เบื้องหลังความสำเร็จฟุตบอลดารา”เพราะรักจึงจัดให้”ของช่อง 3

เย็นวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2555 มีการแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญเกิดขึ้น 2 สนาม

สนามแรก คือ สนามศุภชลาศัย เป็นการแข่งขันพุตบอลชิงถ้วยพระราชทานถ้วย ก.ระหว่างทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับทีมชลบุรี เอฟซี

สนามที่สอง คือ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นการแข่งขันฟุตบอลดารา 42 ปี ช่อง 3 “เพราะรักจึงจัดให้”

แม้ที่สนามศุภชลาศัย จะเป็นการแข่งขันฟุตบอลอาชีพระหว่าง 2 ทีมที่ดีที่สุดในเมืองไทย และมี "แฟนคลับ" ตามไปชมอย่างมากมาย

แต่จำนวนผู้ชมกลับน้อยกว่า”ฟุตบอลดารา”ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

เป็นอีกครั้งที่”ช่อง 3”ทำให้ฟุตบอลอาชีพ และทีมชาติไทยต้องอับอาย เมื่อจำนวนผู้ชมฟุตบอล 42 ปีช่อง 3”เพราะรักจึงจัดให้”เกือบเต็มความจุ 60,000 ที่นั่ง

นี่คือ พลังของ”ความบันเทิง”และ”ช่อง 3”

เพราะคนที่เข้าไปดูฟุตบอลดารานั้นไปเพื่อดูดาราที่เขารัก และแรงโปรโมทอย่างหนักของ”ช่อง3”

กิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลนี้ถือเป็นสุดยอดกิจกรรม”อีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้ง”ที่ช่อง 3 จัดขึ้นมาในแต่ละปี

และจัดต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว

ก่อนหน้านี้เป็นการแข่งขันระหว่าง "ช่อง 3" กับค่าย "อาร์เอส" และเปลี่ยนเป็นการแข่งขันระหว่างดาราช่อง 3 ด้วยกันเองในช่วงหลัง

แต่ต้องมาเว้นวรรคไป 2 ปี เมื่อเกิดความขัดแย้งทางการเมืองขึ้น

การรื้อฟื้นการแข่งขันฟุตบอลดาราของช่อง 3 มาจัดใหม่อีกครั้งในปีนี้ถือว่ายิ่งใหญ่กว่าทุกครั้ง

เพราะนอกจากให้เวลาถ่ายทอดสดถึง 5 ชั่วโมงตั้งแต่ 15.00-20.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2555 แล้ว

ช่อง 3 ยังระดมดารา พิธีกร และผู้ประกาศข่าว ทั้งหมดมาร่วมในกิจกรรมนี้

และถ้าใครติดตามรายการช่อง 3 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่าแทบทุกรายการประชาสัมพันธ์กิจกรรมนี้อย่างหนักหน่วง

ผลที่ตามมาก็คือ จำนวนผู้ชมแน่นสนามราชมังคลากีฬาสถาน

…………………………

ในช่วงที่ผ่านมา “ช่อง3”ถือเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ทำกิจกรรมการตลาดมากที่สุด

“ประวิทย์ มาลีนนท์”ทำให้ช่องว่างระหว่าง”ประชาชน”กับ”คนหน้าจอ”ลดลง ไม่มี”จอโทรทัศน์”มาขวางกั้น

ว่ากันว่า”ความผูกพัน”ระหว่าง”คน”

ไม่ว่าจะเป็น”นักการเมือง”กับ”ประชาชน”

หรือ”ดารา”กับ”ประชาชน”

ระหว่างการเห็นผ่านหน้าจอ กับการพบ”ตัวจริง”

การพบตัวจริงจะสร้าง”ความผูกพัน”มากกว่า

การจัดกิจกรรมหรือ”อีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้ง”คือ กลยุทธ์หนึ่งในการลด”ช่องว่าง”ดังกล่าว
“ช่อง 3”จึงเอาจริงเอาจังอย่างยิ่งในการจัด”คอนเสิร์ตช่อง 3 สัญจร”ไปตามต่างจังหวัดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

เอาดาราและพิธีกรของช่อง 3 ไปร้องเพลงให้คนดูได้เห็นตัวเป็นๆ

จากนั้นก็นำคอนเสิร์ตมาฉายทางช่อง 3 ให้คนดูในจังหวัดนั้นได้เห็นตัวเองในจอโทรทัศน์

หรือการจัดคอนเสิร์ต "ซูเปอร์สตาร์ 4+1" ที่นำดาราซูเปอร์สตาร์รุ่นใหม่ ณเดช-หมาก-เคน ภูภูมิ-บอย ปกรณ์ และ มาริโอ้ ขึ้นเวที

นอกเหนือจาก "มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง" แล้ว ช่อง 3 ยังรุกด้าน”สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง”ด้วย

ฟุตบอลดาราจึงเป็นหนึ่งใน”อีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้ง”ของช่อง 3 เอาดารา-พิธีกร มาเล่นฟุตบอล โชว์ให้แฟนช่อง 3 ได้เห็นตัวเป็นๆของดารา

หรือแม้แต่กิจกรรมเพื่อสังคม หรือ "ซีเอสอาร์" เช่น การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของ”ครอบครัวข่าว”
“ผู้ประกาศข่าว”ของ”ครอบครัวข่าว”ก็ลงไปลุยด้วยอย่างจริงจัง ซึ่งทำให้”คนดู”ได้สัมผัสกับ”ผู้ประกาศข่าว”อย่างใกล้ชิด

การลด”ช่องว่างระหว่างจอ”ด้วยกิจกรรมการตลาดจึงเป็นกลยุทธ์หนึ่งของ”ช่อง3”ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง

และทำให้”ช่อง3”ผงาดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

....................

นอกจากนั้นวิธีคิดหนึ่งของ”ประวิทย์ มาลีนนท์”นั้นคล้ายกับการสร้างทีม”รีล มาดริด” คือ การดึง”ซูเปอร์สตาร์”มาร่วมทีมให้มากที่สุด เพราะ”ซูเปอร์สตาร์”แต่ละคนจะมี”แฟนคลับ”ของตนเอง

ยิ่ง”ซูเปอร์สตาร์”มาก “แฟนคลับ”ก็ยิ่งมkd คนดูช่อง 3 ก็เพิ่มขึ้นทันที

ไม่แปลกที่”ช่อง 3”จะเปิดประตูรับ "ซูเปอร์สตาร์" จาก "ชมพู่ อารยา" หรือ "ป๋อ ณัฐวุฒิ" จากช่อง 7 เพราะแต่ละคนล้วนมี”แฟนคลับ”ส่วนตัว

“ประวิทย์”นั้นสนับสนุนให้”ดารา-พิธีกร”หรือ”ผู้ประกาศข่าว”รับ”จ็อบ”เยอะๆ เพราะยิ่งเป็นที่ต้องการของ”ตลาด”ยิ่งแสดงว่า”คนหน้าจอ”คนนั้นดัง ยิ่ง”คนหน้าจอ”ดัง คนติดตามดูก็ยิ่งเยอะ และจะเป็นผลสะท้อนกลับมาที่”ช่อง3”

นอกจากนั้นเขายังมีกลยุทธ์สร้าง”ซูเปอร์สตาร์”ใหม่ๆขึ้นมา ไม่ได้ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเหมือนในอดีต

และผลพวงที่เห็นชัดเจนจากกลยุทธ์การตลาดของ”ช่อง 3”ทั้งหมด

นั่นคือ จำนวนผู้ชมในสนามราชมังคลาราชกีฬาสถานในวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม

และเรทติ้งที่แรงขึ้นเรื่อยๆของ”ช่อง3”

ที่มา มติชน ออนไลน์

เมื่อวานแย่งกันดูกับสามีค่ะ เราจะดูฟุตบอลช่อง3 แต่สามีจะดูฟุตบอลช่อง9

"แต่จำนวนผู้ชมกลับน้อยกว่า”ฟุตบอลดารา”ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน"
คือว่าจะพูดทำไมอ่ะครับ ผมว่าคุณดูบอลดาราก็ดูไป
ใครใครดูบอลถ้วย ก ก็ดูไป เขาใจรักจริงในการดูบอล
ไม่ใช่อะไรอะไรก็ดารา

ก็เค้าเทียบให้ดู หนุกๆ เด็กน้อยเอ๊ย
คอบอล กับ คอดารา ใครๆเค้าก็รู้อยู่แล้วว่ามันคนละตลาดกัน
เป็นนักกีฬา ใจเปิดกว้างๆหน่อยนะ ไม่ใช่ดูกีฬาเพื่อการพนันอย่างเดียว 555

ใครชอบแบบไหนก็ดูอันนั้น ไม่ต้องว่ากัน ส่วนตัวอยู่ช่อง 3 ตลอด 5 ชม.จนตาแชะ เพราะฮาดีตอนแข่งบอล ปกติไม่ดูฟุตบอล ไม่ชอบอะไรเครียดๆ

กองเชียร์ กับ แฟนคลับ ความหมายมันต่างกันนะ กองเชียร์เขาไปเชียร์ทีมของเขาทุกที่ๆทีมไปเตะอายุก้อต่างกันด้วย แต่แฟนคลับที่บ้าดารามีทุกที่อายุเหรอ10-25ปีโดยเฉลี่ยมันเทียบกันไม่ได้ เขียนแบบนี้ได้ไง ไช่ซี้ q*027

ดูเค้าเปรียบเทียบดิ ฟุตบอลธรรมดากับฟุตบอลดารา ปกติแฟนคลับเค้าก็ตามไปดูคนที่เค้าชอบอยู่แล้ว แล้วนี่ดาราที่เค้าชอบมารวมตัวกัน เค้าก็อยากไปดูสิ แล้วมาเปรียบเทียบอะไรละ ฟุตบอลไทยพยายามให้เด่นก็จริงอยู่นะ แต่่ว่าแค่ฟุตบอลโลกเนี่ยพูดซะดิบดีว่าจะชนะโอมาน เป็นไงละเก่งแต่ปากสุดท้ายแพ้อยู่ดี จะให้ช่อง 3 เหมือนช่อง 7 เหรอสร้างละครน้ำเน่าออกมาอ่ะ ดังๆในช่องก็เหลือไม่กี่คนแล้ว เรายอมรับเลยนะว่าบ้านเราอ่ะดูช่ีอง 3 ตลอดช่อง 7 ไม่เคยดูเพราะเบื่อ ช่อง 3 นำเสนออะไรใหม่ๆมาตลอด แต่ช่อง 7 เหรอ เดิมๆซ้ำซากจำเจ แล้วเราก็ดูช่องอื่นนะยกเว้นช่อง 7 นี่เหตุผลส่วนตัวนะ แล้วอีกอย่างเรื่องการตลาดใครๆเค้าก็ต้องทำืทั้งนั้นไม่ใช่เหรอที่ว่าดาราแม่เหล็กที่เค้าดึงมาร่วมงาน อันที่จริงชมพู่ดังอยู่ช่อง 7 ก็จริง แต่ว่ายังไม่ดังขนาดตอนนี้ แต่พอชมพู่ย้ายมาช่อง 3 นี่ดังกว่าช่อง 7 เยอะ แล้วนี่ดูคนเขียนเปรียบเทียบสิ เป็นอีกครั้งที่”ช่อง 3”ทำให้ฟุตบอลอาชีพ และทีมชาติไทยต้องอับอาย เมื่อจำนวนผู้ชมฟุตบอล 42 ปีช่อง 3”เพราะรักจึงจัดให้”เกือบเต็มความจุ 60,000 ที่นั่ง อับอายตรงไหน ขอโทดนะ เค้าไม่ใช่นักฟุตบอลอาชีพเค้าเตะให้ผุ้คนได้เชียร์กันสนุกๆไม่ได้มาเตะจริงจังแต่ถ้าเล่นเป็นอาชีพอาจจะดังกว่านักเตะตอนนี้ก็ได้เพราะมีแต่คนหล่อๆแล้วไม่ใช่ว่าคนหล่อบางคนเตะบอลไม่เป็นนะ บางคนเตะเก่งๆก็มี คิดมากไปป่ะคนเขียน คิดบวกเยอะๆหน่อยนะจะได้เจริญๆไม่ใช่มามุดหัวเขียนให้แต่คนอื่นแบบนี้ คิดลบมากไปจะจ่มดิ่งในสิ่งที่ตัวเขียนนะ เบื่อพวกนี้จริงๆ

ไปกันใหญ่แล้ว ใส่อารมณ์กันจัง แตะไม่ได้เลยนะครับ แฟนคลับ
ไปว่าคนเขียนข่าวอีกแนะ เค้าเขียนคอลัมภ์บันเทิงให้มีอรรถรสในการอ่าน ก็มีล่วงเกินกันบ้างก็ผ่านๆไปเถอะนะ

คือไม่ได้อยากไปดูช่อง 3 หรอกครับ แต่แฟนลากไปดู ผมเฉยๆมากที่เจอดารา มันก็คนเหมือนกับเราเนี่ยแหละ จะไปตื่นเต้นกับมันทำไม ดูหนังดูละครก็ดูไป เบื้องหลังเขากินอะไรนอนยังไงจะไปรู้มันทำไม จะเลียนแบบเขาทำไมในเมื่อเราก็มีจุดยืนของเราอยู่แล้ว

ชอบบิ๊กจ๊ะกะคุณพุดเดิ้ลพากษ์บอลอ่ะ ขำดี

ชอบตอนเตะบอลอ่ะ ฮามาก ใครไม่ชอบ ก็ไม่ต้องดู เค้าไม่ได้มาบังคับให้ดู (พวกชอบเครียด) q*094

