระใจให้สะอาด เหมือนภาชนะสกปรก ก็ชำระล้างให้สะอาด
จะคิดอย่างไรมิใช่ประเด็น แต่สำหรับเราผู้แสดงออกว่า เราให้อภัยในเรื่องนี้ต่อบุคคลผู้นี้แล้ว นั่นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสิ่งนั้นจะถูกบรรจุลงไปในเครื่อง
คอมพิวเตอร์คือจิตของเราทันที
ความ โกรธ เกลียด ความคิดเสียใจ น้อยใจ ทิฐิมานะ
เป็นต้น เป็นเสมือนเชื้อไวรัส
อภัยทาน คือ เครื่องมือแอนตี้ไวรัส ส่วนจิตของเรา เหมือนคอมพิวเตอร์ ในชีวิตที่เหลืออยู่นี้ อาจจะดูเหมือนยาว แต่มีใครบอกได้ว่าเราจะอยู่ได้ปลอดภัยถึงวันไหน

เราต้องการความทรงจำที่เลวร้าย หรือต้องการความทรงจำที่ดีในชีวิต
เราต้องการนั่งนอนอย่างมีความสุข มีชีวิตอยู่ด้วยความอิ่มเอิบหรือต้องการมีชีวิตอยู่ด้วยการถอนหายใจ ด้วยความทุกข์และกังวลใจ สิ่งเหล่านี้ กำหนดได้ที่ตัวเราเอง กำหนดวิธีคิดให้ถูกต้อง