สำหรับผู้หญิงหากต้องขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านมืดค่ำผ่านทางเปลี่ยวเพียงลำพัง นั่นหมายถึงโอกาสที่จะเกิดอาชญากรรมเป็นไปได้สูง เช่นเดียวกับกรณีนี้ ที่เกิดขึ้นอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยคุณวีระวัณย์ ถูกคนร้ายขับตามประกบก่อนจะถีบรถล้มและขโมยทรัพย์สินมีค่าไป แต่ยังโชคดีที่ไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต ศูนย์ประสานงานร่วมด้วยช่วยกันขอนำเรื่องนี้มาแจ้งเตือนกันครับ
หลังจากศูนย์ประสานงานร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิดจังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับแจ้งจาก ร่วมด้วยนครศรี 270 ว่าบริเวณถนนรอยต่อบางหลวง-บางเชี่ยว ทางไปบางเชี่ยวมีเหตุจี้ปล้นและได้ทรัพย์สินไป ซึ่งบริเวณดังกล่าวไม่มีบ้านคนและเป็นทางเปลี่ยว ทีมงานศูนย์ฯ จึงลงพื้นที่พูด
คุยกับคุณวีระวัณย์ ขาวปลอด อายุ 27 ปี ผู้เสียหายที่เล่าให้ว่า วันเกิดเหตุทำงานเสร็จกำลังกลับบ้าน ผ่านแยกอันดามัน ผ่านแยกถนนเฉลิมพระเกียรติ-ปากนคร กระทั่งมาถึงหน้าโรงเรียนท่านครเห็นรถจักรยานยนต์ตามหลัง เห็นอีกครั้งทางโค้งประมาณ 3 กิโลเมตรจะถึงบ้านบางเชี่ยว ที่ตนเองอาศัยอยู่ ได้ยินเสียงรถเร่งเครื่องรู้สึกอีกทีหล่นไปในป่าข้างทางตนเองแกล้งสลบคนร้ายจึงปลดข้อมือ 3 อัน รวมถึงเอาโทรศัพย์มือถือและโน้ตบุ๊คไป เมื่อออกจากป่าจึงได้เรียกคนช่วย หลังจากนั้นแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจ สุดท้ายจับคนร้ายได้จึงทราบว่าตามมาตั้งแต่แยกอันดามัน ตอนนี้อยากได้ไฟฟ้าส่องสว่างเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ทีมงานศูนย์ฯ จึงประสานคุณประสิทธิ์ สุดแก้ว ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไร่ ซึ่งแจ้งว่าผู้นำท้องที่ต้องทำแผนเสนอเข้ามา แต่ถือเป็นโครงการเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ ก่อนที่คุณพิพัฒน์ ทุมรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไร่ แจ้งเพิ่มเติมว่าจะนำเรื่องนี้ปรึกษากับทางสภาประชาชนตำบลท่าไร่อีกครั้ง เพราะเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ศูนย์ประสานงานร่วมด้วยช่วยกันจึงขอฝากถึงพี่น้องประชาน ควรหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางเปลี่ยวโดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน หรืออย่าเดินทางเพียงลำพัง โดยเฉพาะผู้หญิง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ช่องทางติดต่อโทรสายด่วน 1677 และติดตามข่าวสารร่วมด้วยช่วยกัน ได้ที่เฟสบุ๊คร่วมด้วยช่วยกัน เว็บไซต์ RD1677.com ทวิตเตอร์ร่วมด้วยช่วยกัน และApplication m-Rescue ร่วมด้วยช่วยกัน ดาวน์โหลดได้บน Smartphone ระบบ IOS และ Android