"เธ เมจิ เธจะกุสุมา" เหยื่อแอร์เอเชียกับคำขอสุดท้าย คอลัมน์ People in Focus
โดย ชรคร ศิริสุวรรณสิทธิ์ maart_26***
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1420688124เธ เมจิ เธจะกุสุมา เจ้าของร้านเสื้อผ้าในเมืองสุราบายา บ้านเกิดของเธอในอินโดนีเซีย ตัดสินใจพาครอบครัวอันประกอบด้วย
แม่ สามี ลูกๆ 3 คน และคู่หมั้นของลูกอีก 1 คน ไปยังประเทศสิงคโปร์ ก่อนวางแผนลงเรือท่องเที่ยวไปยังประเทศมาเลเซียและไทย ส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวส่งท้ายปีเพื่อฉลองวันครบรอบวันเกิด 45 ปี ของเธจะกุสุมา ไปพร้อมๆ กัน
ทว่าการเดินทางจากเมืองสุราบายา ไปยังประเทศสิงคโปร์ ก็กลายเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของครอบครัว เมื่อเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินคิวแซด 8501 ประสบอุบัติเหตุตกลงกลางทะเลชวา เมื่อวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากขึ้นบินไปได้เพียง 40 นาที
วันที่ 3 มกราคม เป็นวันที่เธจะกุสุมาควรจะกำลังนั่งเรือสำราญฉลองวันเกิดครบรอบ 45 ปีพร้อมกับครอบครัว แต่ต้องกลับกลายเป็นวันที่ร่างไร้วิญญาณของเธอและลูกสาววัย 10 ขวบ ถูกส่งกลับสู่ครอบครัวที่เมืองสุราบายาเอริก เอดี ซานโต หลานของเธจะกุสุมา เล่าถึงคำพูดหนึ่งของน้าสาวที่ยังคงหลอกหลอนซานโตมาจนถึงทุกวันนี้ ระหว่างการร่วม
งานศพที่มีญาติมิตรเพื่อนสนิทราว 100 คน
"เราถามเธอว่า เธอจะทำอะไรเพื่อฉลองวันเกิดของเธอ และเธอก็ตอบกลับมาด้วยอารมณ์ขันว่า ?ฉันจะใช้เวลาในทะเลเพียงลำพัง? " ซานโตเล่า
และว่า "บางทีพระเจ้าอาจกำลังพยายามทำดีกับเธอ และไม่ต้องการให้เธอใช้เวลาอยู่กลางทะเลอย่างเดียวดาย พระองค์จึงนำเธอกลับมา"
ร่างของเธจะกุสุมาและ สเตวี ลูกสาววัย 10 ขวบ เป็นส่วนหนึ่งของร่างไร้วิญญาณของผู้โดยสารและลูกเรือจำนวน 40 รายที่กู้ขึ้นมาได้ในเวลานี้
ขณะที่ทีมกู้ภัยเร่งค้นหาร่างผู้สูญหายอีกกว่า 120 ราย ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวอินโดนีเซีย ซึ่งรวมไปถึง จี ชาร์ลี กุนาวัน สามีวัย 48 ปี โจ อินดรี
แม่วัย 82 ปี และลูกอีก 2 คน คือ สตีเวน และ สเตฟานี วัย 19 และ 28 ปีตามลำดับ รวมไปถึง คริสตันโน ลีโอมา ฮุตามา คู่หมั้นของสเตฟานีด้วย
ซานโตระบุว่า "ในเวลานี้ครอบครัวหวังจะให้พวกเขารอดชีวิตแม้เพียงคนเดียวก็ยังดี หากไม่เป็นเช่นนั้น เราหวังว่าร่างของพวกเขาทั้งหมดจะได้กลับบ้าน เราไม่ต้องการให้มีใครต้องสาบสูญไปแม้เต่คนเดียว และอย่างน้อยก็ต้องให้เราได้ฝังศพพวกเขาอย่างถูกต้องทุกๆ คน"
อากุส ปันชยา หลานอีกคนของเธจะกุสุมา กล่าวถึงน้าสาวว่า เธอเป็นคนที่ทำงานหนักและทำตัวสมถะแม้ว่าเธอจะมีฐานะร่ำรวย นอกจากนี้ เธอยังมักบริจาคเงินทำบุญให้กับวัดพุทธในพื้นที่ในฐานะพุทธศาสนิกชนที่เต็มไปด้วยศรัทธา ไม่เว้นแม้แต่การบริจาคเงินช่วยเหลือสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า รวมไปถึงการช่วยเหลือญาติที่กำลังลำบาก
"ครั้งหนึ่งขณะที่ผมต้องไปเรียนในโรงเรียนประจำที่จังหวัดชวาตะวันออก ในวันหยุดน้าและลุงจะขับรถเป็นเวลา 2 ชั่วโมง มารับผมไปเที่ยวชมเมือง" ปันชยาระบุ
"พวกเขาไม่ต้องการให้ผมรู้สึกโดดเดี่ยว"