เมืองบาดาลคำชะโนด กับตำนาน “พญานาค” จ.อุดรธานี 

“ผีจ้างหนัง” ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของทีม
งานหนังเร่ที่ได้รับการว่าจ้างจากผู้จ้างปริศนา ให้มาฉายหนังในหมู่บ้านวังทอง จ.อุดรธานี โดยมีข้อแม้ว่าฉายได้ถึงแค่ตี 4 และให้ออกจากพื้นที่ไปก่อนฟ้าสาง และห้ามหันกลับมาดู แต่เมื่อทีมงานหนังเร่ ขับรถกลับมาอีกครั้ง ณ บริเวณเดิมในระยะเวลาไม่นาน ก็ไม่ปรากฎพื้นที่ที่ฉายหนังเลย คงพบแต่ป่าคำชะโนดขึ้นรกครึ้มแทน เมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย ก็ทำให้ “ป่าคำชะโนด” ดังขึ้นในชั่วข้ามคืน โดยเชื่อกันว่าชาวเมืองบาดาล หรือ เมืองพญานาคที่อยู่ใน “ป่าคำชะโนด” แห่งนี้เป็นผู้จ้างหนังมาดู ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อของผู้คนละแวกนั้นที่เชื่อว่า “ป่าคำชะโนด” เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง โลกมนุษย์กับเมืองบาดาล ทั้งนี้ พื้นที่ “ป่าคำชะโนด” มีลักษณะเป็นเกาะ มีน้ำล้อมรอบ ทั้งเกาะมีต้นชะโนดขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก บริเวณกลางเกาะ มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เรียกว่า “บ่อคำชะโนด” ซึ่งจะมีน้ำจากใต้ดินผุดขึ้นมาตลอดเวลา ซึ่งน้ำจากบ่อนี้ได้มีการอัญเชิญไปประกอบพิธีทางศาสนามากมาย สิ่งอัศจรรย์อีกอย่างที่ค้นพบ และทำให้เชื่อว่าป่าคำชะโนด แห่งนี้มีความพิเศษซ่อนอยู่คือ ที่นี่ไม่เคยถูกน้ำท่วมและที่สำคัญ แม้จะพบต้นชะโนดในป่าคำชะโนดมากเพียงไร แต่ระยะห่างจากป่าออกไปไม่เกิน 300 เมตร ก็ไม่ปรากฎต้นชะโนดให้เห็นอีกเลย
ตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับ ป่าคำชะโนด เรื่องเล่าในอดีต : มีพญานาค 2ตนได้ปกครองเมืองหนองกระแส โดยครึ่งหนึ่งเป็นของ สุทโธนาค (พญาศรีสุทโธ) ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นของ สุวรรณนาค ทั้งสองปกครองเมืองอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข แต่มีข้อตกลงกันอยู่ว่า ถ้าเมื่อฝ่ายใดออกไปล่าสัตว์หาอาหาร อีกฝ่ายหนึ่งจะต้องไม่ไป เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน และเมื่อฝ่ายที่ออกไปล่าสัตว์หาอาหารมาได้นั้น ให้นำมาแบ่งกันอย่างละครึ่ง
เมื่อถึงคราวสุวรรณนาคได้ออกไปล่าสัตว์หาอาหารได้เนื้อช้างมา จึงนำเนื้อช้างที่ได้แบ่งให้สุทโธนาค พร้อมทั้งนำขนของช้างไปยืนยันว่าเป็นเนื้อช้างจริง อีกครั้งที่สุวรรณนาคออกไปล่าสัตว์หาอาหารอีก ครั้งนี้ได้เม่นมาเป็นอาหาร จึงได้นำเนื้อเม่น และขนของเม่นไปมอบให้แก่สุทโธนาคเหมือนเช่นเคย แต่สุทโธนาคกลับแสดงความไม่พอใจ เพราะเมื่อดูจากขนของเม่นที่มีขนาดใหญ่กว่าขนของช้าง ปริมาณเนื้อที่ได้ก็ควรมีมากกว่าเนื้อของช้าง แต่ปริมาณเนื้อนั้นกลับมีน้อยกว่ามากนัก จึงคิดว่าสุวรรณนาคไม่มีความซื่อสัตย์ ฝ่ายสุวรรณนาคพยายามอธิบายอย่างไรก็ไม่เป็นผล จึงเกิดสงครามระหว่างสุทโธนาค และสุวรรณนาค
พระอินทร์ได้ทราบเรื่อง จึงหาวิธีการที่จะทำให้พญานาคทั้งสองนั้นหยุดทำสงครามกัน โดยให้พญานาคทั้งสองสร้าง
แม่น้ำขึ้นคนละสาย ถ้าใครสร้างได้ถึงทะเลก่อนจะให้ปลาบึกขึ้นอยู่ใน
แม่น้ำนั้น เมื่อได้ยินเช่นนั้น สุทโธนาคก็ได้สร้างแม่น้ำมุ่งไปทางทิศตะวันออกของหนองกระแส และด้วยความที่สุทโธนาคมีนิสัยใจร้อน เมื่อพบเจอภูเขากั้นทางแม่น้ำก็จะทำการหลบหลีก โค้งไปโค้งมา จึงเกิดเป็น แม่น้ำโขง (โค้ง) ส่วนทางฝ่ายสุวรรณนาคนั้น ได้ทำการสร้างแม่น้ำขึ้นทางทิศใต้ของหนองกระแส สุวรรณนาคมีความละเอียด และใจเย็น แม่น้ำที่สร้างขึ้นจึงมีความตรงกว่าแม่น้ำทุกสาย ได้แก่ แม่น้ำน่าน
สุทโธนาคเป็นผู้ที่สร้างแม่น้ำได้เสร็จก่อน จึงมีปลาบึกขึ้นอยู่ในแม่น้ำโขงเพียงแห่งเดียว และเมื่อชนะ สุทโธนาคก็ได้ขอทางขึ้น-ลง ระหว่างเมืองบาดาล กับเมืองมนุษย์ไว้อีก 3 แห่ง หนึ่งในนั้นก็คือ คำชะโนด ซึ่งมีต้นชะโนดขึ้นเป็นสัญลักษณ์ นอกจากนี้ สุทโธนาคยังได้ขอให้ทุก 15 วันที่เป็นข้างขึ้น ให้สุทโธนาคพร้อมบริวารสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ และตั้งบ้านเมืองปกครองอยู่ที่คำชะโนดได้ และอีก 15 วันข้างแรม ให้กลายเป็นนาคลงไปอาศัยอยู่ที่เมืองบาดาล คำชะโนดจึงกลายเป็นศูนย์กลางของเมืองมนุษย์และเมืองบาดาล ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ติดตามเมืองบาดาล โลกเร้นลับใต้พิภพต่อกับ Painaidii คลิ๊ก >>
http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001413/lang/th/