หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: JWD ลั่นขึ้นผุ้นำธุรกิจโลจิสติกส์ในอาเซียน หลังเข้าตลาดฯ  (อ่าน 186 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 29 ก.ย. 15, 14:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
JWD เร่งรุกธุรกิจโลจิสติกส์ภาคพื้นดินแบบครบวงจรเต็มสูบ หลังเข้าเทรดในตลาดฯ 29 ก.ย.นี้ ผุดคลังสินค้าในประเทศเพื่อนบ้าน หนุนเป็นผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน ด้านโบรกเกอร์มองราคาเหมาะสม 13.60-14.20 บาท/หุ้น


บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ JWD เดินหน้าเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก 29 กันยายนนี้ มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับดี ประกาศรุกโลจิสติกส์ในประเทศเพื่อนบ้าน เดินหน้าก่อสร้างอาคารคลังสินค้าในเมียนมาร์ สปป.ลาวและกัมพูชา แย้มมองโอกาสร่วมทุนพันธมิตรหรือควบรวมกิจการขยายธุรกิจดันการขยายตัวสู่ผู้นำธุรกิจ โลจิสติกส์ในระดับอาเซียน ด้านบทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ประเมินมูลค่าหุ้น JWD ที่เหมาะสม 13.60-14.20 บาท/หุ้น มองแนวโน้มธุรกิจมีโอกาสเติบโตโดดเด่น

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ภาคพื้นดินอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันที่ 29 กันยายน 2558 ใช้ชื่อย่อ ‘JWD’ ในการซื้อขายในกระดานหลักทรัพย์ฯ โดยมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน หลังก่อนหน้านี้ได้เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท ให้กับนักลงทุนที่สนใจเมื่อวันที่ 21-23 กันยายน 2558 ในราคาหุ้นละ 11 บาท

สำหรับ บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ ดำเนินธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ภาคพื้นดินมากว่า 35 ปี โดยมีบริการแบ่งเป็น 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.บริการรับฝากและบริหารสินค้า ครอบคลุมสินค้าทั่วไป สินค้าอันตราย ยานยนต์และส่วนประกอบและสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นและแช่แข็ง 2.ธุรกิจรับขนส่งสินค้าในประเทศและขนส่งสินค้าข้ามแดน 3.ธุรกิจรับขนย้ายในประเทศและต่างประเทศเจาะกลุ่มบุคคลและองค์กร 4.ธุรกิจให้บริการรับฝากเอกสารและจัดการข้อมูลและ 5.ธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ ให้เช่าอาคารและคลังสินค้า รวมถึงให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีจุดแข็งที่เป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่ได้รับสัมปทานให้บริการรับฝากและบริหารสินค้าอันตรายในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังนาน 30 ปี จึงทำให้สินค้าอันตรายที่ผ่านเข้า-ออกท่าเรือแหลมฉบัง จะต้องผ่านคลังสินค้าอันตรายของบริษัทฯ เท่านั้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ไปขยายคลังสินค้าในไทยและต่างประเทศ ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ ต่อไป ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างคลังสินค้าทั่วไปและคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิสำหรับสินค้าแช่เย็นและแช่แข็งในประเทศเมียนมาร์ สปป.ลาวและกัมพูชา พื้นที่รวม 6,490 ตารางเมตร เพื่อรองรับธุรกิจค้าปลีกด้านอาหารที่กำลังเติบโต จะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2559 ส่วนในประเทศไทยได้ดำเนินการปรับปรุงคลังสินค้าเดิมในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ให้เป็นศูนย์เก็บและกระจายสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ มีพื้นที่ 9,000 ตารางเมตร พร้อมพัฒนาพื้นที่ศูนย์เก็บและกระจายสินค้าอันตรายเพื่อใช้แยกและกระจายสินค้าลงในรถขนส่งขนาดเล็ก ขนาดพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร โดยทั้ง 2 โครงการจะเริ่มให้บริการในไตรมาส 1/2559

“เรามีองค์ความรู้และประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 35 ปี ด้วยจุดแข็งทางธุรกิจที่มีการนำเทคโนโลยีด้านซอฟแวร์ที่มาจากการพัฒนาของบริษัทฯ ในเครือ เข้ามาใช้ในการบริหารจัดการด้านคลังสินค้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้เรามีขีดความสามารถด้านการให้บริการโลจิสติกส์ที่เหนือกว่าคู่แข่ง พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมีความพร้อมและศักยภาพในการก้าวไปสู่ผู้นำด้านโลจิสติกส์ในอาเซียน ด้วยการเข้าไปลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าในประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเรายังแสวงหาโอกาสในการขยายธุรกิจเพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้วยการร่วมทุนหรือควบรวมกิจการกับพันธมิตร เพื่อให้เราก้าวสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้” นายชวนินทร์ กล่าว

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ในไทยและอาเซียนมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องหลังไทยก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะมีการเชื่อมโยงการค้าการลงทุนที่กระตุ้นให้เกิดการขยายฐานการผลิตในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม) ที่ผู้ประกอบการไทยและต่างชาติเข้าไปลงทุนเพื่อใช้เป็นฐานการผลิต ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคนี้และเป็นโอกาสของ JWD ในการเข้าให้บริการแก่ลูกค้าเพื่อผลักดันการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

ด้านบทวิเคราะห์โดยฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ 4 ราย ได้แก่ บล.กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บล.เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) บล.ไทยพาณิชย์ จำกัดและ บล.ทิสโก้ จำกัด มีมุมมองต่อทิศทางการดำเนินงานของ JWD ในปี 2558-2560 จะเติบโตต่อเนื่อง โดยมีความสามารถทำกำไรขั้นต้นมากกว่า 40% จากรายได้บริการรับฝากสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นและแช่แข็ง ยานยนต์และสินค้าอันตรายที่เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างโดดเด่น ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 17% และ 14% ตามลำดับ ขณะเดียวกันยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าทั่วไปและคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นและแช่แข็งที่ประเทศเมียนมาร์ สปป.ลาวและกัมพูชา ซึ่ง JWD ถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่เข้าไปรุกตลาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างจริงจัง จึงมีแนวโน้มจะได้รับประโยชน์จากความต้องการบริการด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้าที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ จึงได้ประเมินราคาที่เหมาะสม (Fair Value) ของหุ้น JWD ในปี 2558-2559 ไว้ที่ 13.60-14.20 บาท โดยคำนวณจากวิธีคิดส่วนลดกระแสเงินสด (Discounted Cash Flow : DCF) และอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ในปีนี้ที่ 22.5-23 เท่า ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมเดียวกันที่มีค่า P/E สูงถึง 34 เท่า อีกทั้งการประเมินราคาหุ้นที่เหมาะสม 13.60-14.20 บาทดังกล่าว ยังคงสูงกว่าราคา IPO ซึ่งอยู่ที่หุ้นละ 11 บาท จึงสะท้อนถึงความน่าสนใจในการลงทุนได้เป็นอย่างดี

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags: JWD IPO Logistics
Tags:  JWD  IPO  Logistics  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม