สืบเนื่องกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการเดินทางหลังจากถูกรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ระบุว่า หลังจากออกจากนิวยอร์กไปอยู่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต่อมาเพื่อนนักธุรกิจชาวจีน แปลงสัญชาติเป็นคนไทย เป็นเจ้าของสนามกอล์ฟ โทร.มาชวนให้ไปอยู่ปักกิ่งไปอาศัยอยู่ที่นั่น 5-6 เดือน จากนั้นเพื่อนคนดังกล่าวก็พาเขาไปอยู่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวปรากฏในหนังสือ Conversations with THAKSIN ซึ่งตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ 2011 ในสิงคโปร์
แม้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ระบุเพื่อนนักธุรกิจคนดังกล่าวเป็นใคร?
กระนั้น หากย้อนในห้วง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี มีนักธุรกิจจีนคนหนึ่งได้รับ
แต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ และนายโภคิน พลกุล ขณะเป็นประธานรัฐสภา คือ นายชาญชัย รวยรุ่งเรือง หรือ“เหยียนปิน” มหาเศรษฐีหมื่นล้าน
ค้นข้อมูลใน“ประชาชาติธุรกิจ”ฉบับวันที่ 16-18 มกราคม 2549 พบว่า นายชาญชัยมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 206 หมู่ 12 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งต่อมาบ้านหลังดังกล่า ได้เปลี่ยนเป็นบ้านเลขที่ 467 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เกิดในปี 2497 พ่อชื่อ “เหลียง”
แม่ชื่อ “เหม่ย” ทั้งสองเป็นบุคคลไร้สัญชาติ ครอบครัวเป็นทหารจีนอาสารบกับพรรคคอมมิวนิสต์ ในปี 2525 ครอบครัวนายเหลียง
และนายชาญชัยได้ย้ายออกไปจากพื้นที่อ.เชียงแสนทำให้ไม่มีใครพบเห็นนายชาญชัยอีกเลย
นายชาญชัย ได้รับสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2524 สมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี นายประเทือง กีรติบุตร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ( ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 98 ตอนที่ 110 วันที่ 7 กรกฎาคม 2524) ประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับดังกล่าวระบุว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้สัญชาติแก่บุคคลที่ยื่นเรื่องราวของแปลงสัญชาติเป็นไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ทั้งหมดจำนวน 237 คน โดยมีชื่อนายชาญชัยเป็นลำดับที่ 151 อย่างไรก็ตาม ในรายชื่อลำดับ 151 ระบุ“นายชาญชัย หรือ หง แซ่ซิน อยู่บ้านเลขที่ 206 หมู่ 12 ตำบ้านแซว อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย” มิได้ระบุนามสกุล “รวยรุ่งเรือง” ต่อมาได้ทำบัตรประจำตัวประชาชนวันที่ 21 สิงหาคม 2526
ทั้งนี้ “เหยียนปิน”ถูกนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าวในรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 9” เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2548 ว่า เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และประธานสาขาพรรคไทยรักไทยในประเทศจีน ทำมาหากินอยู่ในประเทศจีน และเข้าไปเกี่ยวพันการรับเหมาก่อสร้างโรง
งานยาสูบใน จ.เชียงใหม่มูลค่า 18,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าปกติ แต่นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรค (ขณะนั้น) และนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (ขณะนั้น) ซึ่งดูแลโรงงานยาสูบได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง
ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างนั่นเครื่องบินไปประชุมเอเปกที่ประเทศเกาหลีว่า นายชาญชัยเป็นคนจีน ที่ได้สัญชาติไทย มีความใกล้ชิดกับกรรมการบริหารพรรคคอมมิวนิสต์จีน และพรรคไทยรักไทย เป็นผู้ประสานงานของพรรค แต่ไม่ได้เป็นสาขาพรรค พรรคไม่ได้จ่ายเงิน และการที่นายชาญชัยคุ้นเคยกับผู้บริหารของ 2 พรรค 2 ประเทศซึ่งเป็นรัฐบาลทั้งคู่ก็จะเป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ ระหว่าง 2 ประเทศให้ดีขึ้น
ปูมทางธุรกิจนายชาญชัยเป็นเจ้าของบริษัท รวยชัย อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังเรดบูล และธุรกิจสนามกอล์ฟสุดหรูระดับเวิลด์คลาสชื่อ ไพน์ วัลเวล์(PINE VALLEY)ขนาด 1,000 ไร่ มีบริษัทในไทยนับสิบแห่ง ขณะที่บริษัท รวยชัย อินเตอร์เนชั่นแล กรุ๊ป ยังได้รับแต่งตั้งจาก ไทยแลนด์พริวิเรลจ์ คาร์ด (ทีพีซี)ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายบัตรไทยแลนด์ อีลิท การ์ดในประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน 30,000 ใบ
นอกจากนี้ต้นเดือนพฤษภาคม 2547 นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ในขณะนั้นได้แต่งตั้งให้บริษัท รวยชัย อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป ให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าไทยในประเทศจีน โดยอ้างว่ามีจุดกระจายสินค้าประมาณ 5,000 แห่งทั่วประเทศจีนจะช่วยให้สินค้าไทยบุกตลาดเมืองต่างๆ ในจีนได้มากขึ้น
เห็นได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณกับนายชาญชัยมีความสัมพันธ์กันอย่างดี กระนั้นเป็นคนพาไปปักหลักในดูไบหรือไม่? ถามเจ้าตัว
ที่มา: สำนักข่าวอิศรา
http://isranews.org/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B2/item/26175-kk_26175.html