หนุกดี คลายเครียด ชอบพุดเดิ้ล กะ บิ๊กจ๊ะ ตอนพากษ์บอล ฮา มากกกกก q*073

อยากkickคนตั้งกระทู้อะ เอาสมองส่วนไหนคิดเรื่องแบบนี้ มันคนละรูปแบบกันโดยสิ้นเชิง
บอลดารา มันบัตรฟรี เตะกันเล่นๆ แพ้ชนะไม่คิดไร เปลี่ยนตัวได้ไม่จำกัด และนานๆ มี1นัด ลองเอา 6หมื่นของคุณ1นัด ไปวัดกับทีมลีก 30กว่านัดสิ คนเข้าดูแบบไหนมันจะมากกว่ากัน
บอลลีก มันเสียตัง มืออาชีพเขาเตะกันมีผลต่อทีมมากถ้าแพ้หรือชนะและเตะกันทั้งปี อยากไปดูนัดไหนก็ได้ บอล ก.มันไม่มีผลอะไรต่ออันดับลีกเหมือนแค่เตะดูเชิงกันเฉยๆ

ถ้าคุณอยู่ใกล้ทั้งสองสนาม คุณจะไปสนามไหนล่ะ คนไทยแม้แต่เจ้าของกระทู้ก็ชอบอยู่แล้วนิอะไรฟรีๆ ลอง ทีมดาราไปเตะ แบบทีมลีกสิ จะมีคนไปดูได้แบบนี้ทุกนัดไหม อย่าเอาตรรกะ เน่าๆของคุณมาวัดเลย

กะประมาณด้วยสายตา ไม่ถึง 6 หมื่นหรอกครับ อย่างเก่งก็ ไม่เกิน 5 หมื่น
เพราะ ราชมัง จุคนได้ไม่เกิน 6 หมื่นนิดๆ คงเอาบอลดารา มาเปรียบเทียบกับบอลถ้วยไม่ได้ครับ เพราะ event มันต่างกัน บอลถ้วยเค้าเตะกันประจำ คนดูก็มากน้อยต่างกันไป แต่บอลดารา จัดปีละครั้ง คนจึงแห่มาดูดาราเยอะกว่า ลองให้บอลดาราเตะทุกเดือนๆ สิ คนดูจะเยอะเหมือน
ที่อ้างหรือเปล่า...ไม่ได้ anti ดารานะครับ เป็นสีสรรดี แต่ไม่เห็นด้วยที่คนตั้งกระทู้ เอามาเปรียบเทียบกัน มันคนละเรื่องเลย...

เมื่อวานคนเยอะมากนะครับ จากการที่นั่ดูหน้าจอช่อง3 แต่ถ้าได้ดูเทปย้อนหลังเมื่อปีที่แล้วปีที่แล้วคนเยอะว่านะครับ ความคิดส่วนตัวตำหนิได้ครับ

คนไม่เห็นเยอะเลย ที่นั่งว่างเยอะแยะ ไม่ได้เต็มความจุซักหน่อย ความจุ ปกติ65000 ที่นัั่ง (ข้อมูลจากกกท) แต่เห็นจากถ่ายทอดสดมีคนดูเฉพาะสแตนด้านข้างเท่านั้น(คนไม่เต็มด้วย) ด้านหลังประตูไม่มีคนเลย

เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้นะ มันต่างกัน เยอะ

แต่ก็ยังดีที่เป็นถ่วย ก เพราะมีแฟนบอลประจำทีมอยู่แล้ว แต่ถ้าวันอาทิตย์เป็นบอล ทีมชาติ คงจะเป็นสนามล้างเพราะคนคงตามแฟนไปดู ดารา คงสนุกกว่า ไปนั่งดูบอลไทยแบบเสียอารมณ์ แถมไปดูดารายังได้ของจากบูทติดไม้ติดมือด้วย ถ้าเฮงเผลอๆได้ รถ ฟรีขับกลับบ้านอีกต่างหาก

ตอนคุณประวิท จับฉลาก คนส่วนใหญ่กุมมือแฟนนั่งลุ้นกันทั้งสนาม มีทั้งเสียงเฮ เสียงเสียใจ "เออเอ่ย"

บอลทีมชาติก็หัดจัดให้มีแบบนี้บ้างคนจะได้เยอะครับ เหมือนบาส NBA ที่มีช่วงแฟน มาชูตบาส เอาเงิน เอารถ

สนามกีฬาราชมังคลาฯ หลังติดเก้าอี้ เหลือความจุเพียง 49722 ที่นั่ง แล้วจะเกือบ 6 หมื่นได้งัย (เพราะก็ยังมีัที่นั่งว่างอีกเยอะ)แล้ว นัดชิงถ้วย ก ขายบัตรราคาละ 100 ส่วนบอลดารา ฟรี ลองเก็บบัตรเท่ากับนัดชิงถ้วย ก. ดิอยากรู้เหมือนกันว่าจะเหลือคนไปดูสักเท่าไหร่...เหอ เหอ

พวกไม่มีหัวคิด ดูบอลอย่างนี้

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน