แนวคิดดั้งเดิมสมัยที่พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เคยกล่าวไว้ในรายการนายกฯคุยกับประชาชนเมื่อ 22 ตุลาคม 2548 ว่า
“ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้นำเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับเรื่องการติดตั้งคอมพิวเตอร์ เรื่องของการเตรียมการที่จะให้เด็กนักเรียนทั้งหลายได้ใช้คอมพิวเตอร์มาเสนอ มีการประชุมมีเรื่องทำราคาให้อินเตอร์เน็ตถูกลง และสร้าง Interactive Book ทำ E-Book เพื่อเตรียมรองรับการติดตั้งคอมพิวเตอร์ 250,000 ตัวในปีการศึกษาหน้า นอกจากนั้นจะเพิ่มคอมพิวเตอร์อีก แล้วจะมีระบบเรียกว่า One Laptop per Child คือปี 2550 ถ้าลูกใครเข้าเรียนชั้นประถมปีที่ 1 จะแจกคอมพิวเตอร์คนละตัว แล้วเอากลับบ้านได้ด้วย เพื่อที่คอมพิวเตอร์ตัวนั้นจะมีหนังสืออยู่ในนั้น คือเป็น E-Book เป็นหนังสืออยู่ในคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องมานั่งอ่านแล้ว Book จะเป็น Interactive สามารถทำแบบฝึกหัดบนคอมพิวเตอร์เลย อันเล็กๆ 7 นิ้วครึ่ง กำลังเร่งทำเรื่องนี้”
ซึ่งวิสัยทัศน์โครงการ One Laptop Per Child น่าจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ปี 2550 แต่ก็มีอันต้องถูกยกเลิกไปเพราะการปฏิวัติรัฐประหาร
พรรคเพื่อไทย ที่นำโดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงมีนโยบายต่อยอดโครงการเดิม “คอมพิวเตอร์มือถือ สำหรับนักเรียนทุกคน (One Tablet PC Per Child)” ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ดีกว่าเดิม คือ Tablet PC ในวันนี้ เป็นของที่มีแพร่หลายอยู่แล้ว และราคาก็ถูกเหลือราว 3,000 บาทต่อเครื่อง ต้นทุนโครงการนี้จะไม่สูงเป็นแสนๆล้านบาทอย่างที่มีผู้กล่าวหา เช่น หากเครื่องละ 3,000 บาท และให้เฉพาะ ป.1 ใหม่ 800,000 คน ก็จะใช้งบ 2,400 ล้านบาททุกปี สมมติกรณีที่รัฐบาลจัดให้ทุกชั้นปีตั้งแต่ ป.1-ม.6 รวม 10 ล้านเครื่อง เฉพาะในปีแรก (ปีถัดไปให้เฉพาะ ป.1 รุ่นใหม่) ก็จะใช้งบ 30,000 ล้านบาท ในทางกลับกัน จะประหยัดงบอื่นได้อีกมากนับหมื่นๆล้านบาท เพราะเมื่อเป็น Ebook แล้ว ก็ไม่ต้องขายหรือแจกตำราเรียนที่เป็นหนังสือกระดาษอีก
“ใช้งบประมาณน้อยกว่าโครงการเรียนฟรี 15 ปีที่ใช้งบถึง 80,000 ล้านบาท ของสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งยังมีปัญหาว่าฟรีจริงหรือไม่ คุณภาพดีไหม ได้ประโยชน์คุ้มงบประมาณไหม”
สหรัฐอเมริกามีการพัฒนาการศึกษาในรูปแบบห้องเรียนแห่งอนาคต โดยสนับสนุนให้ครูทำบทสอนที่ให้เด็กนักเรียนได้ใช้ Tablet เพื่อเชื่อมต่อหลักสูตร และข้อมูลในโลกอินเตอร์เน็ตเพื่อค้นคว้าหาความรู้
ในยุโรป มีการตั้งหน่วยงานส่งเสริมให้มีการพัฒนาการเรียนการสอนในแนวทางนี้ แก่โรงเรียนและครู โดยการให้ทุนและให้ความรู้
ฝั่งเอเชียของเรา ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาคน ได้เล็งเห็นประโยชน์มหาศาลของอุปกรณ์ชิ้นนี้ จึงประกาศให้ การเรียนการสอนระดับประถมเป็นดิจิตอลทั้งหมดภายในปี 2014 โดยจะมีการนำ Tablet เข้ามาใช้ในการเรียนการสอน รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้การศึกษาแบบ Tablet-based เสร็จสมบูรณ์แบบในปี 2015 ซึ่งก็คืออีก 4 ปีข้างหน้า รัฐบาลเกาหลีใต้ลงทุนให้บทเรียน ข้อสอบ หนังสือทั้งหมดจะอยู่ในรูปแบบดิจิตอล ในอนาคตเด็กเกาหลีใต้ไม่ต้องมีหนังสือเยอะๆ อีกแล้ว
ในสิงคโปร์ เพื่อนบ้านของเรา ได้มีการนำ iPad มาใช้ในห้องเรียนชั้นมัธยม เพื่อสอนในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภูมิศาสตร์แล้ว
อินเดียได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์แบบ Tablet ที่มีชื่อว่า Aakash ของบริษัท DataWind Limited และทำการส่งมอบอุปกรณ์ดังกล่าวให้กับนักเรียนหลายร้อยคนในกรุงนิวเดลลี และมีแผนส่งมอบคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วนี้ทั้งหมด 1 แสนเครื่องฟรีในเบื้องต้น
ประเทศไทยเราเองนับได้ว่าเป็นประเทศที่ตื่นตัวในเรื่องนี้ระดับผู้นำของภูมิภาค
การแจก Tablet มันไม่ใช่แค่การแจก "เครื่อง Tablet" แต่การแจก Tablet หนึ่งเครื่อง มันหมายถึงหนังสือเรียนจำนวนมหาศาล มันหมายถึงการแจกห้องสมุดชั้นดีให้กับเด็กทุกคน มันหมายถึงการแจกสมุดจดบันทึก สื่อการเรียนการสอนแบบมัลติมีเดีย เครื่องอัดเสียง สมุดรายงาน Presentation ฯลฯ Tablet หนึ่งเครื่องยังสามารถเข้าสู่ฐานข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ อินเตอร์เน็ต
ถ้าเราพิมพ์หนังสือในห้องสมุดแจกให้นักเรียนทุกคน ต้องใช้งบประมาณมหาศาล แจกเท่าไหร่ก็ไม่พอ ถ้าเด็กมี Tablet แล้วเราทำหนังสือเป็น ebook แจกได้ไม่จำกัด ให้นักเรียนอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ อ่านแล้วก็อปปี้ได้ จดบันทึกได้ เอาไปทำรายงานได้ การทำรายงานก็ทำ Presentation นำเสนออาจารย์และเพื่อนๆ ได้ โดยมีโปรแกรมสำหรับทำการนำเสนอผลงานอยู่บน Tablet นั่นเอง เป็นห้องเรียนแห่งอนาคต เพราะฉะนั้น ความสำเร็จของ Tablet ผลที่จะเกิดประโยชน์กับเด็กนักเรียน ตลอดจนวงการการศึกษา ค่อนข้างมีเยอะ ซึ่งโครงการนี้ยังสอดคล้องกับโครงการ Free WiFi ของพรรคเพื่อไทยอีกด้วย
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องที่ต้องลงทุน ทีงบประมาณสร้างรถไฟฟ้าแพงๆ สร้างถนนแพงๆ เรายังจ่ายได้ แต่นี่เรากำลังจะสร้างคน สร้างให้เป็นคนไทยยุคใหม่ที่ทันสมัย แข่งขันกับต่างประเทศได้ ผมอยากให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จครับ