10 เคล็ดลับกับเรื่องท้องผูก 1)สถิติมะเร็งลำไส้ ในปัจจุบันพบสูงอย่างน่าตกใจ แต่ถ้าดูให้ดีแล้วจะเห็นว่าความเสี่ยงมะเร็งหลายอย่างป้องกันได้ครับ ซึ่งในส่วนของไลฟสไตล์ที่มะเร็งรักมีอยู่เช่น การกินเนื้อแดง ปิ้งย่างมีรอยไหม้เกรียม,กินผลิตภัณฑ์เนื้อที่ปรุง
แต่งอย่างไส้กรอก,แหนม,ซาลามี่,กุนเชียง,หมูแผ่น,สูบบุหรี่,ดื่มเหล้า,ปล่อยตัวอ้วน ซึ่งหลายเรื่องอยู่ในชีวิตประจำวันนี่เองครับ
2)ท้องผูกนำโรคร้าย ไม่ควรปล่อยให้ท้องผูกนานๆเพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง ไม่ได้ปรารถนาให้ท่านสะพรึงเล่นแต่เป็นการราย
งานจากวิทยาลัยทางเดินอาหารแห่งสหรัฐอเมริกา(ACG) ชี้ว่าคนที่ “ท้องผูกเรื้อรัง(Chronic constipation)” มีความชุกของมะเร็งลำไส้ใหญ่(CRC)สูงกว่าคนที่ท้องไม่ผูก ทั้งการเกิดเนื้องอกในลำไส้ก็ยังชุกชุมกว่าด้วย
3)แก้ผูกแล้วสบาย การแก้ท้องผูกได้ช่วยให้ของเสียระบายจากร่างกายได้ เปรียบได้กับการล้างพิษ(Detox)อย่างหนึ่งซึ่งธรรมชาติได้ให้เราทุกคนมา ดังนั้นการหาทางให้การขับถ่ายเป็นปกติหรือที่หมักหมมอยู่ออกมาไม่เก็บกักอยู่ข้างในจึงช่วยให้ร่างกายสบายผิวพรรณสดใส หายอาการอึดอัดท้องและช่วยป้องกันสุขภาพให้ทางเดินอาหารด้วยครับ
4)ใช้อาหารเข้าช่วย ทางคลายปมท้องผูกที่ถูกหลักทางหนึ่งคือ “เรื่องกิน” ครับ อาจต้องมาปฏิรูปของกินก่อนผ่านเข้าปาก โดยอาหารที่ช่วยให้ไส้สบายไม่ใช่แค่ “เส้นใย” อย่างเดียวเพราะถ้าได้มากไปก็ทำให้ลำไส้อุดตันได้ ฝากเทคนิกไว้ให้คือเลือกอาหารเส้นใยที่นุ่มนวลเหมือนฟองน้ำอย่าง กล้วย,ฝรั่ง,แก้วมังกร,พรุน,เม็ดแมงลัก,อินผลัม,เห็ดหรือกระเจี๊ยบอ่อน จะช่วยได้ครับ
5)เรื่องที่มากกว่ากล้วย ทางแก้ท้องผูกไม่ได้มีแต่กล้วยหรือผลไม้เสมอไป เมนูที่ชวนกินอย่างส้มตำที่อุดมไปด้วยเส้นใยจากมะละกอนั้นมีส่วนช่วยลำไส้ได้มาก หรือถ้าหากอยากเพิ่มความจี๊ดให้ชีวิตขอแนะนำ “แกงส้ม” ที่มีดีที่น้ำแกงซึ่งนอกจากแซ่บแล้วยังช่วยระบายได้จากมะขามเปียกที่เจืออยู่ครับ
6)ช่วยด้วยการขยับ ไม่ว่าจะทำอย่างไรถ้ายังไม่อาจปล่อยรถด่วนขบวนสุดท้ายได้ก็อย่าเพิ่งน้อยใจครับ เพราะเคล็ดลับก็คือต้องขยับ “ออกกำลัง” ด้วย อย่าลืมว่าลำไส้แม้จะกลวงๆก็เป็นท่อที่ทำจากกล้ามเนื้อนะครับ ถ้าไม่ได้ขยับร่างกายมันก็พลอยนิ่งไปไม่บีบตัวเท่าที่ควร จึงขอชวนท่านที่รักมาออกกำลังเพื่อสั่งลำไส้กันครับ
7)ปรับเวลาเข้าห้องน้ำ ท่านที่มีปัญหาเรื่องเข้าห้องน้ำทีไรไม่ได้ดั่งใจทุกทีขอให้ใช้เคล็ดนี้ครับ ถ้าไม่ออกไม่เป็นไรแต่ขอให้จัดเวลาคืนความสุขให้ลำไส้ตรงกันในทุกวัน เช่นถ้าจะเข้าตอนเช้าก็เลือกตอนเช้าทุกวัน ซึ่งเทคนิกนี้เหมาะในท่านที่ทำงานเป็นกะเช้าสลับดึกด้วย จะช่วยให้ลำไส้ปลุกตัวเองโดยธรรมชาติจนสามารถถ่ายได้ในที่สุดครับ
8)เติมน้ำให้ชีวิต ลืมไม่ได้เพราะเป็นยาระบายธรรมชาติที่แสนดี เตือนตัวเองให้ดื่มน้ำบ่อยกว่าที่เคย แม้เวลางานอาจยุ่งจนละเลยไปบ้างแต่การสร้างนิสัย “ดื่ม(น้ำ)จนชิน” จะช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดี ช่วยให้มีความชุ่มชื้นในกากอาหารจนทำให้ไหลลื่นหลุดออกมายังโลกกว้างได้สมใจ
9)เลิกเบ่งสุดฤทธิ์ ขอให้เลี่ยงวิบากกรรมทำร้ายส่วนล่างของลำไส้อย่างไร้ปรานีด้วยการที่พยายามเบ่งลมปราณขืนใจให้กากอาหารออกมาทั้งที่ยังไม่ปวด เช่นเวลาที่ต้องรีบไปทำงานเช้าหรือท้องผูกถ่ายลำบาก ขอให้แก้ที่ต้นเหตุด้วยการใช้สารธรรมชาติที่ทำให้อุจจาระไม่แข็งฝืดและไม่เบ่งถ้าไม่ปวดครับ
10)คิดถึงธรรมชาติ อาหารธรรมชาติที่มีใยอาหารหรือมีสารช่วยระบายอยู่ในตัวเป็นคำตอบที่ดีมาก แม้ทางแก้ท้องผูกจะมีหลายก๊อกแต่ก๊อกที่สำคัญที่ช่วยได้ดีที่สุดคือเลือกใช้สารธรรมชาติให้ถูกอาทิเช่น “มะขามแขก(Senna)” ที่มีสารพิเศษช่วยกระตุ้นลำไส้ให้ระบายได้ดีโดยตรง(Stimulant la***ive)ซึ่งการใช้สารธรรมชาติแบบนี้จะนุ่มนวลไม่ปวดท้องบิดทรมาน
ทั้งหมดนี้ คือ ความรู้ที่ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ฝาก 10 เคล็ดลับถึงทุกคนในการหมั่นฝึกขับถ่ายให้เป็นกิจวัตรเพราะอาการท้องผูกเรื้อรังอาจนำไปสู่อันตรายต่อร่างกายมากมายกว่าที่คิด เพราะนอกจากจะเป็นสาเหตุของสิว โรคนอนไม่หลับ ริดสีดวง แผลปริทวารหนัก และลำไส้อุดตันแล้ว ยังเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งลำไส้อีกด้วย ดังนั้นระบบระบายของเสียในร่างกายที่เป็นปกติ จะช่วยขจัดของเสียและสารพิษ ต้องใส่ใจใน “ชีวิตจะดีต้องเข้าดีออกดี” เพื่อให้คุณไกลจากโรคร้ายและช่วยชะลอวัยด้วย ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสโนคอตได้ที่ http://www.livewell.in.th/senokot/info