เสื้อเชิ้ตผู้ชาย เป็นสิ่งที่รู้จักกันดีกันอยู่แล้ว เพราะบุคคลทำ
งานทั่วไปส่วนมากจะต้องใส่กันทุกวันอยู่แล้ว แต่บางคนอาจจะไม่ทันได้สังเกตรายละเอียดปลีกย่อยของเสื้อเชิ้ตผู้ชายที่แตกตากกัน

เราจะมาทำความรู้จักเสื้อเชิ้ตผู้ชายกันดีกว่า จะได้เลือกใช้ได้ถูกสถานการณ์ คือเสื้อเชิ้ตผู้ชายเบสิก ส่วนใหญ่ ปกทั้งสองด้านของเสื้อเชิ้ตชาย จะต้องทำมุมตรงกลางประมาณ 90 องศา ความหนาของปกค่อนข้างเสมอกัน โดยช่วงปลายจะกว้างกว่าเล็กน้อย
อย่างเสื้อเชิ้ต ARROW เนื้อผ้าเคมบริดจ์ ที่ผสมผสานการถักทอขั้นสูง ทำให้รู้สึกเบาสบาย เมื่อสวมใส่ ก็เป็นเสื้อเชิ้ตที่มีความหนาของปกที่เท่ากัน เหมาะกับการใส่ทุกโอกาส เสื้อเชิ้ตแอร์โรว์ เนื้อผ้าเคมบริดจ์นี้ ตรงบริเวณมุมของปกเสื้อมีกระดุมที่ใช้ยึดระหว่างปกกับตัวเสื้อให้อยู่ชิดกัน
เป็นรูปแบบของปกเสื้อที่ลดละดับความเป็นทางการลงมา ซึ่งสามารถสวมใส่ได้ทั้ง แบบมีเนคไทและไม่มีเนคไทก็ได้ค่ะ

ส่วนเสื้อเชิ้ตผู้ชายแบบต่อไปนี้ถือกำเนิดมาจากการที่ผู้ชายที่ชอบเล่นกีฬาที่มักมีปัญหา กับปกเสื้อเวลาเคลื่อนไหว จึงมีการนำเอากระดุมมาเป็นตัวช่วยในการยึดให้ปกติดกับเสื้อเชิ้ตผู้ชายยู่ตลอดเวลา และด้วยความที่ต้นกำเนิดมาจากเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับกีฬาแล้ว เสื้อเชิ้ตผู้ชายชนิดนี้จึงเหมาะกับโอกาสที่ไม่เป็นทางการมากนักค่ะ บ้านเราเรียกเสื้อเชิ้ตชายแบบนี้ว่าเสื้อเชิ้ตผู้ชายคอจีน เป็นเสื้อเชิ้ตผู้ชายที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใส่สำหรับวันพักผ่อนโดยเฉพาะ แต่สามารถใส่กับ blazer หรือ สูทแบบกระดุมเดียว โดยติดกระดุมแบบครบทุกเม็ด แต่สำหรับวันพักผ่อนแล้ว คุณสามารถใส่แบบปลดกระดุมเม็ดบนโดยเลือกเนื้อผ้าเป็น ลินินหรือผ้าไหมเพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับคุณ ๆ ในวันพักผ่อน ลักษณะของปกคือมีปีกที่เล็ก เป็นที่นิยมมากในช่วงปลายยุค 90’s และกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งพร้อมกับกระแสแฟชั่นแบบ Modernism เหมาะสำหรับสวมใส่ในวันหยุด ใส่เดินเล่นในสวนสาธารณะกับแฟน ใส่ไปงานปาร์ตี้กับเหล่าเพื่อนฝูง หรือใส่ออกเดท ก็ดูเท่มากค่ะ แต่ไม่เหมาะที่จะใส่ไปทำงานยกเว้นว่าเป็นบริษัทเก๋ๆค่ะ