เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วม

[ตอบ #1440 เมื่อ:]

สวัสดียามเช้าครับ พี่มหา ไข่เจียว ป้าแช่ม กระถิน น้องนิว

และเพื่อนๆทุกคนครับ.......

[ตอบ #1441 เมื่อ:]

ฮ้าวววววว)))))) ตื่นแระ

เมื่อวานผมวุ่นวายทั้งวันเลยครับ ไข่เจียว.....

คือมีงานด่วนเข้ามาครับ ต้องเร่งทำทั้งวันเลยครับ

(ทานข้าวเที่ยงตอนบ่าย2)...งานใหม่ก็เข้าเรื่อยๆ...

พอตอนเย็นลูกสาวก็โทรมาบอกว่า น้อง(เจ้าสามขา)อาการแย่ลง

คือเจ้าสามขามีอาการซึมๆมา2วันแล้วครับ ลูกสาวกลับถึงบ้านก่อน

ก็เลยรีบโทรมาบอกครับ...งานผมก็กำลังเร่ง..ห่วงลูก(แมว)ก็ห่วง

กว่าจะทำงานเสร็จก็หกโมงพอดี...ก่อนกลับบ้านเลยรีบแวะไปถาม

หมอว่าปิดกี่ทุ่ม แล้วก็รีบกลับไปรับลูกสาวกับเจ้าสามขามาหาหมอ

หมอบอกว่าเจ้าสามขาไข้ขึ้นสูงมากครับ..หมอฉีดยาลดไข้ให้

แล้วก็ให้ยามาทานครับ(ค่ารักษาแพงมาก)...กว่าจะเสร็จก็เกือบ 2ทุ่มครับ.....

กับข้าวก็ยังไม่ได้ทำ ก็เลยชวนลูกสาวฝากท้องในตลาดครับ

ผมกลับถึงบ้าน พออาบน้ำเสร็จก็สลบเลยครับ..เหนื่อยจริงๆ.....

[ตอบ #1442 เมื่อ:]

กลัวอ้วนเพราะ คนอ้วนมีโรคเยอะครับ
อีกอย่างมีประวัติตระกูลเป็นเบาหวานเกือบทุกคน ทั้งฝั่งพ่อและแม่ครับ ถ้าเริ่มอ้วน ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นเบาหวานในอนาคต

ตอนนี้ทำงานนั่งโต๊ะ แทบไม่ได้กระดิกตัวไปไหนเลย ใช้นิ้วเป็นหลัก แทบจะไม่ได้ออกแรงเลยไม่ค่อยใช้พลังงาน กินนิดเดียวก็อ้วนแล้ว

ส่วนมิคกี้ ต้องใช้แรงทั้งวัน ก็ต้องกินสามมื้อ ถ้าจะอ้วนกว่านี้ ก็ต้องกินสองจานต่อมื้อ และกินอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น แป้งๆ มันๆมากขึ้นครับ ซึ่งก็ไม่ดีต่อสุขภาพเลย

รูปร่างสมส่วน ดีแล้วครับ ถือว่า สมดุล

ถ้าเริ่มอ้วน แสดงว่า เกินดุลย์แล้ว ซึ่งถือว่าผิดปกติ ต้องรีบแก้ไข แต่คนทั่วไปอาจเข้าใจผิดว่า ไม่เป็นไร เพราะ ยังไม่เกิดโรค


สามารถคำนวณหาค่า BMI วัดความอ้วน เพื่อประเมินหาไขมันส่วนเกินในร่างกาย เพื่อคำนวณความเสี่ยงในการเป็นโรค

: Body Mass Index (BMI) คือ ดัชนีมวลกาย = น้ำหนักตัว / ความสูง ยกกำลังสอง

40 หรือมากกว่านี้ : โรคอ้วนขั้นสูงสุด
35.0 - 39.9: โรคอ้วนขั้นที่ 2
28.5 - 34.9: โรคอ้วนขั้นที่ 1
23.5 - 28.4: น้ำหนักเกินแล้ว

18.5 - 23.4: น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ

น้อยกว่า 18.5: น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์

ความสำคัญของการรู้ค่าดัชนีมวลร่างกาย เพื่อประเมินหาส่วนไขมันในร่างกาย ซึ่งค่าดังกล่าวนิยมใช้ในการคำนวณอย่าง แพร่หลาย เนื่องจากคำนวณง่าย และสามารถใช้ได้กับทุกเพศ ทุกวัย และทุกเชื้อชาติ

ประโยชน์ใช้เพื่อดูอัตราการเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ถ้าค่าที่คำนวนได้ มากหรือน้อยเกินไป เพราะถ้าเป็นโรคอ้วนแล้ว จะมีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจขาดเลือด และโรคนิ่วในถุงน้ำดี แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ผอมเกินไป ก็จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายลดลง ดังนั้นควรรักษาระดับน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

ถึงอย่างไง ผมก็อยากจะอ้วนขึ้นอีกสักหน่อยครับ พี่มหา....

(ผอมแล้วไม่มีคนชอบครับ)...อยากอ้วน..อยากมีพุง....

แต่ก็เหมือนอย่างที่ พี่มหา บอกคือผมทำงานใช้แรงงาน(บวกสมอง)

ก็เลยเหมือนออกกำลังกายทั้งวัน...เวลาทำงานบ้านก็เหมือนกันครับ

เป็นงานที่ใช้พลังงานมากเลยครับ..เวลาซักผ้าผมต้องใช้มือซักครับ

เพราะชุดทำงานของผมเปื่อนมากครับ ต้อลงแปรงหรือขยี้เอาครับ

เครื่องซักผ้ามีไว้ล้างกับปั่นแห้งเท่านั้นครับ.....

ทำแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ผมจะอ้วนกับเขาสักทีครับ......

[ตอบ #1443 เมื่อ:]

อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ ศิษย์พี่ใหญ่ ไข่เจ้ว มิค สองถิง ตรั่ยนิว

[ตอบ #1444 เมื่อ:]

จะเหมือนเดิมมั๊ย ทีตองเส่ ไม่มีใครอยากได้ เราได้ทุกที

[ตอบ #1445 เมื่อ:]

ตื่นมาสดชื่นแจ่มใสนะคะ แม้อากาศจะปิดๆ ชอบกล

[ตอบ #1446 เมื่อ:]

เฮ้อออออออออออออ เหนื่อย

น้องนิว(จอมกวน)้...เหนื่อยเรื่องอะไรเหรอครับ.....

สู้ๆครับ น้องนิว......

[ตอบ #1447 เมื่อ:]

อ้าว ))))))) หรอ

ไหนๆก็โดนกระทุ้งไปละ ก็เอาไปแก้ไขละกันนะ อย่าให้ถูกกระทุ้งฟรี อิอิ

จะพยายามมองหาลู่ทางเจ้าค่ะ พี่ใหญ่เหมือนพี่ชายคนโตเลยง่ะ
ห่วงแนวเดียวกัน ปกติจะปล่อยไหลตามใจคนอื่น แก้ไข แก้ไข

ยากเหมือนกันนะคะ ยอมรับ

[ตอบ #1448 เมื่อ:]

ทำงานทำการก่อนนะคะ

[ตอบ #1449 เมื่อ:]

สายอีกแล้ว........
ผมรีบไปทำงานก่อนครับ เพื่อนๆทุกคน.......

[ตอบ #1450 เมื่อ:]

เมื่อวานผมวุ่นวายทั้งวันเลยครับ ไข่เจียว.....

คือมีงานด่วนเข้ามาครับ ต้องเร่งทำทั้งวันเลยครับ

(ทานข้าวเที่ยงตอนบ่าย2)...งานใหม่ก็เข้าเรื่อยๆ...

พอตอนเย็นลูกสาวก็โทรมาบอกว่า น้อง(เจ้าสามขา)อาการแย่ลง

คือเจ้าสามขามีอาการซึมๆมา2วันแล้วครับ ลูกสาวกลับถึงบ้านก่อน

ก็เลยรีบโทรมาบอกครับ...งานผมก็กำลังเร่ง..ห่วงลูก(แมว)ก็ห่วง

กว่าจะทำงานเสร็จก็หกโมงพอดี...ก่อนกลับบ้านเลยรีบแวะไปถาม

หมอว่าปิดกี่ทุ่ม แล้วก็รีบกลับไปรับลูกสาวกับเจ้าสามขามาหาหมอ

หมอบอกว่าเจ้าสามขาไข้ขึ้นสูงมากครับ..หมอฉีดยาลดไข้ให้

แล้วก็ให้ยามาทานครับ(ค่ารักษาแพงมาก)...กว่าจะเสร็จก็เกือบ 2ทุ่มครับ.....

กับข้าวก็ยังไม่ได้ทำ ก็เลยชวนลูกสาวฝากท้องในตลาดครับ

ผมกลับถึงบ้าน พออาบน้ำเสร็จก็สลบเลยครับ..เหนื่อยจริงๆ.....

เจ้าสามขาเป็นหัดหรือเปล่าฮะ ตอนไข่เป็นหัดตอนเด็กๆ เค้าให้ไข่ทานยาเขียวตราใบโพธิ์ฮะ (ยาฝรั่งก็คงมีแต่ไข่จำไม่ได้เอง) ตอนลูกหมาที่ไข่เลี้ยงเป็นหัด (ซึ่งลูกหมามักไม่รอด ) ไข่ก็พาไปหาหมอแล้วให้กินยาเขียวตราใบโพธิ์ควบคู่กันเหมือนที่ไข่เคยทาน แต่หมาจะถ่ายเยอะเป็นยาเขียวของเหลวเลย(เจ้าปุ๊งทำท่าเกรงใจมากตอนไข่เช็ดอึให้มัน )แต่ในที่สุดเจ้าปุ๊งก็หายป่วยนะฮะ ไข่ดีใจมากๆเลย เพราะใครๆก็ว่าไม่มีทางรอด หมาเป็นหัดเนี่ย

ใครจะมาแอนตี้ยาเขียวอีกมั้ยเนี่ย


ไข่มองว่าจริงๆก็คือเป็นประสบการณ์ที่เคยทำมา ไม่ได้รู้จริงศึกษาล้วงลึก แต่ถ้าไม่ได้ล้วงลึกแล้วห้ามคุย เราคงไม่มีเรื่องอะไรจะคุยอ่ะนะฮะ เพราะก็คุยกันเรื่องสิ่งที่เคยพบเจอกันมาทั้งนั้น อีกอย่าง หมาเป็นหัด หมอหมาแผนปัจจุบันทุกรายก็ส่ายหน้าให้เตรียมฝังกันทั้งนั้น เจ้าปุ๊งรอดมาได้ก็ขอบคุณหมอหมาแผนปัจจุบันก็แล้วกัน ..

[ตอบ #1451 เมื่อ:]

ทำงานทำการก่อนนะคะ

แม่ศรีเรือน

[ตอบ #1452 เมื่อ:]

เราสองคนมาช่วยกันนะไข่นะ เอาให้ศิษย์พี่ใหญ่ยอมยกธงไปเลย

สองรุมหนึ่งเลยรึเนี่ย ตอนนี้ยังฟิตอยู่ สู้ไหว ๆ 555

จะซัดให้สองถิงคางเหลืองซะเลย นี่แน่ มาท้าชนหรอ

[ตอบ #1453 เมื่อ:]

ข้อความหายยยยยย อุตสาพิมภ์ตั้งเยอะ

ท่าไม่ดี ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นเลยนะสองถิง

อุตส่าห์พิมพ์ตั้งเยอะ อิอิ

[ตอบ #1454 เมื่อ:]

ข้อความหายอีกแย้วอารัยฟ๊ะ

เริ่มจิโมโหแล้วนะเว่ยยยยยยยย

มีครายเล่นตาลกกับสองถิงป่าวเนียะ

เข้าไปที่ Favorites ตรงมุมบนซ้ายมือ
คลิกไปที่History
เลือกหา webboard.sex.sanook.com/
เลือกหา กระทู้ความคิดเห็น ฟอรั่ม.........
ค้นหาที่ละข้อความ
จนเจอข้อความที่เคยส่งไป
copyแล้วเอามาแปะใหม่ ส่งใหม่ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปพิมพ์ซ้ำครับ

[ตอบ #1455 เมื่อ:]

กลับมาอีกรอบดูสิว่าเม้นท์ขอความยาวๆแล้วว่าจะหายอีกรึป่าว

ถ้ายังหายอีกก็แสดงว่าฤาษีตาไฟศิษย์พี่ใหญ่เป่าถาคามนต์ดำเสกใส่แน่ๆ

ถ้าเป่าถาคามนต์ดำเสกใส่แน่ๆ คงจะเป่าคาถามหาระรวยซะจะดีกว่า


........โอม จะเสกคาถา ลงน่ะหน้าท้อง
ให้ฉันมีชื่อก้อง อยู่ทั่วทุกมุมบ้าน
อย่าให้ต้องอกหัก ให้คนรักนานนาน
เป็นขวัญใจชาวบ้าน ทั่วถิ่นฐานเมืองไทย
ภาวนา ท่องคาถาทั้งปี
พบคนใจดี แล้วจะไม่มีแฟนใหม่
ผลบุญ เกื้อหนุนนำใจ
ถ้าปองรักใคร แล้วขออย่าให้เบื่อเรา

โอม ว่าเป่าคาถามหาอะไร...............




คาถามหานิยม

[ตอบ #1456 เมื่อ:]

พูดเหมือนไปนั่งดูเวลาไข่เจียวกินข้าวทุกมื้อเลยเนาะ

สองถิงไม่เห็นฝรั่งจะต้องกินพริกขี้ฟ้า กินกระเพรา มะเขือพวง

หรืออีกมากหลายอย่างเหมือนที่ศิษย์พี่ใหญ่ว่ามาพวกเขาก็ยังดู

สุขภาพแข็งแรงแถมอายุยังยืนยาวกว่าคนไทยเป็นไหนๆเลยค่ะ

ไม่จำเป็นต้องกินผักก็สามารถมีอายุยืนยาวและสุภาพดีได้แค่หา

ของกินอย่างอื่นมากินเพื่อทดแทนที่กินไม่ได้ก็มีถมไป

[ตอบ #1457 เมื่อ:]

ก็เพราะแกงไตปลาเผ็ดนะสิสองถิงถึงต้องทำแกงไตปลาเอง

สองถิงเป็นคนที่กินเผ็ดไม่ได้จ๊ะ ส้มตำใส่พริกแค่สามเม็ดก็เผ็ดจนน้ำหูน้ำไหลแล้วจ๊ะ

โชคดีแล้วที่ไม่ชอบกินเผ็ดมาอีกอย่าง.....


อาหารรสเผ็ดหากบริโภคมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดโรคร้ายที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน โรคที่แฝงมากับการกินอาหารรสเผ็ดมีดังต่อไปนี้คือ
•กรดในกระเพาะอาหาร การกินอาหารเผ็ดทำให้เกิดกรดในกระเพราะอาหาร คนกินเผ็ดจึงมักมีอาการท้องขึ้นและอึดอัด รู้สึกแสบและคันรูทวารหนัก และมีอาการอ่อนเพลียอยู่เสมอ
•สิว คนที่เป็นสิวหรือมีอาการอักเสบของต่อมไขมัน ไม่ควรรับประทานอาหารรสเผ็ดโดยเด็ดขาด เพราะความเผ็ดจะทำให้ต่อมไขมันทั่วร่างกายทำงานหนักกว่าปกติ จึงทำให้เกิดสิวได้ง่าย
•อาจทำให้อ้วน เป็นที่ทราบกันดีว่า อาหารรสเผ็ด ทำให้เรามีความอยากกินอาหารมากขึ้น ยิ่งกินเยอะก็จะยิ่งทำให้เป็นโรคอ้วนตามมา ดังนั้นใครที่ไม่อยากอ้วนควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด
•โรคไต นอกจากพริกแล้ว อาหารรสเผ็ดจำพวกเครื่องแกงมักมีส่วนผสมของเกลือ กะปิ ผงชูรสซึ่งมีโซเดียมอยู่ในปริมาณมาก การกินอาหารที่มีส่วนผสมของเครื่องแกงเสี่ยงต่อการเป็นโรคไต ความดันโลหิตสูง ไปด้วย
•โรคหัวใจ อาหารที่มีรสเผ็ดมีฤทธิ์การกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้หัวใจทำงานหนัก คนชอบกินอาหารรสเผ็ดจึงเป็นการเพิ่มความเสียงต่อโรคหัวใจโดยไม่รู้ตัว


รสอาหาร ...แค่ไหนถึงพอดี

แท้จริงแล้ว อาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพคืออาหารที่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติน้อยที่สุดนั่นเอง ดังที่ คุณสุจิตต์ สารีพันธ์ นักโภชนาการจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ความจริงแล้วอาหารตามธรรมชาติมันมีรสของมันอยู่แล้ว เช่น ผักสดที่เด็ดมาใหม่ๆ จะมีรสหวาน ผลไม้ดิบส่วนใหญ่ก็จะมีรสเปรี้ยว หรืออย่างปลาก็เหมือนกันถ้าสดมันก็จะมีรสออกหวานและอร่อย สิ่งเหล่านี้มันมีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่แล้ว เราแทบไม่ต้องปรุงรสอะไรเลย สมัยก่อนเราจะเห็นว่าคนแก่ หรือคนที่กินอาหารจากธรรมชาติจะแก่ช้า ผิวพรรณสดใส และแข็งแรงกว่าคนในยุคนี้มาก ทั้งนี้เป็นเพราะเขากินอาหารดี ไม่ติดในรสเหมือนคนปัจจุบันที่มักจะเคยชินกับการปรุง จึงทำให้เป็นโรคมากมายตามมา คุณสุจิตต์ ยังบอกอีกว่า ถ้าไม่อยากเสี่ยงกับโรคร้ายที่มากับการยึดติดในรสชาติอาหาร ควรเลือกกินอาหารที่มีรสชาติตามธรรมชาติ หรือปรุงรสแต่น้อย เป็นดีที่สุด

รู้อย่างนี้แล้ว นับแต่นี้เห็นทีจะต้องเก็บพริกป่น พริกแห้ง พริกน้ำปลา พริกขี้หนู บนโต๊ะกินข้าวให้ห่างมือบ้างแล้วใช่ไหมครับ

[ตอบ #1458 เมื่อ:]

ก็เพราะแกงไตปลาเผ็ดนะสิสองถิงถึงต้องทำแกงไตปลาเอง

สองถิงเป็นคนที่กินเผ็ดไม่ได้จ๊ะ ส้มตำใส่พริกแค่สามเม็ดก็เผ็ดจนน้ำหูน้ำไหลแล้วจ๊ะ

เซอร์ไพร้ส์อีก อยากทานแกงไตปลาฝีมือถิงถิงจัง ไข่จะซดโฮกๆเลยฮะ แต่แหม๋มมม..ถิงถิงก็ทานเผ็ดไม่มากแค่นี้ คุณฝรั่งก็ทำบ่นว่าแล้วเหรอฮะ มาเจอหนึ่งกอบมือต่อหนึ่งครกในไทยคงตกใจเป็นลมไปเลยนะฮะ

[ตอบ #1459 เมื่อ:]

เราสองคนมาช่วยกันนะไข่นะ เอาให้ศิษย์พี่ใหญ่ยอมยกธงไปเลย

ไม่ดีหรอกฮะ ..แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดีกว่า ยกธงแล้ว อีกฝ่ายก็ไม่ได้ถ้วยรางวัลสักหน่อย

[ตอบ #1460 เมื่อ:]

แล้วทีมิคกี้บอกให้กินเยอะครบสามมื้อแถมให้กินเพิ่มขึ้นอีกเป็นสองจาน

ส่วนของสองถิงบอกให้กินผลไม้เป็นมื้อเย็นก็พอแล้ว สองถิงกับมิคกี้น้ำหนัก

และส่วนสูงก็ไล่เลี่ยกันแถมยังทำงานใช้แรงงานเหมือนกัน สองถิงทำงานตั้งแต่

9โมงเช้าจนถึง3ทุ่มกว่า ถ้าไม่กินข้าวมื้อเย็นแล้วจะมีแรงไปวิ่งทำงานรึค่ะ

การทำงานของที่นี่ต้องแข่งกับเวลานะค่ะ ไม่ได้ทำแบบเช้าชามเย็นชามเหมือนที่บ้าน

เราที่เมืองไทยสักหน่อย ที่ร้านอาหารวันๆลูกค้า200-400คนต่อวันยิ่งวันเสาร์อาทิตย์

ยิ่งเพิ่มเป็นเท่าตัว แล้วอย่างนี้จะให้สองถิงกินไปได้ไงค่ะมื้อเย็นแค่ผลไม้



ศิษย์พี่ใหญ่ต้องถอนคำพูดนะค่ะ


ไม่อย่างนั้นสองถิงจะคิดว่าศิษย์พี่ใหญ่เป็นคนที่"เลือกที่รักมักที่ชัง"



ใช่เซ่...สองถิงทำอะไร...ก็ดูไม่ดี...ไม่ถูก..ไม่ควร...ในสายตาของศิษย์พี่ใหญ่

อืม อย่างน้อยตอนนี้ก็มีไข่เน่าเป็นเพื่อนละน๊า

ข้าแต่ประธานที่เคารพ ศิษย์พี่ใหญ่ไม่ได้ พูดคำหยาบหรือดูถูกเหยียดหยาม จึงไม่ขัด ข้อบังคับของสภา จึงไม่ต้อง ถอนคำพูดครับ


งั้นก็กินปลา เป็นโปรตีนที่ทำให้อิ่มท้องนานกว่าแป้ง
และ แกงจืดผักตำลึง แกงส้ม แกงเลียง หรือผัดผัก แต่ งดข้าว ลดแป้งลงก็ยังดีกว่า เพราะผู้หญิงเผาผลาญพลังงานน้อยกว่า จะอ้วนง่ายกว่า ถ้ากินในขนาดเดียวกับผู้ชาย


สองถิงกับมิคกี้น้ำหนักและส่วนสูงก็ไล่เลี่ยกัน แสดงว่า สองถิงอ้วนกว่า เพราะ ผู้หญิงที่สูงเท่ากับชาย น้ำหนักต้องน้อยกว่า 5-10 กก. เดาว่า สองถิงน่าจะไม่ค่อยมีเอวแล้ว อิอิ

จริงๆ ถ้าเข้าใจอย่างถูกต้อง จะรู้ดีว่า .......ไม่ใช่อด แต่เปลี่ยน

คือ ถ้าไม่พอ ยังหิว ก็ให้กินแต่อาหารที่ไม่มีแป้ง และไขมันมากในมื้อเย็น เพราะจะเหลือไปทำให้น้ำตาลในเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง


ถ้าไม่อิ่ม เราสามารถกินผักได้เยอะๆ กินผลไม้เพิ่มแทนได้ตามต้องการ ยกเว้น ทุเรียน เงาะ ลำไย เป็นต้น

[ตอบ #1461 เมื่อ:]

นี่ๆ มีใครที่ไหนเขาดื่มไวน์กับผงมะรุมบดกันละคร้า

เขามีแต่ชงน้ำส้มหรือน้ำสัปรดกับMalibu

Ginก็กับTonicแล้วก็มีมะนาวลอยแก้วเพื่อให้วิตามิตC

Balin-Kahluaก็จะผสมกะนมเผื่อเพิ่มคุณค่าสารอาหารเข้าไปอีก

ถ้าแอลกอฮอล์ไม่ดีจริงหมอตามโรงพยาบาลที่นี่ไม่อนุญาติให้คนไข้ดื่มได้หรอกค๊า

ที่นี้เห็นแล้วยังค่ะว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้เลวร้ายแบบที่ศิษย์พี่ใหญ่ว่ามา

สองถิงไม่ได้ดื่มเอาเป็นเอาตายสักหน่อย สองถิงดื่มเพื่อสุภาพจริงๆ

สองถิงเห็นคนที่บ้านเราดื่มเหล้าแล้วขอบอกว่าไม่ชอบเอาเสียจริงๆเลยค่ะ

ยิ่งเห็นผู้ชายเมาแล้วกลับมาบ้านแล้วหาเรื่องทะเลาะกับคนที่บ้านแล้วก็ตีกัน

สองถิงเกลียดๆๆๆๆๆมากๆของมากและก็เกลียด... เข้าไส้เลยละค่ะ

จะเอาความเชื่อส่วนบุคคล หรือเฉพาะถิ่นมาตัดสินถูกผิดไม่ได้ เพราะ ความเชื่อ อาจไม่ถูกต้อง

ความเชื่อที่ถูกต้องมักได้รับการยอมรับแพร่หลาย แต่หลายครั้ง สำหรับบางคน บางท้องถิ่น ก็เปลี่ยนความเชื่อไม่ได้ง่ายๆ


องค์การอนามัยโลก ยังไม่สนับสนุนเรื่องเหล้า เลยครับ

นพ.ทักษพลธรรมรังสี ผอ.ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) กล่าวถึง กรณีผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย 6 บริษัท จัดตั้งสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย (TABBA)ขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชีย เพื่อรณรงค์ให้คนไทยดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีความรับผิดชอบ โดยอ้างว่าเป็นคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ว่าสิ่งที่บริษัทเหล้าอ้างไม่เป็นความจริง องค์การอนามัยโลกไม่เคยแนะนำประเทศสมาชิก เพราะรายงานของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาแอลกอฮอล์ขององค์การอนามัยโลก ปี 2550 ระบุว่า มาตรการในลักษณะดังกล่าวไม่มีผลในการป้องกันปัญหาได้ อีกทั้งงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ระบุว่า มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่หันมาดื่ม และดื่มมากขึ้นหลังมีการรณรงค์
"สุราเป็นสินค้าชนิดเดียวที่ผู้ประกอบการออกมารณรงค์ให้บริโภคอย่างรับผิดชอบ แต่ข้อมูลวิชาการกลับชี้ให้เห็นว่านักดื่มส่วนใหญ่ดื่มเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ ดังนั้นผู้กำหนดนโยบายต้องรู้ให้เท่าทันกลยุทธ์ของบริษัทเหล้า เพราะการตั้งสมาคมขึ้นมาก็เพื่อใช้ต่อรองนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะด้านภาษี แสดงให้เห็นว่าเป็นการตั้งสมาคมขึ้นมาเพื่อบังหน้า เพราะที่ผ่านมาอุตสาหกรรมสุราพยายามทำทุกช่องทางในการรักษาผลประโยชน์ทางธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ เสมอ"



http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/special_report/14933


ที่แนะนำดื่มไวน์กับผงมะรุมบด เพราะ เป็นกุศโลบายให้สองถิงกินสมุนไพรได้ง่ายขึ้น ... คล้ายๆกับเวลาเด็กไม่ยอมกินยา ก็ต้องผสมน้ำหวาน หรือนมที่เด็กชอบ ซึ่งบางรายก็ยอมกินได้ เพราะ อยากกินนมหรือน้ำหวานนั้น
แต่ถ้าเด็กแก่แดด หรือผู้ใหญ่ประเภทแก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน ก็อาจจะใช้ไม่ได้ผล ก็จะเยง เถียง และเถียงงงงงงง

[ตอบ #1462 เมื่อ:]

ถ้าดื่มเพื่อสุขภาพจริงๆ คือ หนึ่งหน่วยไวน์ เท่ากับ 100 ซีซี หรือ มิลลิลิตร ซึ่งน้อยมากๆ
V
V
V

ดื่มไวน์แดงแค่สองแก้ว ยังเกินอยู่นะจ๊า



ในคนไทย ตัวเล็กว่าฝรั่ง อนุโลมได้ว่า ผู้ชายไทยไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าวันละ 2 หน่วย และ ผู้หญิงไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าวันละ 1 หน่วย

เครื่องดื่มที่ประกอบด้วยแอลกอฮอล์นั้นมีหลายประเภทด้วยกันเช่น เครื่องดื่มเบียร์ มีปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณ 4 กรัมต่อเบียร์ 100 มิลลิลิตร การดื่มเบียร์ประมาณ 1 กระป๋อง จะได้รับแอลกอฮอล์ประมาณ 13 กรัม เครื่องดื่มไวน์ มีปริมาณแอลกอฮอล์ 12 กรัม ต่อไวน์ 100 มิลลิลิตร การรับประทานไวน์ 1 แก้วปกติ จะได้รับแอลกอฮอล์ประมาณ 12 กรัม สำหรับเครื่องดื่มที่เป็นวิสกี้นั้น มีปริมาณแอลกอฮอล์ 40 กรัม ต่อ วิสกี้ 100 มิลลิลิตร การดื่มวิสกี้ประมาณ 2 ฝา จะให้แอลกอฮอล์ประมาณ 15 กรัม ดังนั้นไม่ว่าจะดื่มเครื่องดื่มที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอร์มากหรือน้อย โดยเฉลี่ยแล้วท่านจะได้รับปริมาณแอลกอฮอล์ในระดับใกล้เคียงกัน

ในทางการแพทย์ถือว่าการรับประทานแอลกอฮอล์ 12 - 15 กรัม เท่ากับปริมาณแอลกอฮอล์ 1 หน่วย จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าวันละ 80 กรัมหรือ 5 หน่วย เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี สามารถที่จะก่อให้เกิดผลเสียต่อตับได้ เป็นที่น่าสังเกตว่าบนขวดสุรานั้นไม่มีคำเตือนเกี่ยวกับการเกิดโรคตับ มีแต่การเตือนเพียงว่า "การดื่มสุราทำให้ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะลดลง" ซึ่งไม่เหมือนกับคำเตือนบนซองบุหรี่ที่ว่า "สูบบุหรี่มีพิษต่อร่างกาย"



http://www.thailiverfoundation.org/th/cms/detail.php?id=31

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากลองสำรวจความคิดเห็นผู้ชายทั่วโลก น่าจะไม่รู้สึกดีเท่าไร ที่เห็นผู้หญิงดื่มอัลกอฮอล์ โดยเฉพาะการอ้างดื่มเพื่อสุขภาพ แต่ดื่มจริงเกินกว่าที่อ้างไว้

[ตอบ #1463 เมื่อ:]

จะเอาความเชื่อส่วนบุคคล หรือเฉพาะถิ่นมาตัดสินถูกผิดไม่ได้ เพราะ ความเชื่อ อาจไม่ถูกต้อง




ที่แนะนำดื่มไวน์กับผงมะรุมบด เพราะ เป็นกุศโลบายให้สองถิงกินสมุนไพรได้ง่ายขึ้น ... คล้ายๆกับเวลาเด็กไม่ยอมกินยา ก็ต้องผสมน้ำหวาน หรือนมที่เด็กชอบ ซึ่งบางรายก็ยอมกินได้ เพราะ อยากกินนมหรือน้ำหวานนั้น
แต่ถ้าเด็กแก่แดด หรือผู้ใหญ่ประเภทแก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน ก็อาจจะใช้ไม่ได้ผล ก็จะเยง เถียง และเถียงงงงงงง

ไปแนะนำอย่างนั้น ศึกษามาหรือยังว่า มะรุมบด เจอกับไวน์ แล้วจะกลายร่างเป็นสารพิษหรือเปล่า แนะนำตามความเชื่อต่อๆกันมาว่าเหมือนให้เด็กทานยา มันไม่ถูกต้องน๊า ..พ่อมหาจำเริ๊ญญญญญ))))


ไม่เคยทำงี้กะใครเลยนะเนี่ย พิเศษ เฉพาะพ่อมหาฯจริงจริ๊ง

[ตอบ #1464 เมื่อ:]

พูดเหมือนไปนั่งดูเวลาไข่เจียวกินข้าวทุกมื้อเลยเนาะ

[/size]สองถิงไม่เห็นฝรั่งจะต้องกินพริกขี้ฟ้า กินกระเพรา มะเขือพวง [/size][/color]

หรืออีกมากหลายอย่างเหมือนที่ศิษย์พี่ใหญ่ว่ามาพวกเขาก็ยังดู

สุขภาพแข็งแรงแถมอายุยังยืนยาวกว่าคนไทยเป็นไหนๆเลยค่ะ

ไม่จำเป็นต้องกินผักก็สามารถมีอายุยืนยาวและสุภาพดีได้แค่หา

ของกินอย่างอื่นมากินเพื่อทดแทนที่กินไม่ได้ก็มีถมไป [/color]

ก็พูดเหมือนที่เห็นสองถิงเขียนเล่าเรื่อง การดื่มของมึนเมา มานะแหละ ทำนองเดียวกัน มีหลักฐานอ้างอิงคำพูดทุกคำ



โถๆ สองถิงเอ๊ย พริกชี้ฟ้า กะเพรา มะเขือพวง มันเป็นผักเขตร้อน ต้องนำเข้าไป จึงมีกินเฉพาะร้านอาหารไทยในต่างแดนเท่านั้น เพราะ สั่งนำเข้าไปราคาแพงกว่าผักพื้นเมืองของเขา ผักเมืองหนาว ซึ่งมีตั้งมากมาย

สองถิงเอาแต่เถียง มาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เคยเห็น เฮ้อ


ฝรั่งกินสลัดผักนาชนิด เยอะแยะไปหมด

สเต็ก ก็มีแครอท ถั่วฝักยาวฝรั่ง สับปะรด



ฝรั่งไม่ได้แข็งแรงเลย ขี้โรคมากๆ แต่การแพทย์เจริญมาก จึงยื้อชีวิตไว้ได้นาน

เคยไปอเมริกา และออสเตรเลีย มีแต่ฝรั่งอ้วนๆทั้งนั้น อ้วนมากแบบที่ไม่เคยเห็นฝรั่งแบบนี้ที่เมืองไทย เพราะว่า อ้วนจนขึ้นเครื่องบินมาไม่ได้ ที่นั่งไม่พอ แม้จะเป็นfirst classก็ตาม


จาก National Geographic ได้ทำการสำรวจมา ทั่วโลกพบว่า

สาเหตุการเสียชีวิตของมนุษย์บนโลกนี้คือ

อันดับ 1 โรคหัวใจ 1 คน ใน 5 คน

อันดับ 2 โรคมะเร็ง 1 คน ใน 7 คน

อันดับ 3 โรคหลอดเลือดสมอง 1 คน ใน 24


สาเหตุหลักของ 3 อันดับแรก เกิดจากการกินที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ

และไม่มีการออกกำลังกายน่ะครับ


องค์การอนามัยโลก (World Health Organization - WHO) กล่าวว่าทุกๆ ปีจะมีผู้คนชาวโลกประมาณ 46 ล้านคนตายลงด้วยโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคอ้วน ซึ่ง 46 ล้านคนที่ตายด้วยโรคที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้เกือบจะ 60% ของสาเหตุการตายทั้งหมดของชาวโลกเลยทีเดียว (ส่วนสาเหตุการตายของคนไทยจากสถิติล่าสุด ก็คือ มะเร็ง โรคหัวใจหลอดเลือด และโรคเบาหวาน)

โดยสาเหตุของการตายไม่ได้จำกัดอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้วเหมือนแต่ก่อนนี้แล้ว จากสถิติพบว่าสาเหตุการตายเกือบจะทั้งหมดเกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงวิถีของการดำเนินชีวิต และการกินอาหารที่มีปริมาณน้ำตาล ไขมันอิ่มตัว (saturated fat) และเกลือสูง แต่มีคุณค่าทางอาหารต่ำ นอกจากนี้ยังพบว่าคนอินเดียและคนจีนจะเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและเส้นเลือดจำนวนมาก และยังมากกว่าจำนวนผู้ป่วยในประเทศที่พัฒนาแล้วทุกๆ ประเทศรวมกันเลยทีเดียว


http://biology.ipst.ac.th/?option=com_content&view=article&id=151:2009-12-22-10-05-31&catid=45:bio-article-&Itemid=112



บรรดาผู้เชี่ยวชาญให้เหตุผลว่า มี 2 ปัจจัยที่ทำให้อายุเฉลี่ยของประชากรโลกสูงขึ้น คือผู้คนอายุยืนยาวขึ้นเนื่องจากการพัฒนาการรักษาพยาบาล และอัตราการเกิดของประชากรลดลงในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเอเชียและยุโรปหลายประเทศ

http://www.wearehappy.in.th/happy-society/agepeople/


ในราวตอนต้นคริสศตวรรษที่ 20 อายุขัยเฉลี่ยได้เพิ่มขึ้นประมาณเท่าตัวเป็น 50 ปี โดยเฉพาะในหมู่ประชากรของประเทศอุตสาหกรรม แต่ชาวประเทศโลกที่สามส่วนใหญ่โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกาแล้วอายุขัยเฉลี่ยยังไม่ถึง 40 ปี ในปัจจุบันนี้ประชากรของประเทศอุตสาหกรรมมีอายุขัยเฉลี่ยสูงถึง 80 ปี ซึ่ง ชาวญี่ปุ่นได้ครองแชมป์ของการมีอายุขัยเฉลี่ยที่สูงที่สุดในโลก (Wilmoth 1997)

http://www.ipsr.mahidol.ac.th/IPSR/AnnualConference/ConferenceII/Article/Article18.htm


สำหรับปัญหากายภาพเรื้อรังนั้น องค์การอนามัยโลกคาดประมาณว่า ร้อยละ 30 ของการตายจากมะเร็งหลอดอาหาร โรคตับ โรคชัก อุบัติเหตุจราจร ฆาตกรรม และการบาดเจ็บโดยเจตนา มีสาเหตุจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และในกลุ่มประเทศยุโรปที่มีอัตราการบริโภคพอๆ กับคนไทยนั้น 1 ใน 4 ของการตายในผู้ชายอายุระหว่าง 15-29 ปี นั้นมีสาเหตุมาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โดยอาจสรุปเป็นความเสี่ยงระหว่างผู้ไม่ดื่มและผู้ที่ดื่มประจำทุกวัน (category II) ในปริมาณ 20.0-39.9 กรัมของแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ หรือเทียบได้กับเบียร์ 1-2 ขวดใหญ่ โดยประมาณดังนี้ แท้ง (spontaneous abortion) เสี่ยง 1.8 เท่า มารดาคลอดทารกน้ำหนักต่ำ (low birth weight) เสี่ยง 1.4 เท่า มะเร็งปากและช่องปาก (mouth and oropharynx cancers) เสี่ยง 1.8 เท่า มะเร็งหลอดอาหาร (esophagus cancer) เสี่ยง 2.4 เท่า มะเร็งอื่นๆ เสี่ยง 1.3 เท่า ความดันเลือดสูง เสี่ยง 2.0 เท่า ตับแข็ง (liver cirrhosis) เสี่ยง 9.5 เท่า หัวใจเต้นผิดปกติ (cardiac arrhythmias) เสี่ยง 2.2 เท่า


จากรายงานประจำปีขององค์การอนามัยโลกปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ที่มุ่งชี้ให้เห็นภาระโรค (disease burden) จากมุมมองความเสี่ยงและพฤติกรรมเสี่ยงพบว่า [/size][/color]การบริโภคแอลกอฮอล์เป็นความเสี่ยงที่มีภาระโรคสูงเป็นอันดับ 5 [/size][/color] รองจากภาวะขาดอาหาร เพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย (unsafe sex) ภาวะความดันเลือดสูง การบริโภคยาสูบ โดยการบริโภคแอลกอฮอล์นำมาซึ่งการตายก่อนวัยอันควรจากอุบัติเหตุ ความรุนแรง และโรคภัยไข้เจ็บมากมายซึ่งการบริโภคแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุสำคัญ

http://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=998

[ตอบ #1465 เมื่อ:]

เสาร์อาทิตย์สองถิงจะมีเวลาเยอะหน่อยเพราะไปทำงานที่ร้านอาหารบ่าย

และในวันนี้สองถิงยังมีเวลาเถียงๆคัดค้านศิษย์พี่ใหญ่อยู่นิดหน่อยเลยขอคัดค้านเลยนะค่ะ

จริงๆแล้วภูมิประเทศของที่นี่กับบ้านเรามันแตกต่างกันดังนั้นการอยู่หรือกินก็ต้องมีแตกต่างกัน

ออกไปใช่ไหมค่ะ ที่นี่อากาศหนาวร่างกายก็ต้องการอาหารที่มีไขมันมากกว่าคนแถบ

เอเซียเพื่อมาทำให้ร่างกายอบอุ่นและต้านความหนาวเหน็บของที่นี่ คนที่นี่จะทานพวกนมเนยเนื้อสัตว์

มากเป็นพิเศษกว่าบ้านเรา วัฒนธรรมในการกินและดื่มเลยแตกต่างจากบ้านเรามากเหมือนกัน

จริงๆ จะว่าเพราะอากาศหนาว เลยทำให้ วัฒนธรรมในการกินและดื่ม แตกต่างจากบ้านเรามากเหมือนกันก็ไม่ใช่ เพราะ ปัจจุบัน อาหารฟาสต์ฟู๊ดตะวันตก ก็แพร่หลายในเมืองของไทยมากขึ้นเช่นกัน แม้จะเป็นเมืองร้อนก็ตาม

แต่อาหารไทยกลับไปโด่งดังในต่างประเทศ ฝรั่งที่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ก็เริ่มมาสนใจอาหารสุขภาพมากขึ้น


ทั้งๆที่อากาศร้อนตับจะแตก แต่พี่ไทยก็เมา วันไหนๆพี่ไทยก็เมา

เรื่องอากาศหนาวแล้วยิ่งกินมันๆ ยิ่งดื่ม นี่ไม่จริง


เคยไปอยู่อุตรดิตถ์ คนที่โน่น ยิ่งหนาวเหน็บก็เข้าบ้านนอนกันแต่หัวค่ำ ไม่มีใครยอมออกมาตากลมหนาวเลย และก็ไม่เห็นจะมีใครจะเปลี่ยนแปลงการกิน มากินมันๆมากขึ้นเลย ถ้ามานั่งซดเบียร์เย็นๆคงได้แข็งตาย ถ้าจะดื่มแบบไม่ใส่น้ำแข็งก็ไม่ถูกใจขาเมาหรอกครับ

แต่ช่วงหน้าร้อน จะก๊งกันทั้งคืน ใส่น้ำแข็งโซดาเย็นๆ ซดกันสนุกสนาน กับแกล้มมีแต่เนื้อๆ ทั้งนั้น

อาหารเหนือและอีสาน จะไม่ค่อยมันและมีผักเป็นพื้นกับน้ำพริกด้วยซ้ำ ทั้งๆที่อากาศช่วงกลางคืนจะเย็นกว่าในเมือง หรือภาคกลาง เพราะกินยังไงก็ต้องใส่ชุดหนาๆหลายๆชั้นอยู่ดี

จึงไม่ค่อยอ้วนแบบคนกรุงด้วยซ้ำไป

ฝรั่งที่ไม่อ้วน ไม่กินไม่ดื่มแบบนั้นก็เยอะ เพราะเขาไม่ได้เชื่อผิดๆแบบนั้น


มันก็ขึ้นอยู่กับสองถิงแล้วละว่า จะเชื่อแบบไหน


แม้แต่การแพทย์แผนไทย ยังกล่าวถึงอาหารในฤดูหนาว ควรงดมันจัด


http://www.thai-healthcare.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B8%9D%E0%B8%99%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%AB/

[ตอบ #1466 เมื่อ:]

สองถิงมาอยู่ที่นี่ก็เลยต้องทำตัวให้กลมกลืนกับคนที่นี่ทั้งการอยู่และการกินด้วย แต่มีอย่างหนึ่งที่

สองถิงไม่อยากเปลี่ยนคือกินแบบไทยๆทุกวันต้องมีอาหารแบบไทยๆถ้าวันไหนไม่ได้ทานอาหารแบบไทยๆ

สองถิงจะมีอาการเหมือนคนไม่มีแรงค่ะ ฝรั้งยังบอกว่าสองถิงโง่กินทำไมพริกเผ็ดก็เผ็ดกินไปเผ็ดไปโง่จริงๆเลย!!!!

สองถิงก็ไม่รู้จะตอบฝรั้งกลับไปเหมือนกันว่าเพราะอะไร (ยังคิดอยู่ในใจนี้ตูโง่จริงๆรึว่ะ)

เห็นมะ พอสองถิงชอบอาหารไทย สองถิงก็ว่า ไม่กินแล้วไม่มีแรง ....ทำไม ไม่บอกว่า อากาศหนาวร่างกายก็ต้องการอาหารที่มีไขมันมากกว่า ก็ต้องทานพวกนมเนยเนื้อสัตวมากเป็นพิเศษ

( คล้ายๆกับไข่เน่า ไม่ชอบผัก ก็บอกว่า กินผักแล้วไม่สบาย )


สองถิงก็ไม่รู้จะตอบฝรั่งกลับไปเหมือนกันว่าเพราะอะไร ก็ยอมรับความจริงไปซะเถอะ


บอกไปตามตรงเลยว่า โง่ที่ถูกกิเลสหลอกเอา ...เลยหาเหตุผลสารพัดมาสนับสนุนความอยากของเรา ต่อไป


พริกนะมีประโยชน์ แต่ถ้าเผ็ดมากไป ก็เป็นโทษ คล้ายกับยาเกินขนาด ประมาณนั้น

[ตอบ #1467 เมื่อ:]

สองถิงก็ไม่รู้จะหาข้ออะไรมากโต้แย้งศิษย์พี่ใหญ่เหมือนกันนะค่ะ เพราะสองถิงมีเวลาน้อยในการหาข้อมูลมาโต้แย้ง

เอาเป็นว่าที่สองถิงกล่าวเมือวานนั้นมาจากที่สองถิงได้เรียนรู้จากโรงเรียนที่นี่และสิ่งรอบๆตัวของสองถิงเองก็กันนะค่ะ

ก่อนไปขอเถียงอีกนิดแล้วนะค่ะ น้ำมันมะกอกจะมีกลิ่นแรงไม่นิยมนำมาทอดและผัดค่ะ

และจะทำให้รสชาดของอาหารเสียด้วยและอีกอย่างน้ำมะกอกจะมีราคาแพงกว่าน้ำปกติธรรมดาทั่วไปด้วยค่ะ

อย่าอ้างว่า เวลาน้อยเลย

ว่างเมื่อไรก็ค่อยเอาข้อมูลมาแย้งละกัน สิบปียังไม่สายนะจ๊ะ

เรียนรู้จากโรงเรียนทำอาหาร ก็จะได้แต่เน้นวิธีทำอาหารที่อร่อย แต่อาจจะไม่รู้เรื่องคุณค่าอาหาร ในส่วนประกอบแต่ละอย่าง เพราะ เป้นวิชาโภชนาการ ซึ่งบางทีก็ขัดกัน เพราะ อาหารอร่อย แต่คุณค่าอาจน้อย มีโทษแฝงอยู่ แต่กลับกัน อาหารสุขภาพ อาจไม่อร่อยถูกใจเรา เป็นต้น


ตอนนี้เราพูดกันถึง อาหารสุขภาพ ดังนั้น เรื่องกลิ่น รสชาด ราคา จึงไม่ใช่ประเด็นหลัก


หากเราจะพูดถึงแค่อร่อย ... การใช้น้ำมันปาล์มแล้วอาหารจะกรอบอร่อยจริง แต่ในน้ำมันปาล์ม มีกรดไขมันอิ่มตัวในปริมาณสูง จึงไม่ดีกับสุขภาพเท่าไหร่นัก และ อย่านำน้ำมันมาทอดซ้ำเกิน 2 ครั้งเพราะจะทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง

ส่วนน้ำมันเมล็ดฝ้าย เป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำกว่าน้ำมันปาล์ม และมีจุดเดือดสูง ทำให้เหมาะกับการทอดแบบ Deep Fried ทำให้อาหารกรอบนาน และที่สำคัญ น้ำมันเมล็ดฝ้ายมีคุณสมบัติคือ ช่วยให้อาหารทอดเก็บได้นาน ไม่เหม็นหืนง่าย

สำหรับน้ำมันถั่วเหลือง ไม่เหมาะสำหรับทอด เพราะมีจุดเดือดไม่สูงมาก หากอยู่ในความร้อนนาน ๆ จะเกิดการแตกตัวเป็นสารอนุมูลอิสระ ที่ก่อให้เกิดมะเร็ง

ข้อมูลจาก

การสหโภชน์ : บล็อกการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความรู้ด้านการสหโภชน์ของโรงเรียนพลาธิการ กรมพลาธิการทหารเรือ

http://nss-cooking.blogspot.com/2010/05/blog-post_6875.html

[ตอบ #1468 เมื่อ:]

น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันทำอาหารที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพ เพราะ มีกรดไขมัน ไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมากที่สุด
แต่รสนิยมอาหารเป็นเรื่องวัฒนธรรมเฉพาะถิ่น เฉพาะสังคม

การรับของดีจากวัฒนธรรมอื่นจึงต้องผ่านการเลือกและประยุกต์ใช้โดยคนในวัฒนธรรมนั้นๆ ความรู้เกี่ยวกับน้ำมันมะกอก จึงเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการพิจารณาประยุกต์ใช้ ตามความเหมาะสมของวิถีครัวและเงื่อนไขของแต่ละคน


....เนื่องจากน้ำมันมะกอก extra virgin ราคาค่อนข้างสูง จึงควรเลือกใช้เฉพาะทำน้ำสลัดหรือปรุงรสอาหารเท่านั้น

น้ำมันมะกอกคุณภาพดี ราคาแพงอย่างนี้ ควรเอามาปรุงเป็นน้ำสลัด หรือเครื่องปรุงรสของอาหารอื่น เพราะ น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษอย่าง cold press อาจเสียรสไปได้หากถูกความร้อนทำให้มีอุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส

จึงควรใช้น้ำมันมะกอกเกรดต่ำลงมาได้

ยิ่งสำหรับผู้ที่เริ่มลองใช้น้ำมันมะกอกใหม่ ยังไม่ชินกับกลิ่นน้ำมันมะกอกแรงๆ ก็น่าจะลองใช้ชนิดที่คุณภาพต่ำลงมา เพราะนอกจากกลิ่นมะกอกอ่อนลงแล้ว สนนราคายังถูกอีกด้วย โดยเฉพาะถ้าทำอาหารทอด หรืออาหารผัด ก็จะเหมาะพอดีกัน


....เรื่องรสชาติอาจแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและแหล่งผลิต ก็ต้องลองซื้อมากินดูจนได้ที่ถูกใจ


รสชาติและกลิ่นของน้ำมันมะกอกยังแปรไปตามเขตที่ปลูก น้ำมันมะกอกจากที่เดียวกัน ก็อาจมีกลิ่นและรสชาติแตกต่างกันไปได้ ในทางปฏิบัติการซื้อขายน้ำมันมะกอกแบบขายส่งจึงต้องมีการชิมก่อนเหมือนการ ชิมไวน์อย่างไรอย่างนั้น

ส่วนประเทศที่ผลิตน้ำมันมะกอก แต่ละประเทศจะมี Character ของตัวเอง เช่น
a) Greece จะมีความข้นกว่า (Heavy Texture)
b) Spain จะมีกลิ่นและรสชาติที่แรงกว่าประเทศอื่น
c) ฝรั่งเศส (Provencal) จะมีกลิ่นหอมหวาน (Fruity)
d) Italy จะคล้ายกับ Spain จะมีกลิ่นที่เด่นกว่า เหมือนกัน

ทั้งนี้ในฉลากของน้ำมันมะกอก จะมีชื่อของพันธุ์มะกอกที่ใช้ทำน้ำมันอยู่ ให้มองหา Green Provencal หรือ Tuscan Olives เพราะนี่คือมะกอก พันธุ์ดีที่สุด หรือถ้าอ่านไม่เจอ ก็เลือกตามความต้องการจากประเทศผู้ผลิตครับ

[ตอบ #1469 เมื่อ:]

กว่ากะตอบหมด เฮ้อ เหนื่อย

วันนี้หมดเวลาละ

พรุ่งนี้ค่อยมาไล่ทุบ ไข่เน่า

เอ๊ย ไล่ตอบไข่เน่า จอมมั่ว

[ตอบ #1470 เมื่อ:]

เห็นมะ พอสองถิงชอบอาหารไทย สองถิงก็ว่า ไม่กินแล้วไม่มีแรง ....ทำไม ไม่บอกว่า อากาศหนาวร่างกายก็ต้องการอาหารที่มีไขมันมากกว่า ก็ต้องทานพวกนมเนยเนื้อสัตวมากเป็นพิเศษ

( คล้ายๆกับไข่เน่า ไม่ชอบผัก ก็บอกว่า กินผักแล้วไม่สบาย )


สองถิงก็ไม่รู้จะตอบฝรั่งกลับไปเหมือนกันว่าเพราะอะไร ก็ยอมรับความจริงไปซะเถอะ


บอกไปตามตรงเลยว่า โง่ที่ถูกกิเลสหลอกเอา ...เลยหาเหตุผลสารพัดมาสนับสนุนความอยากของเรา ต่อไป


พริกนะมีประโยชน์ แต่ถ้าเผ็ดมากไป ก็เป็นโทษ คล้ายกับยาเกินขนาด ประมาณนั้น

เรื่องจริงย่ะ ไม่ใช่ข้ออ้าง

[ตอบ #1471 เมื่อ:]

กว่ากะตอบหมด เฮ้อ เหนื่อย

วันนี้หมดเวลาละ

พรุ่งนี้ค่อยมาไล่ทุบ ไข่เน่า

เอ๊ย ไล่ตอบไข่เน่า จอมมั่ว

มาไม่กลัว กลัวช้า

[ตอบ #1472 เมื่อ:]

ฝากไว้ก่อนนะค่ะเดี๋ยวให้สองถิงมีเวลาก่อนเดี๋ยวจะมาใหม่



ชะชะมาว่าสองถิงอ้วน.....ไม่มีเอว.....คิดได้ไง!!!!!!

คืนนี้สองถิงเหนื่อยกับงานและเรื่องส่วนมากพอแล้ว

เอาไว้ให้สองถิงมีเวลาว่างๆและอารมย์ดีๆก่อนจะกลับมาเอาคืน

[ตอบ #1473 เมื่อ:]

อะอะอะออออรุณณสวัสดิ์เจ้าค่ะ ธรรมะแลโภชนาการ

[ตอบ #1474 เมื่อ:]

ตามทันเรื่องน้ำมันมะกอก ศิษย์พี่ใหญ่ เข้มมากๆ

[ตอบ #1475 เมื่อ:]

รายงานก่อน ว่ายังไม่ได้คิดทำอะไรเพื่อตัวเองรุย
แต่พูดเรื่องออกไปทำงาน โดนย้อนกลับมาว่า บ้านจะไม่เป็นบ้าน
รายการต่อไป เป็นหางานเสริมเอาเอง จัดว่ากล้ายกขาแระนะคะ แต่ยังไม่ได้ก้าว

[ตอบ #1476 เมื่อ:]

เรื่องจริงย่ะ ไม่ใช่ข้ออ้าง

ไม่ชอบผัก เราทาน ผลไม้ เสริมด้วย นมเปรี้ยว สม่ำเสมอ

[ตอบ #1477 เมื่อ:]

ทานผักไม่ได้ เราทาน ผลไม้ เสริมด้วย นมเปรี้ยว สม่ำเสมอ

ก๊าบบบบบบบ)))))

[ตอบ #1478 เมื่อ:]

รายงานก่อน ว่ายังไม่ได้คิดทำอะไรเพื่อตัวเองรุย
แต่พูดเรื่องออกไปทำงาน โดนย้อนกลับมาว่า บ้านจะไม่เป็นบ้าน
รายการต่อไป เป็นหางานเสริมเอาเอง จัดว่ากล้ายกขาแระนะคะ แต่ยังไม่ได้ก้าว

งานที่ป้ากำลังอยากไปทำนี้ ใช้เวลานอกเวลาราชการเยอะเหรอฮะ ถ้าไม่นะ คือเช้าแปดโมง เย็น สี่โมงเย็นปกติ ไข่คิดว่าเรื่องบ้านไม่เป็นบ้านน่าจะมีทางออกนะฮะ คือพ่อบ้านอาจวิตกกังวลไปเอง ป้าอาจให้ความมั่นใจกับพ่อบ้านตรงนี้ว่าที่วิตกนั้น ไม่เป็นความจริง โดยอาจเขียนเป็นตารางชีวิตประจำวันว่าเช้ามา พ่อแม่ลูก ต้องได้ทานอาหารพร้อมหน้า เย็นมาพ่อบ้านกลับมา ต้องได้เห็นป้าแช่มยืนยิ้มทำกับข้าวอยู่ในครัวแล้ว ลูกๆนั่งทำการบ้านเรียบร้อย เจ้าจ้อยนอนหมอบไม่เกเร ฯลฯ ปัญหาที่พ่อบ้านกังวลอยู่ตรงไหน เราก็จัดการบริหารเวลาตรงจุดนั้น ก็โอเคนะฮะ

[ตอบ #1479 เมื่อ:]

ตามทันเรื่องน้ำมันมะกอก ศิษย์พี่ใหญ่ เข้มมากๆ

ไปก๊อบมา มาไม่ครบอีกตัดมาแต่ที่ชอบที่ชอบ

[ตอบ #1480 เมื่อ:]

กว่ากะตอบหมด เฮ้อ เหนื่อย

วันนี้หมดเวลาละ

พรุ่งนี้ค่อยมาไล่ทุบ ไข่เน่า

เอ๊ย ไล่ตอบไข่เน่า จอมมั่ว

หนายยยย)))) ครายยยย)))) จะมาไล่ทุบไข่ จะวิ่งไล่ตามไข่ทันมั้ยเนี่ย

ฟิ้วววววว


ขายาวๆยังงั้น ระวังวิ่งสะดุดขาตัวเองนะฮะ

[ตอบ #1481 เมื่อ:]

ฝากไว้ก่อนนะค่ะเดี๋ยวให้สองถิงมีเวลาก่อนเดี๋ยวจะมาใหม่



ชะชะมาว่าสองถิงอ้วน.....ไม่มีเอว.....คิดได้ไง!!!!!!

คืนนี้สองถิงเหนื่อยกับงานและเรื่องส่วนมากพอแล้ว

เอาไว้ให้สองถิงมีเวลาว่างๆและอารมย์ดีๆก่อนจะกลับมาเอาคืน

ใครมารังแกถิงถิง ก็เอาพริกขี้หนูปั้นลูกกลอนโยนใส่ปากเลยฮะ อิอิ..

[ตอบ #1482 เมื่อ:]

รายงานก่อน ว่ายังไม่ได้คิดทำอะไรเพื่อตัวเองรุย
แต่พูดเรื่องออกไปทำงาน โดนย้อนกลับมาว่า บ้านจะไม่เป็นบ้าน
รายการต่อไป เป็นหางานเสริมเอาเอง จัดว่ากล้ายกขาแระนะคะ แต่ยังไม่ได้ก้าว

แสดงว่า การกระทุ้งครั้งก่อนมีผลพลอยได้

ส่วนจะก้าวเร็วก้าวช้า ก็แล้วแต่ปัจจัย

แค่คิดจะเปลี่ยนก็ดีกว่า ... คนที่มักหาเหตุผลเพื่อจะเข้าข้างตัวเองต่อไป


เป็นกำลังใจให้ก้าวต่อไปครับ

[ตอบ #1483 เมื่อ:]

[ตอบ #1484 เมื่อ:]

บรรยากาศตอนนี้ดีมากๆเลยฮะ แดดยามเย็นสีส้มอ่อนๆ ส่องผ่านม่านบางๆเข้ามาในห้อง เสียงนกร้อง เสียงระฆังลม ไข่เลยไปหาเพลงเข้ากับบรรยากาศมาฝากฮะ เดี๋ยวก็ได้เวลาพาเบิตเข้านอนพอดีด้วย

กล่อมขวัญ-กุ้ง กิตติคุณ

เมื่ออาทิตย์อุทัยไขแสงอ่อน


นั่นดูมวลภมรร่อนผ่านพฤกษ์พันธุ์


สุขสันต์ฝันไปกับเพลง...ไร้ความหวาดเกรง


ไร้คนข่มเหงเสียงเพลงกล่อมขวัญ


หลับเถิดขวัญ...


หลับแล้วหรือขวัญเอย


เฝ้ากล่อมขวัญให้ลมรำเพยพัดขวัญเบาๆ


ใจรักเจ้าจะหยุด...ให้โลกหยุดตรงนั้น


ตรงที่ขวัญที่รักพักขวัญนินทรา



ปล่อยให้อัสดงหลงคอยโลก


โลกที่ใจเรรวนลืมส่วนนินทรา


ตราบนั้นขวัญจงหลับตา..ฟ้าสงบแล้ว


หลับเถิด...ขวัญ

[ไอค่อนข้อความ:]

	ปรากฎข้อผิดพลาดตังต่อไปนี้ขณะส่งข้อความนี้:
	คำเตือน: ความคิดเห็นนี้ถูกล็อกไว้! เฉพาะผู้ดูแลเท่านั้นที่ตอบได้
ชื่อ:
	แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:	ไอค่อนขณะนี้ กระทู้ทั่วไปเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย กระทู้สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กระทู้สำหรับเด็ก กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี กระทู้เฉพาะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน
	ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา ขนาดตัวอักษร เล็กมาก เล็ก ปกติ ใหญ่ ใหญ่มาก เปลี่ยนสี สีดำ/ขาว สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีม่วง สีนํ้าเงิน/ฟ้า สีเทา สีน้ำตาล สีเขียวฟ้า สีกรมท่า สีเลือดนก สีเหลืองอมเขียว
	[เพิ่มเติม]
	กลับไปกระทู้นี้ หลังจากการตั้งความคิดเห็น ไม่ใช้สัญลักษณ์แสดงอารมณ์
แนบไฟล์:	(แนบไฟล์เพิ่ม) ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ :	ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
	ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ: