Cafe Vienna อาหารไทยรสไทยแท้ และอาหารนานาชาติรสเข้ม

ในย่าน "นานา" ที่เต็มไปด้วยคนตะวันออกกลาง และร้านอาหารต่างชาติเสียเป็นส่วนใหญ่ ใครเลยจะคิดว่า ลึกเข้าไปในสุขุมวิทซอย 4 จะมีร้านอาหารอร่อยๆ ที่เน้นเมนูอาหารไทย และขายอาหารนานาชาติควบคู่ไปด้วยอยู่ร้านหนึ่ง ชื่อว่า "Cafe Vienna" ร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ชั้นล่างของโรงแรม Petals Inn บูติคโฮเต็ลเล็กๆ ที่สะอาดและสะดวกสบาย แถมยังราคาไม่แพงอีกด้วย

แต่แม้ว่าจะเป็นร้านอาหารไทยในย่านคนต่างชาติ แต่ "Cafe Vienna" ก็ไม่ได้ทำอาหารไทยออกมามีรสชาติอ่อนๆ แบบเอาใจคนต่างชาติเลยแม้แต่น้อย เพราะเชฟของที่นี่ ซึ่งผ่านการทำงานกับร้านอาหารไทยในต่างแดนมาแล้ว เลือกที่จะนำเสนออาหารไทยให้มีรสชาติแบบอาหารไทยจริงๆ ที่มีความเผ็ด เปรี้ยว เค็ม และความเข้มข้นครบรสแบบไทยๆ มากกว่า ไม่มีการดัดแปลงรสชาติเพื่อให้ถูกปากฝรั่งแต่อย่างใด

ส่วนอาหารนานาชาติๆ ที่เป็นอีกหนึ่งความถนัดของเชฟ ก็ทำออกมาได้รสชาติดีไม่แพ้กัน เพราะมีความเข้มข้นครบรสอยู่ในตัว ไม่ต้องปรุงเพิ่มแต่อย่างใด ผิดกับการรับรู้ของคนทั่วไปว่าอาหารฝรั่งส่วนใหญ่จะต้องจืดๆ เลี่ยนๆ แต่อาหารฝรั่งที่ "Cafe Vienna" เป็นอาหารฝรั่งที่รสชาติเข้มข้นถูกปากคนไทยจริงๆ

"Deep Fried Snapper with Fish Sauce"

"Fried Rice in Pineapple with Prawn"
เริ่มกันที่อาหารไทย กับเมนู "Deep Fried Snapper with Fish Sauce" (ราคา 350 บาท) ปลากระพงทอดกรอบๆ ราดน้ำปลา กินคู่กับมะม่วงซอยรสเปรี้ยวๆ และน้ำปลาที่ปรุงรสมาเปรี้ยวเผ็ดกำลังดี เหมาะจะสั่งมากินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ สักจาน หรือจะสั่งมากินคู่กับ "Fried Rice in Pineapple with Prawn" (ราคา 170 บาท) ข้าวผัดสับปะรดรสชาติเข้มข้น หอมกรุ่นผงกะหรี่ แถมยังอุดมไปด้วยผักนานาชนิด เช่น พริกหวาน สับปะรด ถั่วลันเตา ลูกเกด และหอมหัวใหญ่ พร้อมกุ้งขนาดกำลังดีเนื้อเหนียวนุ่ม เป็นข้าวผัดที่ครบรส ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มอีก

แล้วก็มาถึงอาหารฝรั่งกันบ้าง กับเมนู "Filet Mignon Steak" (ราคา 380 บาท) สเต็กเนื้อฟิเลต์มิยองชิ้นหนานุ่ม ราดด้วยซอสเห็ดสูตรเฉพาะของเชฟ ที่ให้รสชาติเข้มข้นชนิดที่ไม่ต้องเติมเกลือหรือพริกไทยเพิ่มอีก เพราะเป็นซอสที่มีทั้งความครีมมี่และรสชาติเฉพาะตัวของเห็ดที่ใช้ กินคู่กับเฟรนช์ฟรายกรอบๆ ในจาน และผักลวก อิ่มอร่อยได้ในจานเดียว

ระหว่างมื้ออาหาร ถ้าเป็นคนชอบดื่มค็อกเทล มาที่ "Cafe Vienna" แล้วจะไม่ผิดหวัง เพราะที่นี่มีค็อกเทลสูตรเฉพาะของร้านมากมายหลายเมนูให้เลือกสั่งมาเข้าคู่กับอาหารจานหลัก ถ้าเป็นสาวๆ ที่ไม่ชอบแอลกอฮอล์แรงๆ ลองสั่ง "Pink Lady Vienna" (ราคา 160 บาท) เครื่องดื่มสีแดงอมชมพูสวยใส รสเหล้าไม่แรงและเข้มเกินไป เพราะใช้ "Triple Sec" เป็นตัวหลัก แถมยังมีรสเปรี้ยวอมหวานค่อนข้างชัดเจนจาก "Red Syrup" และน้ำมะนาว เป็นเครื่องดื่มเบาๆ ที่ดื่มพอสนุก ไม่ทำให้เมา

"Pink Lady Vienna"

"Black Vienna"

แต่ถ้าชอบอะไรแรงๆ เข้มๆ ต้องสั่ง"Black Vienna" (ราคา 160 บาท) เครื่องดื่มสีเหลืองอำพัน ที่เพียงจิบเข้าไปอึกแรง ก็ร้อนวูบวาบและรับรู้ได้ถึงรสชาติความเข้มข้นของ "Black Vodka" กับ "Light Rum" ที่ตัดความดุและความร้อนแรงด้วยน้ำมะนาวและน้ำส้ม เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับคนคอแข็งหรือชายหนุ่ม

"Chocolate Cake"

"Peach Crape"

ปิดท้ายด้วยของหวานที่เชฟเบเกอรี่ของร้าน ลงมือทำเองทุกขั้นตอน เลยอร่อยและเข้มข้นมากๆ ทั้ง "Chocolate Cake" (ราคา 110 บาท) ที่เนื้อเค้กมีความชุ่มฉ่ำของช็อกโกแลตอยู่ข้างใน บวกกับครีมช็อกโกแลตที่วางสลับชั้นกับเนื้อเค้ก ก็ยิ่งให้รสชาติของช็อกโกแลตแบบเต็มๆ ตัวเค้กและครีมช็อกโกแลตไม่หวานจนเกินไป แต่ถ้าอยากเพิ่มความหวานให้กับเค้ก ลองเอาเนื้อเค้กปาดซอสช็อกโกแลตกับซอสสตรอเบอร์รี่บนจานดู ก็จะได้รสชาติอีกแบบหนึ่ง ที่แตกต่างไปจากตอนที่ไม่ได้กินกับซอสหรือถ้าชอบขนมที่ออกรสเปรี้ยวอมหวานของผลไม้ที่กินแล้วให้ความสดชื่น ก็ต้องสั่ง "Peach Crape" (ราคา 120 บาท) เครปแผ่นใหญ่ราดซอสพีชรสเปรี้ยวอมหวานกำลังดี โรยด้วยอัลมอนต์สไลซ์กรอบๆ เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวานิลลา วิปครีมเค็มๆ มันๆ และพีชเชื่อมเนื้อกรุบๆ เป็นขนมที่ช่วยปิดท้ายมื้ออาหารได้อย่างลงตัวจริงๆและถ้าใครติดใจเค้กอร่อยๆ ของร้าน จะสั่งทำด้วยก็ได้ เพราะที่ "Cafe Vienna" รับทำเค้กด้วย
แล้วสั่งลาเต้ร้อนๆ หอมกรุ่น มาจิบแกล้มกับเค้กหรือเครปก็ยิ่งช่วยล้างปากจากอาหารคาวได้ดีเลยทีเดียว

เป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่รสชาติและคุณภาพไม่เล็ก

Cafe Vienna
ที่อยู่ : สุขุมวิท 4 (BTS นานา) คลองเตย , คลองเตย , กรุงเทพมหานคร 10110
โทร : 02-254 9387-9

ขอบคุณที่มาจาก : http://www.wongnai.com/r/123915nt

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน