เรื่อง: การอุทธรณ์ต่อท่านประธานฟีฟ่า ส่งถึง: Mr. Joseph BLATTER, the President of FIFA
สำเนา: Mr. Jrme VALCKE, the Secretary General
Mr. Marco VILLIGER, Legal Director
Mr. Thierry REGENASS, Member Associations & Development Director
Fdration Internationale de Football Association, FIFA-Strasse 20, P.O. Box 8044 Zurich, Switzerland
เรียนท่านที่เคารพ
อ้างถึงจดหมายของฟีฟ่าที่ส่งถึงโดยโทรสารมายังสมาคม
ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2013 มีใจความสรุปได้ว่า ฟีฟ่าขอให้สมาคมฟุตบอลฯ แก้ปัญหาประเด็นที่เกี่ยวกับธรรมนูญใหม่และการ
เลือกตั้งก่อนวันที่ 24 มิถุนายน 2013 มิเช่นนั้น จะมีการราย
งานไปที่คณะกรรมการฉุกเฉิน เพื่อที่จะนำมาตรการที่เหมาะสมมาใช้กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งอาจรวมถึงการถอนจากสมาชิกภาพโดยทันที
ข้าพเจ้าในฐานะ ผู้หนึ่งที่สมัครลงเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในครั้งต่อไป และเป็นตัวแทนคนหนึ่งของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) ของวงการฟุตบอลในเมืองไทย ข้าพเจ้าใครที่จะอุทธรณ์ต่อท่านในฐานะที่เป็นผู้นำสูงสุด เพื่อให้ท่านกรุณาทบทวนการตัดสินใจที่แสดงไว้ในจดหมายฉบับดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องมาจากเหตุผล 3 ประการ
1. ที่ผ่านมา ยังไม่ได้การถกเถียงหาข้อสรุปในหมู่ผู้มีส่วนได้เสีย เกี่ยวกับสาระสำคัญในร่างธรรมนูญดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับผู้มีสิทธิ์ในการลง
คะแนน ความจริงก็คือ ที่ประชุมใหญ่ของสมาคมฟุตบอลเพิ่งตกลงที่จะให้มีการศึกษาร่างธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2013 โดยสำเนาได้ถูกแจกจ่ายให้กับสมาชิกที่ร่วมประชุมในวันนั้น และไม่ได้เปิดให้สาธารณะเข้าถึง แม้แต่บนเว็บไซต์ของสมาคมฟุตบอล
สังคมฟุตบอลไทยเข้าใจดีว่า ฟีฟ่าในแนะนำธรรมนูญมาตรฐานมาตั้งแต่ปี 2004 ด้วยวัตถุประสงค์ต้องการให้เกิดธรรมาภิบาลและความโปร่งใสในหมู่สมาคมฟุตบอลที่เป็นสมาชิกของฟีฟ่า อย่างไรก็ตาม นับจากนั้นมา ไม่ได้มีการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งโดยฟีฟ่าและสมาคมฟุตบอลไทย ทั้งยังไม่ได้เปิดให้มีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในวงการฟุตบอลเลย
2. วันที่เดิมกำหนดให้มีการลงมติผ่านร่างธรรมนูญใหม่ดังกล่าว (15 มิถุนายน 2013) ใกล้เกินไปกับวันที่วาระของรายกสมาคมฯ คนปัจจุบันจะหมดลง (16 มิถุนายน 2013) วันที่หมดอายุดังกล่าวก็อยู่ภายใต้ธรรมนูญปัจจุบัน ซึ่งก็ถือว่าได้รับการรับรองจากฟีฟ่า และการกีฬาแห่งประเทศไทย มาแล้วเช่นกัน เพราะบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2003
3. วงการฟุตบอลไทยโดยรวม รวมถึงตัวข้าพเจ้า ต่างเห็นด้วยในหลักการส่วนใหญ่ของร่างธรรมนูญดังกล่าว หากแต่ในมาตราที่ 21ซึ่งเกี่ยวกับจำนวนและที่มาของสมาชิกมีมีสิทธิ์ลงคะแนนยังคงเป็นคำถาม ไม่ใช่กับเพียงข้าพเจ้า แต่กับครอบครัวฟุตบอลโดยรวม
ข้าพเจ้าเห็นว่า ควรมีการเปิดให้ถกเถียงและฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว การที่จะมีการนำมาใช้ ซึ่งก่อนที่จะทำอย่างนั้นได้ เราจำเป็นต้องมีการเลือกตั้งภายใต้ธรรมนูญฉบับเดิม ก่อนวันที่ 15 กรกฎาคม 2013
นายกสมาคมเฉพาะกาลนี้ จะทำหน้าที่ใกล้ชิดกับฟีฟ่า เพื่อร่างธรรมนูญใหม่ ที่มีความยุติธรรมและได้รับการยอมรับมากขึ้น โดยยึดเอาธรรมนูญมาตรฐานของฟีฟ่าซึ่งสามารถเข้าถึงได้บนเวบไซต์ทาการของฟีฟ่า การประกศใช้ธรรมนูญใหม่สามารถทำให้เสร็จภายใน 31 กรกฎาคม 2013 ในเวลาที่ธรรมมนูญใหม่ของฟีฟ่าถูกบังคับใช้
หลังจากการนำธรรมนูญใหม่ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยมาใช้แล้ว นายกสมาคมเฉพาะกาลนี้ ก็ลาออกและจัดให้มีการเลือกตั้งภายใต้ธรรมนูญใหม่ ทั้งนี้ไม่เกิน 30 กันยายน 2013 เพื่อให้สอดคล้องกับการตัดสินใจไปแล้วของคณะกรรมการด้านสมาคมฟุตบอลของฟีฟ่า
ข้าพเจ้ามีความเชื่อมั่นศรัทธาว่า คำอุธรณ์ของข้าพเจ้าจะไม่ถูกมองข้าม เพราะเป็นก้าวสำคัญที่จะสร้างให้เกิดมาตรฐานแห่งความโปร่งใส ยุติธรรม และธรรมาภิบาล ในวงการฟุตบอลของโลก ขอขอบคุณด้วยความเคารพ
พินิจ งามพริ้ง
ผู้สมัครนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย

เครดิตจาก : https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151661450465067&set=pcb.10151661455585067&type=1&theater