หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: แบนRS แบนแอนนี่ แบนให้หมดเลยดีมั้ย?!!  (อ่าน 431 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 8 ต.ค. 10, 01:48 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

เพราะเรื่องของพวกเขาทำให้สังคมวุ่นวายเพิ่มขึ้น

ฝ่ายฟิล์มก็พูดกลับไปกลับมา ไม่รับเป็นลูกก็ไม่ควรช่วยเหลือเงินแต่แรก อย่ามาอ้างว่าช่วยเพื่อนมนุษย์ ไม่ใช่แฟนทำแทนกันได้!?

ฝ่ายเฮียฮ้อก็เห็นแก่เงินจนละทิ้งความเป็นสุภาพบุรุษ ประณามผู้หญิงทั้งๆที่ตัวเองก็ฟังเขามาอีกต่อ ฉายา "เฮียฮ้อซ้อ7"

ฝ่ายเจ๊พจน์ นี่ก็ร้ายเหลือเกิน ประณามฝ่ายหญิงซะไม่เหลือดี ทำอย่างกับตัวเองดีบริสุทธิ์ ไม่มั่ว!! (มิน่าตั๊ก บงกชและดาราอีกหลายคนถึงได้มีเรื่องกับเจ๊พจน์) แถมเจ๊พจน์ขู่จะฟ้องถ้าใครกล่าวหาฟิล์มอีก ถามหน่อยเจ๊พจน์แกมีสิทธิตรงไหนที่จะฟ้อง ไม่ใช่พ่อใช่แม่ ใช่เมียฟิล์มสักหน่อย (หรือว่าจะใช่?)

ส่วนเมธี ก็หาง แ...โผล่ เป็นผู้ชายมีหาง เกาะกระแสเข้าข้างค่ายใหญ่ หวังจะกลับเข้าวงการรึเ่ปล่า??(ต่อยคนแก่ ด่าผู้หญิง เมธีถนัด)


ส่วนฝ่ายแอนนี่ ถ้าไม่ตรวจDNAก็ไม่ควรทำงานในวงการบันเทิงแล้ว เพราะทำให้ประชาชนคาใจแบบนี้ พวกเขากล่าวหาคุณมั่วผู้ชายพร้อมกันหลายคน ถ้าคุณไม่ออกมาพิสูจน์ความจริง ปกป้องศักดิ์ศรีผู้หญิงของคุณ แอนนี่คุณไปหาอาชีพอื่นเลี้ยงลูกดีกว่ามั้ย?? อย่าอาศัยเรื่องนี้สร้างกระแสหากินอีกเลย เพราะถ้าอยู่ในวงการต่อไป ก็เท่ากับคุณก็กำลังทำร้ายลูกคุณเองเหมือนกัน


ยิ่งนานวัน ก็มีคนชักเอนเอียงไปทางฟิล์มและเริ่มไม่เชื่อแอนนี่ จนถึงขั้นจะแบนผลงานแอนนี่ ตอนนี้แอนนี่เธอก็ทำงานของเธอไป เธอไม่ได้ออกข่าวโจมตีฝ่ายฟิล์มอีก นอกจากแก้ต่างในประเด็นที่ถูกโจมตี แต่ฝ่ายเข้าข้างฟิล์มต่างหากที่ออกแถลงข่าวรายวัน

ถ้าคิดจะแบนก็ต้องแบนทุกคนที่เกี่ยวข้องจึงจะยุติธรรม!!

งั้น!! ผมขอเสนอว่าแบนให้หมดทั้งงานของ ฟิล์ม RS แอนนี่ พจน์ อานนท์ แบนให้หมด อย่าซื้ออย่าอุดหนุนสินค้า ของคนเหล่านี้!! (ถ้าตราบใดความจริงยังไม่ปรากฏ)


เพราะศีลธรรมในสังคมเสื่อมลงก็เพราะพฤติกรรมทั้งหมดพวกคุณทำเป็นตัวอย่างทั้งนั้น!!

V


v


V

ประเด็นเรื่องนี้คืออะไร ก็คือ เรื่องDNA ว่าเด็กใช่ลูกฟิล์มหรือไม่?? ไม่ใช่แอนนี่มั่วหรือไม่??

ถ้าฟิล์มอยากให้ตรวจDNA แล้วแอนนี่ไม่ยอมตรวจ ทำให้ตัวเองเสียหายอย่างไร ก็ฟ้องร้องไปเลยสิ ไม่ใช่ปล่อยให้พวกเฮีย พวกตุ๊ด พวกอันธพาลออกมารุมประณามเธอเลย มันไม่แมนว่ะ!! q*018




.



(แต่หลายๆวันที่ผ่านมา แอนนี่เธอก็เลิกพูดเรื่องที่ฟิล์มเป็นพ่อเด็กหลายวันแล้ว และตราบใดเธอยังไม่ยอมตรวจDNA เส้นทางบันเทิงเธอก็จะเริ่มแคบลงเช่นกัน!!!) q*038



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 ต.ค. 10, 23:58 น โดย akecity » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 8 ต.ค. 10, 02:43 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

หากเธอมั่ว เธอก็มั่วกับผู้ชาย

แต่คนที่ยุ่งทั้งชายและหญิงได้ล่ะ สังคมกลับเริ่มสงสารเพราะฝ่ายชายแผนสูง จนสังคมเริ่มเชื่อว่าฝ่ายหญิงโกหก เธอมั่ว เธอก็บอกแล้วว่าฝ่ายชายเคยให้เงิน แต่เกย์คนนั้นออกมาแฉหลักฐานการโอนเงิน ก็แสดงว่ายืนยันว่าฝ่ายหญิงพูดจริงน่ะสิ

แล้วทีผู้ชายหลอกเอาเงินเอาบ้านเอารถของเสี่ยล่ะ ทำเป็นลืม!!


แบนให้หมดทุกคนน่ะ จะดีมั้ย??

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 8 ต.ค. 10, 03:03 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ลูกใครในแง่มุมของกฏหมาย โดยสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม


เรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดากับบุตร ซึ่งมีความสำคัญตั้งแต่แรกเกิด ก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่ทั้งในทางกฎหมายและในทางปฏิบัติระหว่างกันและกันมากมาย ที่เป็นปัญหามากที่สุด คือ สิทธิในการดูแลบุตร เนื่องจากยุคสมัยได้เปลี่ยนไปบางครอบครัวจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมายในขณะเดียวกันก็มีหลายครอบครัวที่บิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ดังนั้น เมื่อมีบุตรจึงเกิดปัญหาว่าใครเป็นผู้มีสิทธิในการดูแลบุตร

กรณีที่เกิดปัญหาเกี่ยวกับสิทธิในการดูแลบุตรมากที่สุด คือ ในกรณีเด็กเกิดจากบิดามารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน

กฎหมายที่นำมาบังคับใช้เกี่ยวกับเรื่องสิทธิในการดูแลบุตรได้แก่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งในกรณีนี้สิทธิของมารดากฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนในมาตรา 1546 ว่า “เด็กเกิดจากหญิงที่มิได้มีการสมรสกับชาย ให้ถือว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น” หมายความว่าในกรณีที่หญิงไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับชายแต่เกิดตั้งครรภ์และคลอดบุตรออกมา เด็กที่เกิดนี้ถือว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้นแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ถือเป็นหลักที่ว่าบุตรเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของมารดาเสมอไม่ว่าในกรณีใดๆก็ตาม

ตรงกันข้ามกับการเป็นบิดาของเด็กที่เกิดโดยบิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์และมีปัญหายุ่งยากในการพิสูจน์ การทำให้เด็กที่เกิดนอกสมรสกลายเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดา ซึ่งมาตรา 1547 กำหนดว่า “เด็กเกิดจากบิดามารดาที่มิได้สมรสกัน จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายต่อเมื่อบิดามารดาได้สมรสกันในภายหลังหรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร” หมายความว่า เด็กที่เกิดจากหญิงที่ไม่ได้สมรสกับชายนั้นให้ถือว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิงแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น แม้ชายจะมาอยู่กินกันฉันสามีภริยากับหญิงโดยเปิดเผยก็ไม่ถือว่าเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย

จากมาตราดังกล่าวข้างต้นการทำให้เด็กที่เกิดนอกสมรสกลายเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดา สามารถทำได้ 3 วิธี คือ 1. บิดามารดาสมรสกันในภายหลัง 2. บิดาจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร และ3. ศาลพิพากษาว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย

กรณีที่มีความซับซ้อนและยุ่งยากมากที่สุด คือ กรณีบิดาจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร กฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์ในการจดทะเบียนไว้ในมาตรา 1548 ว่า “บิดาจะจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมของเด็กและมารดาเด็ก

ในกรณีที่เด็กและมารดาเด็กไม่ได้มาให้ความยินยอมต่อหน้านายทะเบียนให้นายทะเบียนแจ้งการขอจดทะเบียนของบิดาไปยังเด็กและมารดาเด็ก ถ้าเด็กหรือมารดาเด็กไม่คัดค้านหรือไม่ให้ความยินยอมภายในหกสิบวันนับแต่การแจ้งนั้นถึงเด็กหรือมารดาเด็กให้สันนิษฐานว่าเด็กหรือมารดาเด็กไม่ให้ความยินยอม ถ้าเด็กหรือมารดาเด็กอยู่นอกประเทศไทยให้ขยายเวลานั้นเป็นหนึ่งร้อยแปดสิบวัน

ในกรณีที่เด็กหรือมารดาเด็กคัดค้านว่าผู้ขอจดทะเบียนไม่ใช่บิดาหรือไม่ให้ความยินยอม หรือไม่อาจให้ความยินยอมได้ การจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรต้องมีคำพิพากษาของศาล

เมื่อศาลได้พิพากษาให้บิดาจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรได้ และบิดาได้นำคำพิพากษาไปขอจดทะเบียนต่อนายทะเบียน ให้นายทะเบียนดำเนินการจดทะเบียนให้” เมื่อบิดาจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรตามมาตรานี้แล้ว ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างบิดากับบุตรทำให้เด็กกลายเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายโดยไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรส

นอกจากการจดทะเบียนรับรองบุตรแล้วยังมีกรณีที่เด็กสามารถฟ้องคดีขอให้ชายรับตนเป็นบุตรของชายด้วย เหตุในการฟ้องคดีกฎหมายกำหนดไว้ในมาตรา 1555 ที่กำหนดว่า “ในคดีฟ้องขอให้รับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้

(1) เมื่อมีการข่มขืนกระทำชำเรา ฉุดคร่าหรือหน่วงเหนี่ยวกักขังหญิงมารดา โดยมิชอบด้วยกฎหมายในระยะเวลาซึ่งหญิงนั้นอาจตั้งครรภ์ได้

(2) เมื่อมีการลักพาหญิงมารดาไปในทางชู้สาว หรือมีการล่อลวงร่วมประเวณีกับหญิงมารดาในระยะเวลาซึ่งหญิงนั้นอาจตั้งครรภ์ได้

(3) เมื่อมีเอกสารของบิดาแสดงว่าเด็กนั้นเป็นบุตรของตน

(4) เมื่อปรากฏในทะเบียนคนเกิดว่าเด็กเป็นบุตรโดยมีหลักฐานว่าบิดาเป็นผู้แจ้งการเกิดหรือรู้เห็นยินยอมในการแจ้งนั้น

(5) เมื่อบิดามารดาได้อยู่กินด้วยกันอย่างเปิดเผยในระยะเวลาซึ่งหญิงมารดาอาจตั้งครรภ์ได้

(6) เมื่อได้มีการร่วมประเวณีกับหญิงมารดาในระยะเวลาซึ่งหญิงนั้นอาจตั้งครรภ์ได้และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเด็กนั้นมิได้เป็นบุตรของชายอื่น

(7) เมื่อมีพฤติการณ์ที่รู้กันทั่วไปตลอดมาว่าเป็นบุตร

พฤติการณ์ที่รู้กันทั่วไปตลอดมาว่าเป็นบุตรนั้น ให้พิจารณาข้อเท็จจริงที่แสดงความเกี่ยวข้องฉันบิดากับบุตรซึ่งปรากฏในระหว่างตัวเด็กกับครอบครัวที่เด็กอ้างว่าตนสังกัดอยู่ เช่น บิดาให้การศึกษา ให้ความอุปการะเลี้ยงดูหรือยอมให้เด็กนั้นใช้ชื่อสกุลของตนหรือโดยเหตุประการอื่น

ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังกล่าวข้างต้น ถ้าปรากฏว่าชายไม่อาจเป็นบิดาของเด็กนั้นได้ ให้ยกฟ้องเสีย” เป็นหน้าที่ของฝ่ายชายที่ถูกอ้างว่าเป็นบิดาของเด็กจะต้องพิสูจน์หักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าวข้างต้น

ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1649/2534 เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยได้ร่วมประเวณีกับโจทก์หลายครั้งจนโจทก์ตั้งครรภ์และคลอดบุตรออกมาคือเด็กหญิง ธ. โดยโจทก์ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับชายอื่น ดังนี้ เด็กหญิง ธ. จึงเป็นบุตรที่เกิดจากจำเลย จำเลยจึงต้องรับเด็กหญิง ธ. เป็นบุตร

เห็นได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดากับบุตรนั้นละเอียดอ่อนและซับซ้อน เพราะถ้าเป็นเรื่องง่ายๆคงไม่เป็นประเด็นตามที่เป็นข่าวพาดหัวมาเป็นสัปดาห์ จากที่กล่าวมาข้างต้นสรุปได้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างมารดากับบุตรนั้น กฎหมายถือว่าเด็กเกิดจากหญิงใดย่อมเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้นไม่ว่าในกรณีใดๆทั้งสิ้น แต่สำหรับการเป็นบิดากับบุตรนั้นเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์และมีปัญหายุ่งยากในการพิสูจน์จะอาศัยข้อเท็จจริงตามธรรมชาติแต่เพียงอย่างเดียวไม่พอจึงมีบทบัญญัติของกฎหมายกำหนดความเป็นบิดาไว้ทั้งในกรณีบุตรในสมรสและบุตรที่บิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน


ข้อมูลจาก http://astv.mobi/AzmNfEw
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 8 ต.ค. 10, 04:08 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
แม่ฟิล์ม แถลงข่าวงดเงินช่วยฝ่ายหญิง ช้าไปเปล่า??

แอนนี่เธอบอกตั้งนานแล้ว ว่าเธอไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับครอบครัวนี้แล้วนี่นา q*020


แม่ฟิล์มบอกอย่าเอาชื่อฟิล์มไปเกี่ยวข้องอีก??

แอนนี่ก็ไม่เคยพูดเรื่องฟิล์มเป็นพ่อตั้งหลายวันแล้วนี่นา


ฝ่ายฟิล์มแถลงข่าวรายวันจริงๆ q*020
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 8 ต.ค. 10, 09:56 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
แม่ฟิล์มพูดเหมือนคนที่ไม่ใช่คนที่เป็นแม่เลย พูดแบบเห็นแก่ตัวมากกว่า ทั้งๆที่เคยให้ความช่วยเหลือเขามาตลอด ปิดบังมาตลอดแท้ๆ จนเขาคลอดออกมายังจะแก้ตัวให้ลูกตัวเองอีก ปกป้องลูกมาไปหรือเปล่า ให้เขาทำอะไรเองบ้างได้ไหมครับ (เวลาเขาไปเอากันคุณแม่ไม่ได้ไปด้วยซักหน่อย) อย่าเลี้ยงลูกแบบโตไม่เป็นเลย น่าสงสารจังคุณแม่ q*020
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ลูกเป็ด
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 13 ต.ค. 10, 14:50 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เห็นด้วยแบนทุกฝ่ายเลยเพราะไม่รู้จะเชื่อใครดี

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม