“คุณครู” นานแล้วนะครับที่ชื่อนี้ถูกลักพาตัวไปจากสารบบของชีวิต ตั้งแต่จบมัธยมก็ไม่ค่อยได้หล่นคำนี้ออกจากปากสักเท่าไหร่ แม้กระทั่งตอนนี้ที่อยู่ในช่วงวัยทำงานตอนต้น (ตอกย้ำว่ายังหนุ่มฟ้อ) ก็ยิ่งห่างไกลจากคำนี้ไปทุกขณะ และในห้วงเวลาเขยิบใกล้วันครูเข้ามา ก็พลอยจะทำให้อดนึกถึงเรื่องราวในอดีตสมัยยังหัวเกรียนเขียว หุ้มกางเกงสีกากีฉบับขาสั้นปุเลงชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียนเสียมิได้
กาลครั้งหนึ่งหัวเกรียน ขอเขียนถึงครู
ซึ่งสิ่งที่ผมกำลังจะสื่อสารผ่านตัวหนังสือ อาจจะไม่ใช่ประสบการณ์ที่สวยหรูดุจผ้าขาว หากเป็นผ้าที่
แต่งแต้มด้วยสีสัน อันมาจากการถ่ายทอดมุมมองของอดีตนักเรียนซนๆ คนหนึ่ง **
ดังนั้นหากคุณเป็นบุคคลประเภท “โลกสวย” อ่อนไหวต่อสิ่งรอบข้างอย่างง่ายดาย บทความนี้อาจไม่เหมาะกับคุณ ** แต่หากไม่ใช่..งั้นคุณพร้อมที่แอ๊บอายุ-ลดวัยไปกับผมหรือยัง ถ้าหาได้ขัดข้องลองส่องดูบรรทัดต่อไปได้เลย...
** กรุณาเปิดใจกว้างๆ และอย่าพกความซีเรียสมาทัศนา **
รู้สึกอย่างไรกับครู เมื่อหนูยังเป็นนักเรียน?
สมการชีวิตในช่วงนั้นยังไม่มีอะไรซับซ้อน เด็ก = เล่น, หัวเราะ, เริงร่า, สบาย แต่ทุกสิ่งที่เอ่ยมากลับถูกจำกัดให้อยู่ในการควบคุมภายใต้อำนาจของคุณครูโดย สิ้นเชิง ดังนั้นเมื่อมาโรงเรียนเด็กๆ อาจจะรู้สึกสนุกสนานเมื่อได้วิ่งเล่นกับเพื่อน แต่เมื่อเจอกับคุณครูเด็กจะเกิดการ
“แอนตี้” อยู่ในใจ รู้สึกเบื่อหน่าย ขี้เกียจเรียน รวมถึงความรู้สึกอีกมากมายในตอนนั้นที่แล่นเข้ามาในสมอง เช่น
1. กิจกรรม ทำเพื่ออะไร? เย็นวันศุกร์เอาแล้ว จับนักเรียนมานั่งพับเพียบสวดมนต์เข้าไปดิ ท่องกันยืดยาวจนตะคริวกินก้นไปหลายราย ไม่รู้จะให้ท่องอะไรขนาดนั้น กะให้ท่องเสร็จแล้วบวชเณรได้เลยไหม?, แต่ละวันก็ไม่เคยได้กลับบ้านแบบสบายตัวอ่ะ ต้องมายืนท่องสูตรคูณกันเป็นนกแก้วนกขุนทอง ใครแจ็คพ็อตแตกท่องผิดก็ต้องอยู่จนกว่าจะพูดถูก
ไหนจะวิชาประดิษฐ์ประดอย รวดร้าวใจชายชาตรีอย่างเราสุดๆ ที่จำได้
แม่นเลยคือ “สอนถักเปีย” เด็กผู้หญิงยังพอเข้าใจได้ แต่กับเพศหน้าแข้งบานอย่างผมจะสอนทำไมครับ? หนำซ้ำยังมีเก็บ
คะแนนอีก เดือดร้อนถึง
แม่ต้องมานั่งติวเข้มกันน่าดู บอกตรงๆ ว่าช่วงนั้นกลายเป็นเด็กมีปัญหา ต้องแอบเด็กแถวบ้านสุดฤทธิ์ กลัวมันเห็นจะนึกว่าเราเป็นตุ๊ด
2. แอบซาดิสม์รึเปล่า? บางวูบในความรู้สึกที่ลอยผ่านมายามโดนทำโทษสารพัดวิธี แอบคิดว่าคุณครูทำไปด้วยความสะใจ หรือชื่นชอบให้เด็กทรมานหรือเปล่า ฟาดเราด้วยไม้เรียวพลางกัดปากเหมือนจะมันส์เขี้ยว ในอัตราความหนักหน่วงที่คิดว่าไม่มีทางตีลูกตัวเองด้วยดีกรีนี้แน่ๆ จากนั้นก็ได้แต่พกแนวแดงๆ กลับไปบ้านให้พ่อแม่ได้อุ๊ยอ๊ายกันไป ไหนจะให้เราวิ่งรอบสนาม นั่งกลางแดดตัวดำเกรียมจนจวนเจียนจะเป็นเด็กย่างสด และอีกมากมายที่สรรหามาจัดหนักให้เยาวชนกระโปรงบาน-ขาสั้น
เมื่อพูดถึงคุณครูแล้ว แต่ละคนก็จะมีอุปนิสัยและบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็ใจดีดุจนางฟ้า บ้างก็ดุดันราวกับเจ้ากรรมนายเวร บ้างก็ดูงงๆ กับชีวิต ซึ่งผมก็เลยลองแบ่งออกมาคร่าวๆ ให้ดูกันดังนี้ ครูโหมดไหน เป็นไงกันบ้าง?
โหมดโหดสุด ผลการสำรวจล่าสุดจากสถาบันวิจัย “รองทรงสูงโพล” และ “ติ่งหูโพล” ปรากฏว่าคุณครูที่ได้รับการยกย่องว่ามีความ***มเกรียมเหนือผู้ใด เห็นจะไม่มีใครเกิน
“คุณครูฝ่ายปกครอง” ซึ่งภาพจำของใครหลายคนน่าจะเป็นคุณครูผู้ชายร่างท้วมๆ (จนถึงอ้วน) เก็กลุคโหดทำหน้าเหมือนท้องผูกตลอดเวลา อาวุธประจำกายคือไม้เรียว ถ้าเป็นโรงเรียนเก่าผมแกจะคาบนกหวีดด้วย ไว้คอยเป่าเรียกนักเรียนที่แหกกฏสารพัด
และหากจังหวะที่เป่าเตือนแล้วนักเรียนคนนั้นเกิดฮึดสู้วิ่งหนีขึ้นมา ก็ได้ครื้นเครงกันล่ะครับงานนี้! เพราะสองขาของคุณครูก็พร้อมจะวิ่งซอยยิกๆๆๆ ด้านมือก็จะตวัดไม้เรียวไล่กวดราวกับกำลังแข่งประเพณีวิ่งควาย บอกได้คำเดียวว่าไม่รอด ตามติดยิ่งกว่าผีมะขิ่นในเรื่องลัดดาแลนด์เสียอีก
โหมดแฮปปี้ ใจดียกกำลังสอง หนีไม่พ้นคุณครูประจำวิชาที่มีอัตราความเครียดน้อย อย่าง
“ครูวิชาสุขศึกษา” ที่มักจะคัดเอาครูพละหรือครูผู้หญิงอารมณ์เหมือนพยาบาลฝึกหัดมาสอน ซึ่งด้วยเนื้อหาของวิชาที่เน้นเอาเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวมาถ่ายทอด บวกกับความสบาย (หรือแอบขี้เกียจ? อิอิ) ของผู้สอนจึงทำให้ช่วงเป็นเด็กโปรดปรานครูสอนวิชานี้มาก และที่ลืมไม่ได้อีกอย่างคือ
“ครูสอนพระพุทธศาสนา” โดยเฉพาะหากวันนั้นนมัสการ
“พระอาจารย์” มาสอน โอ้โหยย! ของโปรดนักเรียน คุยเล่นกันมันส์ปาก หรือใครแอบงีบก็ยังพอจะทำได้ เพราะพระท่านใจดีแถมมีมุขตลกมากำนัลเด็กๆ อีกต่างหาก
โหมดข้องหทัย ขัดใจวัยรุ่น กราบเรียนด้วยความเคารพ คุณครูบางคนมีลักษณะบางประการที่ขัดแย้งกับวิชาที่สอนมาก ที่มักจะเจอประจำเลยก็
“ครูสอนพละ” วิชาที่สอนดูต้องแข็งแรงสุขภาพดี แต่เคยใช่ไหมที่ครูผู้สอนมาอย่างอ้วนเลย อย่างอาจารย์ของผมคนหนึ่งสมัยเรียน แกสอนโดดข้ามรั้วครับ แต่..เอ่อ..ขอโทษที น้ำหนักเกือบร้อยโล ลำพังทรงตัวให้เดินตรงยังกระท่อนกระแท่น แล้วนี่มาสอนโดดข้ามรั้วเลย แล้วผมจะมั่นใจดีไหมอ่ะ? เท่านั้นไม่พอแกยังได้รับความไว้วางใจจากทางโรงเรียนให้สอนลีลาศด้วย หืมมม! (เอากะเค้าสิ)
เมื่อพูดถึงคุณครูย่อมมาคู่กับการทำโทษ ซึ่งนับเป็นบุญอย่างล้นเหลือที่เด็กรุ่นใหม่ในปัจจุบัน เค้ามีกฏหมายห้ามการตีหรือทำโทษแบบรุนแรง เพราะหากยังเป็นรุ่นกระผมรวมถึงรุ่นก่อนหน้าโน้น คงได้ลิ้มรสไม้เรียวและอีกสารพัดวิธีที่คุณครูนำมอบให้เด็กนักเรียนได้แสบ สันต์ และหลาบจำกันเป็นทิวแถว ยังจำได้ไหมว่ามีอะไรกันบ้าง...ตามมารำลึกความหลังกันต่อที่
http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/000073/lang/th/