หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: งานแสดงศิลปะการปรุงอาหารเม็กซิกันเปิดฉากแล้วที่กรุงปารีส  (อ่าน 64 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 8 ก.ค. 15, 16:42 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

ปารีส--8 ก.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ขอเชิญร่วมเปิดประสบการณ์อาหารเม็กซิกันสุดพิเศษกับเชฟยอดฝีมือชาวเม็กซิกันทั้ง 4 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสในวันที่ 9-10 ก.ค. ซึ่งรายการต่างๆ ภายในงานจะมีการถ่ายทอดผ่านทางเว็บไซต์เป็น ภาษาอังกฤษ สเปน และฝรั่งเศส ที่ visitmexico.com/venacomer

นับเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เห็นสุดยอดเชฟของเม็กซิโกมาแสดงฝีมือ

- ประวัติโดยสังเขปของอาหารเม็กซิกัน (9 ก.ค. เวลา 16.00 น. ตามเวลาปารีส)

โดยเชฟ Guilllermo Gonzalez Beristain จากร้านอาหาร Pangea Restaurant จากเมืองมอนเตอร์รี่ ประเทศเม็กซิโก (ร้านอาหารอันดับที่ 19 จากการจัดอันดับร้านอาหารที่ดีที่สุดในละตินอเมริกา 50 ร้าน)

Guilllermo Gonzalez Beristain มีภูมิลำเนาอยู่ที่เมืองเอนเซนาดา รัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย เขาเป็นเชฟที่มีความสนใจในการทำอาหารตั้งแต่อายุ 14 ปี Guillermo ได้ใช้เวลานานหลายปีในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และปรับใช้ทักษะในร้านอาหารต่างๆ ที่ได้มิชลินสตาร์ มาแล้วทั่วยุโรป และสหรัฐฯ เพียงเพื่อจะมาเปิดร้านอาหารชื่อดัง ชื่อว่า Pangea

- ศิลปะการปรุงอาหารแห่งเมืองปูเอบลา : ลูกผสมของยุคก่อนโคลอมเบีย และยุคอาณานิคม (9 ก.ค. เวลา 17.30 น. ตามเวลาปารีส)

โดยเชฟ Angel Vazquez จากร้านอาหาร Intro Restaurant เมืองปูเอบลา ประเทศเม็กซิโก

นับเป็นเชฟนักเดินทางทั่วโลกอย่างแท้จริง เชฟ Angel Vazquez ได้เริ่มงานด้านการปรุงอาหารในเมืองปูเอบลา ประเทศเม็กซิโก จากนั้นจึงย้ายไปทำงานที่นิวยอร์ก ก่อนที่จะย้ายไปทำงานร้านอาหารต่างๆ ที่ได้รับมิชลินสตาร์ทั้งในกรุงปารีส และเมืองบาร์เซโลนา รวมถึงร้าน Ze kitchen Gallerie and Cingle ด้วย เชฟยังเคยทำหน้าที่เป็นตัวแทนเพื่อแสดงฝีมือด้านศิลปะอาหารของเมืองปูเอบลาให้กับนานาประเทศ เช่น ในสถานทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ปี 2554 สถานทูต ณ เมืองลิมา ปี 2555 เทศกาล Chicago Gourmet Festival ปี 2556 งานที่ Inauguration Cocktail หรือ FITUR กรุงมาดริด ปี2556 และงานเลี้ยงค็อกเทลเม็กซิกันเนื่องในวันคริสมาสต์ที่กรุงวาติกันถึง 2 ครั้ง

ปัจจุบัน เชฟ Angel เป็นเจ้าของร้านอาหาร Intro Restaurant ในเมืองปูเอบลา ซึ่งมีการผสมผสานรสชาติจากโมร็อกโค ไทย สแกนดิเนเวีย และที่สำคัญที่สุดคือ เม็กซิโก โดยโปรเจคอาหารว่างล่าสุดที่เขาร่วมคิดค้นกับเพื่อนๆคือ Salome Antojeria del mar และ La Palafoxiana mezcaleria y Champaneria

- บาฮากาลิฟอร์เนีย: จุดยอดนิยมแห่งการคิดค้น ของเชฟรุ่นใหม่ (10 ก.ค. เวลา 16.00 น. ตามเวลาปารีส)

โดยเชฟ Diego Hernandez Baquedano จากร้านอาหาร Corazon de Tierra Restaurant (ร้านอาหารอันดับที่ 42 จากผลการจัดอันดับร้านอาหารที่ดีที่สุดในละตินอเมริกา 50 ร้าน) เมืองเอนเซนาดา ประเทศเม็กซิโก

เชฟ Diego Hernandez Baquedano เริ่มต้นอาชีพการปรุงอาหารที่ร้านอาหารซึ่งมีเชฟชื่อดังของประเทศ ซึ่งรวมถึง เชฟ Benoto Molina เชฟ Guillermo Gonzalez และเชฟ Enrique Olvera ซึ่งเชฟ Diego เรียนจบจากสถาบันศิลปะการทำอาหารติฮัวนา และยังเป็นเชฟเจ้าของร่วมของร้านอาหาร UNO Restaurant ในเมืองติฮัวนา

เมื่อปี 2554 เขาได้ร่วมมือกับ The Villa Valley ในการเปิดร้าน Corazon de Tierra Restaurant ใน วัลเย่ เดอ กวาเดอลูเป้ ซึ่งเป็นร้านอาหารชั้นหนึ่งด้านอาหารเมืองบาฮากาลิฟอร์เนีย โดยให้ความสำคัญกับวิถีและธรรมเนียมของเมืองเอนเซนาดา วิธีการประกอบอาหารของเขาคือการแสดงในแบบเฉพาะของตนเองตามสไตล์ท้องถิ่น ความเอาใจใส่ และความเคารพต่อธรรมชาติ เขาได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลเชฟมือใหม่ยอดเยี่ยม โดยนิตยสารทราเวลแอนด์เลเชอร์เมื่อปี 2554 และร้านอาหาร Corazon de Tierra Restaurant ได้รับรางวัล ร้านอาหารในโรงแรมยอดเยี่ยม เมื่อปี 2555 ทั้งนี้ เขายังได้รับรางวัล คอนเซ็ปยอดเยี่ยม ในปี 2556 จากนิตยสารเดียวกันอีกด้วย และในปี 2556 ร้านอาหาร Corazon de Tierra Restaurant ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ที่ 30 ของรายชื่อร้านอาหารที่ดีที่สุดในละตินอเมริกา 50 ร้าน

- การพัฒนาสไตล์การปรุงอาหารรูปแบบใหม่ในภูมิภาคยูคาทาน (10 ก.ค. เวลา 17.30น. ตามเวลาปารีส)

โดยเชฟ Roberto Solis จากร้านอาหาร Nectar Restaurant เมืองเมอริด้า ประเทศเม็กซิโก

เชฟ Roberto Solis ตัดสินใจเปิดร้านอาหารของตนเองชื่อว่าร้าน Nectar ด้วยวัยเพียง 27 ปี และไม่มีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งศิลปะในการทำอาหารของร้านนั้นเริ่มด้วยการปรุงในรูปแบบมินิมัลลิสต์ ซึ่งเป็นการสรรสร้างอาหารยูคาทานใหม่ๆ โดยมีพื้นฐานมาจากรูปแบบการทำอาหารยูคาทานแบบดั้งเดิม

ความรู้และทักษะความเป็นมืออาชีพของเชฟ Solis ได้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่มีอยู่อย่างท่วมท้น ในปี 2547 เขาเคยทำงานในร้านอาหารชื่อดัง Fat Duck ในประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2551 เขาได้ทำงานในร้านอาหาร Per Se ของ Thomus Keller ในนครนิวยอร์ก และในปี 2553 ได้ทำงานร่วมกับเชฟ Yosihiro Narisawa ในร้านอาหาร Les Creations of Narisawa ในกรุงโตเกียว และในปี 2552 เขาได้จัดนิทรรศการ Kooben ชื่อดังร่วมกับเชฟ Luis Barocio ในปัจจุบัน เชฟ Roberto กำลังคิดค้นโปรเจ็คใหม่ๆ เช่น ร้านอาหารแบบเรียบง่าย Maxican Tapas และร้านทาโก้ (taqueria)

ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ได้มีการระบุในข่าวชิ้นนี้คือเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ท่านสามารถร่วมสนทนาผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และใช้ Hashtag #venacomer

แหล่งข่าว: The Mexico Tourism Board

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม