cu-tep คืออะไร ?cu-tep (Chulalongkorn University Test Of English Proficiency) คือ แบบทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมมาก แบบทดสอบ
CU-TEP จัดทำโดยสถาบันภาษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำหรับให้ศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไว้ใช้ทดสอบเพียงแต่ผู้เดียวในประเทศไทย แบบทดสอบ CU-TEP สามารถใช้วัดทักษะ 3 ทักษะ ได้แก่ การฟัง การอ่าน และการเขียน โดยจุดเด่นของแบบทดสอบนี้ไปเทียบได้ว่าจะเป็น
คะแนน TOEFL เท่าไหร่ และผลคะแนนนี้สามารถเก็บไว้ใช้ได้ถึง 2 ปี
cu-tep มีกี่พาร์ท ?บุคคลทั่วไปสามารถนำคะแนน CU-TEP ไปใช้ได้หลายด้านค่ะ ทั้งด้านการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก สามารถนำไปใช้สมัครงาน ในด้านการศึกษาในระดับปริญญาตรีหลักสูตรนานาชาติกำหนดให้มีคะแนน CU-TEP ขั้นต่ำอยู่ที่ 550 คะแนน ส่วนปริญญาโทและปริญญาเอก ก็จะมีคะแนน CU-TEP หลายเกณฑ์แตกต่างกันไปค่ะ มีตั้งแต่ 450 500 550 คะแนนไปจนถึง 600 คะแนนทีเดียวค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละหลักสูตรนั้นให้ผู้เรียนใช้ทักษะระหว่างเรียนมากน้อยแค่ไหนค่ะ ส่วนข้อสอบ CU-TEP นั้นมีทั้งหมด 4 พาร์ท คือ part Listening, part Reading, part Writing และ Speaking แต่ในส่วนของพาร์ท Speaking จะจัดสอบให้เฉพาะผู้ที่ต้องการทดสอบเท่านั้น โดยทั่วไปเราจะนิยมสอบกันแค่ 3 ทักษะค่ะ คือ ทักษะ Listening, Reading และ Writing
หากสนใจสอบ cu-tep สามารถสมัครได้ที่ไหน แล้วต้องรอกี่วันหลังสอบเสร็จคะแนน CU-TEP ถึงจะออก ?ผู้สมัครต้องสมัครสอบผ่านโปรแกรมลงทะเบียนแบบOnline ทาง Internet เท่านั้น โดยผู้สมัครสามารถสมัครผ่านทาง http://www.atc.chula.ac.th และหลังจากที่ผู้สมัครลงทะเบียนถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว โปรแกรมจะสร้างใบลงทะเบียนให้ผู้สมัคร ดังนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้สมัครใช้ในการลงทะเบียนต้องต่อเข้ากับเครื่องพรินเตอร์ให้พร้อม และศูนย์ทดสอบทางวิชาการทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คิดว่าธรรมเนียมการสอบครั้งละ 600 บาท และเท่าธรรมเนียมของทางธนาคาร 15 บาท ต่อหนึ่งใบลงทะเบียนค่ะ และผลคะแนนในสอบสอบ CU-TEP จะออกหลังจากที่ผ่านการทดสอบไปแล้ว 2 อาทิตย์ค่ะ
ข้อสอบ CU-TEP พาร์ทนี้จะมีข้อสอบทั้งหมด 30 ข้อ ใช้เวลา 30 นาที โยจะแบ่งเป็นส่วนย่อยๆ ทั้งหมด 3 ส่วน
ส่วนแรกมีทั้งหมด 15 ข้อ โดยข้อสอบแต่ละข้อละเป็นการพูดคุยสนทนาระหว่างบุคคลในเหตุการณ์สั้นๆ เทคนิคในการทำสอบสอบส่วนนี้คือ ก่อนที่จะเริ่มทำข้อสอบผู้สอบควรจะดูตัวเลือกทั้ง 4 ข้อก่อนว่าคำตอบที่สามารถเป็นไรได้มีอะไรบ้าง เมื่อคำถามจบลงแล้วก็สามารถเลือกคำตอบตามที่เราคิดว่าน่าจะถูกต้องได้ทันทีค่ะ โดยไม่ต้องเสียเวลาในการอ่านตัวเลือกอีกค่ะ และที่สำคัญถ้าไม่แน่ใจว่าจะเลือกตัวเลือกไหน อย่าคิดนานให้รีบเลือกคำตอบที่น่าจะเป็นไรได้มากที่สุดเลยค่ะ เพื่อที่จะได้มีสมาธิในการสอบข้อต่อไป โดยไม่ต้องกังวล ส่วนที่ 2 ก็จะเป็นนาการสนทนาแบบยาวกว่าเดิมมากขึ้น 4-5 เท่า ซึ่งบทสนทนาที่ยาวขึ้นเวลาฟังก็ควรจะจดโน๊ตย่อไปด้วยค่ะ ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร โดยเฉพาะบทสนทนาที่เป็นจำนวนหรือตัวเลขต่างๆ เพื่อที่ว่าเราจะได้ตอบคำถามได้ถูกต้องมากขึ้น เพราะคำถาม
cu-tep ในส่วนนี้แทบทุกชุดจะมีการถามเกี่ยวกับจำนวน อายุ พ.ศ. หรือปริมาณของสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ ดังนั้นถ้าหากเราจดทันก็จะสามารถตอบคำถามได้อย่างแม่นยำค่ะ เทคนิคในการจดโน๊ตย่อนั้น ควรจะจดว่าตัวเลขนั้นหมายถึงอะไรค่ะ ถ้าใครมีทักษะในการจำก็อาจไม่ต้องจดค่ะ ส่วนพาร์ทสุดท้าย จะเป็นการบรรยายบทความ ความยาวประมาณ 200 -250 คำ ซึ่งจะมีเนื้อหากึ่งทางการ อาจจะเป็นบทความเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ฯลฯ ส่วนสำหรับในส่วนนี้บทพูดมีความยาวพอสมควร ดังนั้นผู้ฟังก็ควรจะมีสติพอสมควรค่ะ จำใจความสำคัญให้ได้ และถ้าจำข้อมูลทั้งหมดไม่ได้ก็ขอให้จดโน๊ตย่อไปด้วยค่ะ และที่สำคัญให้จดด้วยว่าเหตุการณ์ในคำพูดนั้นเป็น Tense ไหน เพราะในบทพูดภาษาอังกฤษจะให้ความสำคัญในเรื่อง Tense ด้วย ถ้าเข้าใจในจุดนี้ก็จะสามารถตอบคำตอบได้อย่างถูกต้องค่ะ
วิเคราะห์ข้อสอบ CU-TEP part Reading ? ข้อสอบ
cu-tep พาร์ทนี้จะมีทั้งหมด 60 ข้อ ใช้เวลา 70 นาที ถือว่าเป็นพาร์ทที่ใช้เวลานานที่สุด เป็นพาร์ทที่หนักที่สุด แบ่งเป็น 3 ส่วนเช่นเดียวกัน ในส่วนแรกจะเป็น Cloze reading จะเป็นบทความยาวประมาณ 1 หน้า A4 ซึ่งเป็นส่วนของการเติมคำศัพท์ที่เว้นไว้ให้ในช่องว่างของบทความค่ะ สำหรับหลักในการทำง่ายๆ เราต้องพิจารณาในส่วนแรกก่อน คือส่วนของไวยกรณ์ ซึ่งคำที่เราจะเลือกมาเติมในช่องว่างจะต้องตรงตามหลักไวยกรณ์ด้วยค่ะ และคำนั้นต้องมีความสอดคล้องกับเนื้อหา ถ้าใครยังไม่เข้าใจบทรวมของบทความนั้น ก็อยากให้อ่านบทความในคราวๆ ก่อนเพื่อให้เห็นภาพรวมมากยิ่งขึ้น ประหยัดเวลาและสามารถทำข้อสอบได้รวดเร็วมากขึ้น ส่วนที่ 2 จะเป็นบทความขนาดสั้นจำนวน 1 บทความ จะมีความยาวประมาณ ครึ่งหน้า A4 เท่านั้นค่ะ ตามด้วยคำถามและคำตอบแบบตัวเลือกจำนวน 5 ข้อค่ะ จะมีลักษณะการเขียนจดหมายโดยทั่วไป อาจจะเป็นจดหมายราชการ หรือจดหมายธรรมดาถึงหน่วยงานต่างๆ เทคนิคในการทำข้อสอบส่วนนี้ เราควรที่จะอ่านคำถามและคำตอบทั้งหมดคราวๆ ก่อน ซึ่งจะทำให้เราสามารถรู้ว่าเราควรจะมองหาคำตอบในลักษณะไหนภายในบทความที่อ่านนั้น ก็จะทำให้เราจับจุดในการอ่านได้มากขึ้น ส่วนที่ 3 คือ บทความขนาดยาวประมาณ 4 บทความ ขนาดบทความละ 1 หน้า A4 ค่ะ จำนวน 4 บทความด้วยกัน แต่ละบทความจะมีคำถามประมาณ 10 ข้อ ในการทำข้อสอบในส่วนนี้ก็เหมือนกับส่วนที่ผ่านๆ มาค่ะ เราควรจะอ่านคำถามก่อนเพื่อที่เวลาเราไปอ่านบทความเราจะได้จับจุดถูกค่ะ ซึ่งสิ่งที่สำคัญคือเราจะต้องบริหารจัดการเวลาให้ดีค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นข้อสอบที่หนักพอสมควรที่ต้องอ่านบทความถึง 6 บทความในระยะเวลาที่จำกัด ดังนั้นควรจะบริหารจัดการเวลาให้ดีด้วยค่ะ
วิเคราะห์ข้อสอบ CU-TEP part Writing ? จะมีลักษณะเป็น ERROR Correction ทั้งหมดมี 30 ข้อ ให้เวลา 30 นาที ซึ่งเวลา 30 นาทีนั้นเป็นเวลาที่ไม่เยอะเลยค่ะ ซึ่งอยากให้พิจารณาและทำข้อสอบ
cu-tep โดยรวมให้ครบก่อน ถ้ามีเวลาเหลือข้อไหนไม่แน่ใจก็ถึงย้อนกลับมาพิจารณาอีกครั้งค่ะ อย่าประมาทว่าข้อสอบมีตัวหนังสือที่น้อยและมีเวลาทำตั้ง 30 นาที ในความจริง 30 นาทีนี่ไม่ยากเลย ขอให้บริหารจัดการเวลาให้ดีด้วย และหลักในการทำข้อสอบส่วนนี้จะต้องพิจารณาความถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ และขอให้ทำข้อสอบในส่วนนี้ด้วยความรอบครอบด้วยค่ะ