ไอนด์โฮเวน, เนเธอร์แลนด์--9 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
นักพยาธิวิทยาในสิงคโปร์ ออสเตรีย เยอรมนี เบลเยียม และสหราชอาณาจักร ต่างเลือกใช้ Digital Pathology Solutions ของฟิลิปส์ เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าในการวินิจฉัยโรค
ในยุคที่นักพยาธิวิทยาผู้ชำนาญการมีจำนวนลดลง แต่จำนวนผู้สูงอายุและความซับซ้อนของโรคมะเร็งกลับเพิ่มมากขึ้น รอยัล ฟิลิปส์ (Royal Philips) (NYSE: PHG, AEX: PHIA) มีความยินดีที่จะประกาศว่า Digital Pathology Solutions ของทางบริษัท กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่สถาบันสุขภาพทั่วโลกที่กำลังเดินหน้ายกระดับการดำเนินงาน โดย IntelliSite Pathology Solution* ของฟิลิปส์นั้น เปิดโอกาสให้องค์กรด้านสุขภาพสามารถวางระบบการทำงานด้านจุลพยาธิวิทยาใหม่ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในการวินิจฉัยโรคด้วย
รูปภาพ - http://photos.prnewswire.com/prnh/20150908/264234
รูปภาพ - http://photos.prnewswire.com/prnh/20150908/264235
การตรวจสอบทางพยาธิวิทยาเนื้อเยื่อมีบทบาทสำคัญในการวินิจฉัย รักษา และป้องกันโรคต่างๆ ซึ่งรวมถึงโรคมะเร็ง ในยุคที่แรงกดดันด้านต้นทุนและคุณภาพการรักษายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระบบพยาธิวิทยาแบบดิจิตอลสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพในการวินิจฉัยโรคมะเร็งได้ เครือข่ายสถาบันพยาธิวิทยารายใหญ่ๆทั่วโลกได้นำแพลตฟอร์มพยาธิวิทยาแบบดิจิตอลของฟิลิปส์ใปใช้ เพื่อยกระดับกระบวนการทำงาน การประสานงานด้านการรักษา การผนวกรวมข้อมูลของผู้ป่วย ตลอดจนความยืดหยุ่นเพื่อให้ได้รับข้อมูลมากขึ้นจากเนื้อเยื่อรอบเนื้องอก
"ห้องปฏิบัติการทางพยาธิวิทยาสมัยใหม่ต่างถูกกดดันให้เพิ่มทั้งปริมาณงาน ประสิทธิภาพการทำงาน และคุณภาพของงาน" Russell Granzow ผู้จัดการทั่วไปของ Philips Digital Pathology Solutions กล่าว "การเปลี่ยนผ่านสู่การแพทย์ส่วนบุคคลจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลทางพยาธิวิทยา เพื่อให้การรักษาที่เหมาะสมแก่ผู้ป่วยแต่ละรายในเวลาอันสมควร ฟิลิปส์จึงขับเคลื่อนวิวัฒนาการสู่ระบบการทำงานแบบดิจิตอล เพื่อให้เหล่านักพยาธิวิทยาสามารถตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมได้อย่างแท้จริง"
- รองรับการจัดเก็บข้อมูลในสิงคโปร์
เมื่อไม่นานมานี้ Singapore General Hospital (SGH) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลักในระบบบริการสาธารณสุขของสิงคโปร์ ได้ติดตั้งระบบพยาธิวิทยาแบบดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในโลกในห้องปฏิบัติการวินิจฉัยโรคของโรงพยาบาล เพื่อรองรับผู้ป่วยทางพยาธิวิทยาที่มีมากกว่า 50,000 เคสต่อปี โดย SGH จะเก็บข้อมูลในดิสก์ขนาด 1.6 เพตะไบต์ และเทปอีก 1.6 เพตะไบต์ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการจัดเก็บกระจกสไลด์เนื้อเยื่อ ไม่ว่าจะเป็นการสูญหาย ชำรุด เสื่อมสภาพ หรือข้อผิดพลาดอื่นๆจากการจัดเก็บแบบเดิม พร้อมลดพื้นที่ในการจัดเก็บด้วย
- วางระบบเต็มรูปแบบในเบลเยียม
โรงพยาบาล AZ Sint Jan ในเมืองบรูจจ์ ประเทศเบลเยียม ได้ดำเนินการวางระบบอย่างเต็มรูปแบบเพื่ออำนวยความสะดวกในการวินิจฉัยทางจุลพยาธิวิทยาแบบดิจิตอลครบวงจร โดย Dr. Van den Berghe หัวหน้านักพยาธิวิทยาของโรงพยาบาล ได้ตัดสินใจวางระบบดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบในคราวเดียวเพื่อประโยชน์สูงสุด เพราะเชื่อว่ายิ่งใช้เวลาเปลี่ยนแปลงระบบน้อยเท่าใดก็ยิ่งประหยัดงบประมาณเท่านั้น
- มอบบริการวินิจฉัยระยะไกลทั่วออสเตรีย
ในประเทศออสเตรีย มีห้องปฏิบัติการทางพยาธิวิทยาของเอกชน 2 แห่งในเมืองฮอลอินทีโรลและเซนต์โพลเทน ที่คอยให้บริการวินิจฉัยแก่โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์เอกชนทั่วออสเตรีย และเพื่อเร่งกระบวนการวินิจฉัยตัวอย่าง ตลอดจนให้คำปรึกษาแบบอินเตอร์แอคทีฟแก่ผู้ป่วย Dr. Soleiman จึงได้สร้างเครือข่ายนักพยาธิวิทยานานาชาติที่ทำงานแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับการเก็บข้อมูลสไลด์เนื้อเยื่อราว 200,000 แผ่นต่อปี โดยใช้โซลูชั่น IntelliSite ของฟิลิปส์
- แพลตฟอร์มโทรเวชกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีให้บริการออนไลน์
แพลตฟอร์ม "CCS Telehealth Ostsachsen" ให้บริการโดยบริษัทในเครือของ Dresden's university clinic และ T-Systems International โดยการใช้งานนำร่องในยุโรปได้สร้างความเป็นไปได้มากมายให้แก่เครือข่ายบริการสุขภาพ และมีจุดมุ่งหมายเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ นอกจากนี้ เมื่อผนวกรวมกับระบบพยาธิวิทยาแบบดิจิตอลแล้ว เหล่านักพยาธิวิทยาจะสามารถวิเคราะห์ตัวอย่างเนื้อเยื่อที่ผ่านการจัดเก็บแบบดิจิตอล และสามารถนำไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นๆบนเครือข่ายดิจิตอล เพื่อยกระดับการวินิจฉัยผู้ป่วย
ทั้งนี้ สถาบันชั้นนำทั่วโลกต่างไว้วางใจให้ฟิลิปส์ขับเคลื่อนระบบคลินิกสู่ความเป็นดิจิตอล เพื่อช่วยให้ห้องปฏิบัติการทางพยาธิวิทยามีความก้าวหน้าในการยกระดับการทำงาน พร้อมเร่งกระบวนการแบ่งปันความรู้ระหว่างกลุ่มผู้ให้บริการด้านสุขภาพ