ซีพีเอฟ ตุรกี เปิดแผน 5 ปี เดินหน้ามุ่งธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสและการผลิตอาหารสัตว์สร้างสมดุลธุรกิจ
ซีพีเอฟ ตุรกี ตั้งเป้าเปิดร้านซีพี ช็อพ (CP Shop) ให้ครบ 1,000 ร้านภายใน 5 ปี พร้อมขยายกำลัง
การผลิตอาหารสัตว์ให้เต็มศักยภาพในโรงงานปัจจุบัน เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดใน
ประเทศ
นายเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ กรรมการผู้จัดการ ซีพีเอฟ ตุรกี (Rewat Hathaisattayapong,
President of CPF Turkey) กล่าวว่า การขยายร้านซีพี ช็อพ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้
แบรนด์ ซีพี ทั้งของสดและอาหาร จะเป็นการดำเนินการในลักษณะแฟรนไชส์ และเปิดไปแล้ว 42 แห่ง
ขณะนี้ โดยเป็นการลงทุนของนักธุรกิจท้องถิ่น และจะเพิ่มเป็น 170-180 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเป็น
การสร้างอาชีพและธุรกิจให้คนท้องที่ เพื่อลดภาระต้นทุนแรงงานของบริษัทเนื่องจากมีการปรับขึ้นมาอย่าง
ต่อเนื่อง ขณะนี้บริษัทบริหารร้านซีพี ช็อพ อยู่ทั้งหมด 420 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 450 แห่งภายในสิ้นปีนี้
ซึ่งรวมทั้งที่บริษัทบริหารเองและเป็นการให้แฟรนไชส์นอกจากร้านซีพี ช็อพแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับ
การขยายตลาดไปยังกลุ่มฟู้ดเซอร์วิสด้วย เช่น ภัตตาคาร โรงแรม และโมเดิร์นเทรด
นอกจากนี้ การผลิตอาหารสัตว์ของ ซีพีเอฟ ขณะนี้ยังไม่ได้เดินเครื่องเต็มศักยภาพการผลิตและสามารถ
เพิ่มได้อีกเพื่อรองรับความต้องการในประเทศ อย่างไรก็ตามบริษัทจะมีการพิจารณาการการลงทุนเพิ่ม
เพื่อขยายโรงงานอาหารสัตว์ในอีก 2 ปี ข้างหน้า โดยบริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องนโยบายโรงงานสี
เขียว (Green Policy) เป็นหลัก
“แผนธุรกิจ 5 ปี ของบริษัทต้องการให้บริษัทเติบโตตามเป้าหมายคือการเป็นผู้นำการผลิตอาหารและ
อาหารสัตว์ในตุรกี โดยจะเป็นเน้นการจำหน่ายผ่านช่องทางการตลาดของบริษัทโดยเฉพาะร้านซีพี ช็อพ
และฟู้ดเซอร์วิส” นายเรวัติ กล่าว
สำหรับ ซีพีเอฟ ตุรกี ก่อตั้งปี 2529 เพื่อดำเนินธุรกิจครบวงจรประกอบด้วย อาหารสัตว์ ฟาร์มปศุสัตว์
และอาหาร ซึ่งขณะนี้บริษัทมีโรงงานอาหารสัตว์ 6 แห่ง ผลิตเพื่อป้อนให้กับฟาร์มของบริษัทและเกษตรกร
ภายใต้คอนแทรคฟาร์ม และยังขายตลาดในประเทศในอัตราส่วน 50:50 ส่วนฟาร์มนั้นแยกเป็นเนื้อไก่
โดยมีกำลังการผลิต 140,000 ตันต่อปี ในจำนวนนี้ใช้เป็นวัตถดิบเพื่อป้อนโรงงานอาหารแปรรูปของ ซีพี
เอฟ 5,000 ตัน หรือ 3.5% ของกำลังการผลิตต่อปี และ 90% ของผลผลิตเป็นการผลิตเพื่อรองรับ
ตลาดในประเทศ ที่เหลือเพื่อการส่งออกไปยังประเทศซีเรีย อิรัก และอิหร่าน และธุรกิจไข่ไก่ที่มีกำลัง
การผลิตประมาณ 720 ล้านฟองต่อปี
บริษัทยังมีธุรกิจโรงชำแหละ (slaughter house) ใน 4 เมืองใหญ่ และคลังสินค้าซึ่งเป็นทั้งห้องเย็น
(cold storage) และศูนย์กระจายสินค้า (distribution center) ด้วย อีก 5 แห่ง เพื่อเป็นจุด
พักสินค้าก่อนขนถ่ายเข้าสู่เมืองหลวงอิสตันบูล
ปัจจุบัน ตุรกีมีประชากรทั้งสิ้น 75 ล้านคน เป็นมุสลิมประมาณ 90% และมีการบริโภคเนื้อไก่ 22
กิโลกรัมต่อคนต่อปี โดยมีกำลังการผลิตเนื้อไก่ทั้งประเทศมีประมาณ 1.8 ล้านตันต่อปี และเพียงพอต่อ
การบริโภคในประเทศ
แม้ว่าเนื้อไก่ที่ผลิตในตุรกีขณะนี้จะมีการส่งออกไม่มากนัก แต่ตุรกีจะเป็นประเทศที่เป็นฐานการผลิตเนื้อ
ไก่และส่งออกไปยังสหภาพยุโรปในอนาคตได้ ทั้งนี้รัฐบาลตุรกีมีการเพิ่มกฏระเบียบและมาตรฐานในการ
ผลิตสินค้าเกษตรและอาหารในสอดคล้องกับมาตรฐานของสหภาพยุโรป เช่น เรื่องสวัสดิภาพสัตว์
(animal welfare) การสุ่มตรวจเชื้อซาลโมเนร่า (Salmonella) และยาแอนตี้ไบโอติก เป็นต้น
นายเรวัติ กล่าวว่า ปีที่แล้ว ซีพีเอฟ ตุรกี มีรายได้รวม 562 ล้านเหรียญสหรัฐ และตั้งเป้าเติบโตที่610
ล้านเหรียญ หรือเติบโต 8.5% ในปีนี้ 