เคยรู้สึกว่าเพื่อนเปลี่ยนไปเพราะ...Facebook ไหมครับ ผมเริ่มเล่นเฟซบุ๊คมาตั้งแต่ตอนที่คนไทยยังเล่นกันไม่มาก ตอนนั้นคนส่วนมากเล่นhi5กันอยู่ แรกๆผมก็เล่นHi5ควบคู่ไปด้วย เพราะเล่นhi5มาก่อน แต่ตอนหลังเพื่อนๆย้ายไปเล่นเฟซกันหมด ก็เลยเลิกเล่น hi5
เฟซบุ๊คเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ ช่องสเตตัส จะเป็นช่องที่ให้เขียนว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ผมว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่เฟซบุ๊คมีเสน่ห์มากๆ เพื่อนๆก็มักจะโพสความเป็นไปในแต่ละวัน ทำอะไรอยู่ คิดอะไรอยู่ มันทำให้ผมรู้สึกว่าเฟซบุ๊คได้ทำลายระยะทางและเชื่อมผมกับเพื่อนๆเข้ามาใกล้กันมากขึ้น
บรรยากาศคล้ายๆกับนั่งล้อมวงคุยกัน ช่วงเวลานั้นผมค้นหาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบสิบปี ได้เจอเพื่อนที่เคยเรียนประถม มัธยมมาด้วยกัน ได้ดูรูปปัจจุบัน บางคนผมก็จำแทบไม่ได้ บางคนอ้วนขึ้นมากเลย
ช่วงเวลานั้นคนที่เล่นเฟซบุ๊ค(เพื่อนๆผม)จะมีอารมณ์ในการเล่นคล้ายๆกัน เป็นอารมณ์ตื่นเต้นที่ได้เจอเพื่อนเก่า เป็นอารมณ์อยากคุยอยากถามสารทุกข์สุกดิบ ภาพวันเก่าๆก็ค่อยๆผุดขึ้นมา
พอเฟซบุ๊คเริ่มมีอายุมากขึ้น คนเล่นมากขึ้น วัฒนธรรมการเล่นของคนรอบๆตัวผมก็ค่อยๆเปลี่ยนไป ทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนปัจจุบัน แต่คนที่ไม่เปลี่ยนก็เยอะอยู่ ประมาณครึ่งๆ ( ปกติผมมักจะไม่Addและไม่รับAddคนที่ตัวเองไม่รู้จัก แต่ถ้าอยู่จังหวัดเดียวกัน เรียนมัธยมโรงเรียนเดียวกันไม่ว่าจะรุ่นไหน หรือ เรียนมหาลัยเดียวกัน ผมก็จะรับหมด )
มันเป็นวัฒนธรรมของการสะสมLike ไม่รู้ว่ามันเอาไปแลกHAอะไรได้ คุณจำนวนคนกดไลค์เนี่ย
ช่องสเตตัสที่เคยให้เขียนความคิดของตัวเองว่ากำลังคิดอะไรอยู่ กลับกลายเป็นช่องที่เอาไว้ให้ไปหาประโยคเท่ๆจากเน็ตมาใส่เพื่อให้คนมากดไลค์ หลายๆคนก็เนียนว่าตัวเองเป็นคนคิด ทั้งๆที่ มแร่งมีอยู่เกลื่อนเน็ต
ทุกๆวันนี้เปิดหน้า new feed แทนที่จะได้อ่านว่าแต่ละคนกำลังทำอะไรกันอยู่ คิดอะไรกันอยู่ กลายเป็นเจอประโยคเสี่ยวๆ ประโยคเท่ๆ เต็มไปหมด เหมือนเว็บบอร์ดชมรมกลอนยังไงไม่รู้
เพื่อนหลายๆคน ก็พยายามใช้เฟสบุ๊คสร้างภาพตัวเองให้ดูดี ตัดแปะประโยคคำพูดที่ดูดี ชอบแสร้งเป็นคนชอบปฏิบัติธรรม ชอบเลี้ยงแมว สร้างคาแร็กเตอร์ใหม่ๆขึ้นมาให้เพื่อนใหม่ๆดู คุณเพื่อนที่เป็นเพื่อนกันในชีวิตจริงน่ะมันรู้ไส้รู้พุงกันอยู่แล้ว
ซื้อครีมกระปุกละ2พันก็ต้องถ่ายรูปมาลง กินอาหารมื่อละหกเจ็ดร้อยก็ต้องถ่ายรูปโชว์กลัวคนไม่รู้ว่ารวย
เหตุการณ์ประมาณนี้มักจะเกิดจากบุคคลที่มีเฟรนด์เป็นพันๆคน ส่วนพวกคนที่มีเฟรนด์2-3ร้อยคนนี่ยังรักษาความเป็นตัวเองได้อยู่ เพราะส่วนมากมักจะเป็นเพื่อนในชีวิตจริง จึงไม่ต้องสร้างอะไรขึ้นมาให้ใครดู อยากโพสอะไร อยากด่าใคร ก็ไม่ต้องแคร์ พูดกันตรงๆเหมือนั่งคุยกัน แต่พวกใช้facebookเป็นเครื่องมือสร้างภาพ กับพวกที่มีเฟรนด์2-3พันคน พวกนี้เหมือนเดิมไม่ได้แล้ว จะพิมพ์จะเขียนอะไรก็ต้องเขียนให้มันดูดี เพราะคนอ่านเยอะ สูญเสียความเป็นตัวเองไปหมด
จากเดิมที่ผมรู้สึกว่าผมอยู่ใกล้เพื่อนมากขึ้น เข้าใจ(ความคิด)เพื่อนมากขึ้น ทุกวันนี้ผมกลับรู้สึกว่าผมห่างไกลจากเพื่อนบางคนเหลือเกิน บางทีก็ยอมรับว่าหมั่นไส้ เพราะผมรู้ว่าตัวจริง ชีวิตจริงของเพื่อน คนละเรื่องกับในเฟซบุ๊คเลย ในเฟซบุ๊คดูไฮโซ ดูชีวิตชิวๆ มีแต่ความสุข กินอาหารแพงๆ ใส่เสื้อผ้าดีๆ ไปเที่ยวเดือนละ8ครั้ง แต่ชีวิตจริงนี่คนละภพเลย ผมก็ไม่ใช่คนดีเท่าไร มีนิสัยโรคจิตคือเกลียดคนสร้างภาพ นานๆเข้าผมก็เริ่มรู้สึกไม่ชอบขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว มันค่อยๆสะสมขึ้นมามั้ง
ผมเชื่อว่าเพื่อนผมหลายๆคน ก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างภาพ แต่มันอาจเป็นไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อรู้สึกว่ามีคนเป็นพันๆจับจ้องมองอยู่ มีคนเข้าอ่านโปรไฟล์ทุกวัน เป็นอัตโนมัติที่ต้องสร้างอะไรที่มันดูดีขึ้นมา จะมาหาแฟนทางเฟซบุ๊คกันรึไงก็ไม่รู้ อ่านไปอ่านมาเหมือนอ่านคอลั่มหาคู่ของลุงหนวด
ความรู้สึกเดิมๆสมัยเล่นเฟซบุ๊คแรกๆหายไปหมดแล้ว
คงเป็นเพราะว่าวันนี้ผมเจอเพื่อนเก่าๆหลายคนแล้ว ความตื่นเต้นที่เคยมีก็หายไป เข้าไปอ่านสเตตัสของเพื่อน มันก็ไม่ใช่ความคิดของเขา ไม่ใช่ตัวตนของเขา แต่กลับเป็นความคิดของใครก็ไม่รู้ที่เพื่อนไปก๊อปจากเน็ตมาเพื่อให้คนมากดไลค์ ส่วนคนที่มาเม้นก็มีแต่ "โดนว่ะ" "กดไลค์" "เฮ้ยคิดได้ไงอ่ะ" "อื้อตรงกับเราเลย" -*-
แน่นอนผมก็กดไลค์ให้ ก็รักเพื่อนนี่หว่า
แต่เสน่ห์ Private แบบเดิมๆแทบเหลือน้อยเต็มทีแล้ว จากที่เคยใกล้กันก็กลับมาไกลกันกว่าเดิม บางทีเอ๊ะนี่เพื่อนกุรึป่าว
หน้าWall จากที่เคยเป็นเหมือนโต๊ะกลมที่พวกเราเคยล้อมวงนั่งคุยกัน เหมือนสนามบอลตอนเย็นๆที่เคยจับกลุ่มนั่งคุยกัน
ทุกวันนี้กลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ คุยอะไรกันก็ไม่รู้ ประโยคบ้าๆบอๆเต็มไปหมด
เพื่อนทุกคนกลายเป็นนักเขียน นัก
แต่งประโยคกันไปหมด
บางทีก็เข้าใจนะว่าเอามาแชร์ แต่มัวเอาแต่ที่คนอื่นคิดมาแชร์ จนลืมแชร์ความคิดตัวเอง
จากคุณ: อุราฮาร่า