หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: เตียบัน ตบหน้า ฮุนเซน ยิ่งลักษณ์ ลากไส้แม้วผลประโยชน์ทับซ้อนน้ำมันกับกัมพูชาตั้งแต่ปี 51  (อ่าน 5409 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 25 ม.ค. 13, 19:34 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
“คุณอภิสิทธิ์ ควรแสดงหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้ออ้างของคุณ ว่านายทักษิณได้รับประโยชน์จากกัมพูชาหรือไม่ หากคุณไม่มีหลักฐาน นั้นก็หมายความว่าคุณกำลังหลอกลวงคนไทยกว่า 60 ล้านคน รวมถึงชาวกัมพูชา 14 ล้านคนด้วย”

สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา 22 ม.ค.56




“ถ้ามีหลักฐานก็เรียนเชิญได้เลย วันนี้ไม่มีอะไร เป็นการกล่าวหาและต้องขอความเห็นใจ วันนี้เรามีกรณีเรื่องปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องทำงานตรงนี้อย่างเต็มที่ในการปกป้องอธิปไตย และเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน”

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 24 ม.ค.56




“พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยเสนอที่จะเข้ามาลงทุนโครงการพลังงานในกัมพูชา และรัฐบาลกรุงพนมเปญก็ยินดีเปิดรับการลงทุน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ”

พลเอกเตียบัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา 15 พ.ค.51




จริงหรือเท็จโปรดใช้วิจารณญานครับ..

ขอบคุณแหล่งที่มาครับจากสายตรงภาคสนาม..


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 25 ม.ค. 13, 20:01 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
พล.อ.เตีย บัน ยอมรับ ทักษิณ สนใจลงทุนธุรกิจพลังงาน

โดย กรุงเทพธุรกิจ วัน พฤหัสบดี ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 00:00 น.

รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ของกัมพูชา เผย ทักษิณ เคยเสนออยากลงทุนโครงการพัฒนาพลังงาน และรัฐบาลกรุงพนมเปญก็ยินดีเปิดรับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายเตีย บัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกลาโหมของกัมพูชา เปิดเผยระหว่างร่วมพิธีเปิดถนนหมายเลข 48 ที่จังหวัดเกาะกง ของกัมพูชา ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยเสนอที่จะเข้ามาลงทุนโครงการพลังงานในกัมพูชา และรัฐบาลกรุงพนมเปญก็ยินดีเปิดรับการลงทุน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

"คุณทักษิณเป็นนักธุรกิจที่มีศักยภาพ หากเขาเข้ามาลงทุนในกัมพูชาจริง จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตต่อไป" รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชากล่าว

อย่างไรก็ตาม นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งเดินทางมาร่วมพิธีเปิดถนนสายที่ 48 ที่ไทยให้ความช่วยเหลือด้านเงินกู้แก่กัมพูชา กล่าวว่า ไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สนใจลงทุนในกัมพูชาจริงหรือไม่ และการก่อสร้างถนนสายนี้ ไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับแผนการลงทุนของอดีตนายกฯเนื่องจากรัฐบาลไทย ได้ตกลงให้ความช่วยเหลือเงินกู้มานานแล้ว


http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000104466

“เขาพระวิหาร” “แหล่งพลังงาน” “ปตท.” และกลุ่มทุนอดีตนายกฯ “ทักษิณ” กลายเป็นเรื่องเดียวกันอย่างแทบไม่น่าเชื่อ... แต่ก็ต้องเชื่อ เพราะ “พลังงาน” เป็นสิ่งมีค่า เป็น “ขุมทอง” ที่ทักษิณยอมแลกได้ทุกอย่าง แม้ว่าจะทำให้ไทยต้องสูญเสียเขาพระวิหารให้กับเขมร และอาจต้องสูญเสียดินแดนและอธิปไตย ก็เพื่อแลกกับแหล่งพลังงาน ในอ่าวเขมร แหล่งพลังงานที่เหลืออยู่แห่งเดียวในโลก ปริศนานี้กำลังถูกเฉลยออกมาว่า ทำไม ทักษิณ ถึงต้องมีเอี่ยวในปตท. !



ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนลได้รับสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาในการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่ง ในบริเวณอ่าวไทย แต่ยังมีพื้นที่แหล่งนี้ที่กัมพูชาเรียกว่า “บล็อก B” และ ปตท.สผ. ตั้งรหัสว่าโครงการจี 9/43 มีการพบเบื้องต้นว่ามีน้ำมันและก๊าซจำนวนมาก แต่ในหนังสือรายงานประจำปี 2550 ได้ระบุว่าเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างไทย-กัมพูชา และกำลังแก้ไขปัญหาเรื่องเส้นแบ่งเขตทางทะเล หรือเป็นหนึ่งในพื้นทับซ้อนระหว่างไทยและกัมพูชาอีกพื้นที่หนึ่ง
ที่สำคัญกว่านั้น ทางการกัมพูชายังมีความร่วมมือกับประเทศต่างๆ เพื่อสำรวจและวิจัยแหล่งพลังงานทั้งทางใต้ดิน และดาวเทียม บริเวณพื้นที่ชายฝั่ง และเบื้องต้นว่า บริเวณทะเลสาบ หรือ“โตนเลสาบ” ใจกลางประเทศ ยังมีแนวโน้มของแหล่งน้ำมันดิบ ที่เรียกว่า Permian Carbonates ซึ่งพบทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกเหนือจากแถบชายฝั่งที่มีแหล่งก๊าซอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะแถบ “จังหวัดเกาะกง” ของกัมพูชา จังหวัดทะเลชายฝั่งทางตอนใต้ ซึ่งพบแหล่งน้ำมัน

นั่นหมายความว่า เกาะกง กัมพูชา เป็นแหล่งน้ำมันแหล่งใหญ่ของโลกที่ยังคงเหลืออยู่ และยังไม่ได้ถูกขุดเจาะ ย่อมเป็นที่หมายปองของนานาประเทศทั่วโลก รวมทั้งทักษิณและเครือข่าย

“พลเอกเตีย บัน” บิ๊กของกัมพูชา เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า หนึ่งในนายทุนที่ต้องการเข้าไปลงทุนขุดเจาะน้ำมันในกัมพูชา คือ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”





http://www.positioningmag.com/magazine/details.aspx?id=71540

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 25 ม.ค. 13, 20:28 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
และนี่คือ เหตุผลว่า ทำไมทักษิณจึงต้องเป็นเจ้าของ ปตท. ซึ่งมีความพร้อมในเรื่องทั้งขุดเจาะ จัดจำหน่าย ดังนั้นปตท จะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจพลังงานในเขมร เป็นจริง โดยมีเครือข่ายธุรกิจพลังงานของ อัล ฟา**** ร่วมเป็นกองหนุน

ถ้าเลือกได้ เป้าหมายทำสัญญาให้เช่าเกาะกงของทักษิณกับเขมร ที่มีรัฐบาลฮุนเซนเป็นคู่สัญญา หาใช่ทำในนามรัฐต่อรัฐ แต่เป็นการทำในนาม “นิติบุคคล” โดยที่เกาะกงจะได้รับเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งรายได้ไม่ต้องเข้ารัฐบาลกัมพูชา และเป็นเขตปกครองพิเศษ นอกเหนืออธิปไตย

แน่นอนว่าสิ่งที่ทักษิณต้องการมากที่สุดคือ การสร้างระบอบ “การเมือง” ใหม่ เป็นประชาธิปไตยแบบตัวแทน ที่เรียกว่า ระบอบทักษิณ โดยอ้างถึงระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน ที่ใครมีเงินก็เล่นการเมืองได้ (อ่านเรื่อง Kingdom or Republic of Thailand ใน POSITIONING ฉบับ เดือนมิถุนายน 2551 ประกอบ)

อะไรจะเกิดขึ้น หากทักษิณสามารถนำบริษัทเข้าไปลงทุนในเขมร ?

โมฮัมหมัด อัล ฟา**** - เพื่อนซี้ “ทักษิณ” ร่วมก๊วน “เทมาเส็ก” แนบแน่น “ปตท.”

เมื่อย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ขุดเจาะน้ำมันของไทย จะพบว่ามหาเศรษฐีห้างสรรพสินค้าแฮร์รอดส์ (Harrods) โมฮัมหมัด อัล ฟา**** (Mohamed Al Fayed) เพื่อนเลิฟของอดีตนายก “ทักษิณ” เข้ามาได้ประโยชน์จากธุรกิจน้ำมันในไทยมานาน ผ่าน ปตท.สผ. บริษัทลูก ปตท. ก่อนที่ปตท. จะเข้าตลาดหุ้นเมื่อปี 2544
โดย Asian Economic News และนิตยสาร Offshore ลงข่าวพร้อมเพรียงกันในช่วงธันวาคม 2542 ว่าหลังจากโมฮัมหมัด อัล ฟา****จัดตั้งบริษัท แฮร์รอดส์ เอ็นเนอร์ยี่ (Harrods Energy) ก็ได้สิทธิสำรวจน้ำมันใน 4 แปลงขุดเจาะในอ่าวไทย คือ B2/38, B11/32, B11/38 และ B12/32. ห่างจากชายฝั่งระยอง 150 กิโลเมตร โดยมีศักยภาพในการขุดเจาะน้ำมันวันละ 8,000 บาร์เรล ซึ่งในการสำรวจขุดเจาะครั้งนั้น Harrods Energy ถือหุ้น 50% ในการลงทุนสำรวจขณะที่ ปตท.สผ. ถือหุ้น 50%ที่เหลือ


จากการสืบค้นข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท แฮร์รอดส์ เอ็นเนอร์ยี่ จดทะเบียนในเมืองไทยเมื่อ 22 พฤษภาคม 2541 ใช้ชื่อเป็นทางการว่า แฮร์รอดส์ เอ็นเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) ต่อมาเปลี่ยนชื่อจนไม่เหลือคราบเดิม เป็นเพิร์ล ออย (Pearl Oil) (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในรายชื่อผู้ถือหุ้น) เมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2547 เพราะถูกขายให้กับบริษัท Pearl Energy Pte. Ltd. ที่มีฐานอยู่ในสิงคโปร์ สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือเมื่อสืบสาวต้นทางจะพบกลุ่มทุนเทมาเส็ก (Temasek) แห่งสิงคโปร์ถือหุ้นบริษัทดังกล่าวผ่านทาง Mubadala Development (ข้อมูลจาก Business Week และ RGE Monitor) ซึ่ง “เทมาเส็ก” มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับ “ทักษิณ” และคือบริษัทที่ซื้อหุ้นในชินคอร์ป จากครอบครัว ”ทักษิณ” ด้วยมูลค่ากว่า 73,000 ล้านบาท


Pearl Oil ยังคงได้สัมปทานขุดเจาะน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เช่น แปลง B 5/27 ที่แหล่งจัสมิน และ B12/32 ณ แหล่งบุษบงในอ่าวไทย เป็นต้น ส่งต่อน้ำมันดิบให้กับ ปตท.สผ. ภายใต้สัญญาซื้อ-ขาย 20 ปี เช่นเดียวกับเมื่อ 8 ธันวาคม 2549 Pearl Oil ก็ได้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพิ่มในแปลง G10/48 บริเวณตอนใต้ของอ่าวไทย เมื่อสมัยนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

จากข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์พบว่ากรรมการของเพิร์ลออย ยังเป็นกรรมการในบริษัทที่เกี่ยวข้องรวม 8 บริษัท แต่ละบริษัทต่างระบุว่าทำธุรกิจรับสัมปทานขุดเจาะน้ำมัน และมีทุนจดทะเบียนบริษัทละ 100 ล้านบาท บางบริษัทมีรายได้ แต่บางบริษัทยังไม่ได้บันทึกรายได้ โดยบริษัทที่มีรายได้สูงสุดคือเพิร์ลออย ประเทศไทย มีรายได้ปี 2549 รวม 7,071 ล้านบาท กำไร 1,654 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 16.54 บาท


แหล่งน้ำมันดิบในกัมพูชา
จำนวนบ่อน้ำมันขุดเจาะสำรวจแล้ว 9 หลุม/บ่อ พบน้ำมันดิบ 5 หลุม/บ่อ ยังไม่ได้สำรวจอีก 10 หลุม/บ่อ
ปริมาณน้ำมันดิบสำรอง2,000 ล้านบาร์เรล
ปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรอง10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
มูลค่าการผลิต (ประมาณการ)6,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
การสนับสนุนของรัฐจัดตั้งองค์กรปิโตรเลียมแห่งชาติ (Cambodia National Petroleum Authority) ขึ้นมากำกับดูแล

ที่มา – สื่ออุตสาหกรรมออนไลน์เพื่อนักอุตสาหกรรม



มีอีกมากมายครับทั้งภาพและข้อมูลแต่ไม่สามารถเอามาลงได้เพราะอาจทำให้กระทู้โดนอุ้ม..

ขอบคุณทุกแหล่งที่มาครับ.




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
1600
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 25 ม.ค. 13, 23:08 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
หว่า! รวยขึ้นนี้เข้ากระเป่าตัวเองชิมิ
แต่เงินที่ลงทุนและจ่ายปชช.นี่เงินหลวง
เนียน-ทั้งฉลาดและเก่งสมคำร่ำลือ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 27 ม.ค. 13, 11:00 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
แปลกจริง ขนาดเอาข้อมูลมาให้อ่านกันจะๆแบบนี้ ก็ยังมีคนหูหนวก ตาบอดกันอยู่ คงเป็นคนประเภทบูชาคนรวย คงหวังว่าซักวันเขาจะโยนเศษกระดูกให้แทะบ้างมั๊ง
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 27 ม.ค. 13, 17:10 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ย้อนรอย “แม้ว” ตัวพ่อ ซูเอี๋ย ฮุนเซน ยกแผ่นดินให้เขมร

20 ก.ย.52 ทักษิณ ทวิตเตอร์ข้อความว่า “รู้ไหมว่าเขาพระวิหารเป็นของเขมร เพราะเราแพ้คดีที่ศาลโลกเมื่อสมัยจอมพลสฤษดิ์ เป็นนายกฯ คุณเสนีย์ ปราโมช เป็นทนาย ผมยังเอาค่าขนมบริจาค”

3 มี.ค.54ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว๊อยซ์ทีวี ยอมรับเตรียมทำสัมปทานบ่อน้ำมันแต่ไม่ระบุว่าเป็นที่ไหน



28-29 พ.ค. 54 น.ส.พ.เสตรทไทมส์เผยแพร่คำสัมภาษณ์ทักษิณมีความตอนหนึ่งว่า “พรรคเพื่อไทยจะรื้อฟื้นข้อตกลงกรณีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณ 4.6 ตารางกิโลเมตร บริเวรใกล้กับเขาพระวิหารเพื่อพิจารณาข้อตกลงดังกล่าว เราควรมีการพูดคุยกัน ไม่ใช่เอะอะ ๆ ก็ส่งทหารเข้าไป ถ้าคุณมายิงใส่เพื่อนบ้านของตัวเองแล้วจะอยู่ด้วยกันอย่างสงบได้อย่างไร ถ้าคุณใหญ่กว่าหรือรวยกว่า คุณก็ควรมีจิตใจที่ดีและเมตตาต่อคนที่จนกว่าและตัวเล็กกว่า”

30 พ.ค.54ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ จาการ์ตา โกลบ ของอินโดนีเซียว่าไทยเป็นฝ่ายใช้กำลังทหารรุกรานกัมพูชา




“เราต้องยอมรับคำสั่งของศาลโลก ไม่ว่าจะมีคำสั่งออกมาอย่างไรเราก็ต้องยอมรับ ไม่เช่นนั้นเราจะถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ”

“หากไม่ยอมรับก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดสงครามกับกัมพูชา ซึ่งไม่เป็นผลดี จะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมทั้งเสี่ยงต่อการที่สหประชาชาติส่งทหารเข้ามาแทรกแซง ทำให้เสียหายมากขึ้นไปอีก”

สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ




จีน รักษาอธิปไตยทะเลจีนใต้ เคยประกาศลั่นไม่สนคำพิพากษาศาลโลก

"25 ส.ค. 2006 จีนประกาศถึงสหประชาชาติ ไม่ยอมรับอำนาจระหว่างประเทศหรือนุญาโตตุลาการเหนือข้อพิพาทการปักปันเขตแดนทางทะเล ข้อพิพาทดินแดนและกิจกรรมทางทหาร " : CHINADAILY

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 28 ม.ค. 13, 08:59 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เป็นเรื่องของผลประโยชน์ไม่ลงตัว เลยมีการออกมาแฉความจริงให้
สังคมรับรู้ q*031

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
มันต้องอย่างนี้
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 28 ม.ค. 13, 16:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ห้ามแม้วทำพลังงานกับเขมร ดังนั้นทุกอย่างควรให้ชาติอื่นๆทำ ไม่ว่าเป็น มาลย์ สิงคโปร์ จีน เอาไปเลย แต่ห้ามแม้วนะ 5555555 ขำวะ แทนที่คนไทยจะได้เป็นผู้ได้สัมปทานในเรื่องต่างๆในประเทศรอบๆบ้านเรา กลับเป็นประเทศอื่นๆเอาไปหมด เจริญละ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
1600
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 30 ม.ค. 13, 20:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ออ..ถ้าดินแดนตรงนั้นมันเป็นของเขมร
เขมรก็ยกให้มาเลย์ สิงคโปร์ จีนทำได้
มีน้ำใจ...
q*020
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
แดนสนธยา
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 31 ม.ค. 13, 13:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

จริงรึไม่จริงไม่มีใครตอบได้คนตอบได้น่าจะเป็นรัฐบาลประชาธิปัตย์เพราะอยู่ในช่วงที่ท่านเป็นรัฐบาลถ้าทำก็ไม่แปลกเพราะเขาไม่ใช่คนไทยแล้ว ขอให้เขารวยยิ่งๆขึ้นไป

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:  กัมพูชา  ยิ่งลักษณ์ น้ำมัน แม้ว ฮุนเซน 

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม