http://www.baahball.com/คอลัมน์ฟุตบอล/20151224/10-แข้ง-เลเวลอัพเร็วเวอร์-จนกลายเป็นตัวท็อป-แห่งปี-2015/100005296 www.baahball.com/10แข้ง เลเวลอัพก้าวกระโดดปี 2015 10. แฮร์รี เคน : ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส หากนับกันจริง ๆ แล้ว ดาวยิงวัยรุ่นของทีม ไก่เดือยทอง คนนี้ ก็เริ่มจะฉายแสงแปล๊บปล๊าบออกมาได้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่หลังจากเข้าสู่ปี 2015 อย่างจริงจัง แสงสปอร์ตไลท์ทุกดวงก็ต้องส่องไปที่เขาทันที
ด้วยอายุเพียงแค่ 22 ปี เคน กลายเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ร้อนแรงที่สุดของ
พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลก่อน และมาจนถึงซีซั่นนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะดูเครื่องร้อนช้าไปนิดหน่อย แต่ตอนนี้ก็เริ่มกลับมาระเบิดตาข่ายคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่องแล้วเช่นกัน
9. อองตวน กรีซมันน์ : แอตเลติโก มาดริด ในช่วงปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าเป็นปีทองของ ตัวรุกชาวฝรั่งเศสคนนี้อย่างแท้จริง เพราะฝีเท้าของเขาได้พัฒนาก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกที่ถูกจับตามองมากที่สุดในตลาดซื้อขายทุกครั้งไป
มาจนถึงฤดูกาลนี้ กรีซมันน์ ก็ยังคงระเบิดฟอร์มแจ่มอย่างต่อเนื่อง แถมดูแล้วมีความเก๋าความนิ่งเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย จนทำให้ผ่านไปแค่ครึ่งซีซั่นก็จัดการกระหน่ำประตูให้ตราหมีไปแล้ว 12 ประตูจากทุกรายการ
8. ฟรานซิส โกเกอแลง : อาร์เซนอล ในฤดูกาลที่แล้ว ทีมปืนใหญ่ของ อาร์เซน เวนเกอร์ นั้นน่าจะรู้สึกเหมือนถูกหวยเบอร์ใหญ่ เพราะพวกเขาได้ค้นพบเพชรเม็ดงามที่มีชื่อว่า ฟรานซิส โกเกอแลง มาแบบที่เรียกได้ว่าไม่ตั้งใจสักเท่าไหร่
เพราะแต่เดิม โกเกอแลง ถูกส่งไปให้ ชาร์ลตัน ยืมใช้
งาน และถูกเรียกกลับมาปลายปี 2014 จากนั้นเมื่อได้รับโอกาสจาก อาร์เซน เวนเกอร์ เขาก็ทำได้ดีเกินความคาดหมาย และพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนตอนนี้กลายเป็นมิดฟิลด์ที่สำคัญที่สุดของทีมไปเสียแล้ว
7. ริยาด มาห์เรซ : เลสเตอร์ ซิตี้ สำหรับปีกชาว แอลจีเรีย ของทีมจิ้งจอกสยามคนนี้ เชื่อว่าตอนต้นฤดูกาลคงจะไม่มีใครคิดว่าเขาจะระเบิดฟอร์มสุดแซ่บได้มากขนาดนี้ เพราะเมื่อมองย้อนกลับไปในซีซั่นก่อน ฟอร์มก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก
อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 2015-16 นี้ มาห์เรซ ลงเล่นใน
พรีเมียร์ลีกไปแล้ว 15 เกม แต่กลับยิงไปมากถึง 13 ประตูในฐานะมิดฟิลด์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ เลสเตอร์ นำเป็นจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ และด้วยวัยเพียง 24 ปี ก็หวังว่าจะได้เห็น มาห์เรซ พัฒนาฝีเท้ามากขึ้นไปอีกตลอดเส้นทางค้าแข้งของเขาเลย
6. โนลิโต้ : เซลต้า บีโก้ เมื่อมองย้อนกลับไปยังฤดูกาลก่อน ชื่อเสียงของ โนลิโต้ นั้นต้องบอกว่าคงมีคนรู้จักเขาน้อยมาก แต่กลับกันในซีซั่นนี้ ดาวยิงเลือดกระทิงได้ระเบิดฟอร์มสุดยอดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนออกมาสู่สายตาชาวโลกได้สำเร็จ
ในซีซั่นนี้เขาลงเล่นไปแล้วทั้งหมด 15 เกม มีผลงานแจ่ม ๆ คือยิงได้ 8 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 15 เกม จนทำให้ทีมต้นสังกัดทะยานขึ้นมาเกาะอยู่อันดับ 4 ของตาราง
คะแนนได้อยู่ ณ เวลานี้ และคอยดูได้เลยว่า ตลาดซื้อ-ขายเปิดขึ้นเมื่อไหร่ ชื่อของเขาจะต้องถูกกล่าวถึงแทบไม่ว่างเว้นแต่ละวันแน่นอน
5. แจ็ค บัตแลนด์ : สโต๊ค ซิตี้ ในฤดูกาลที่แล้วนายทวารดาวรุ่งวัย 22 ปี คนนี้มีโอกาสลงสนามให้กับต้นสังกัดไปเพียงแค่ 8 เกมเท่านั้น เพราะเขาต้องตกเป็นตัวสำรองของมือหนึ่งอย่าง อัสเมียร์ เบโกวิช นั่นเอง
แต่หลังจากที่ เบโกวิช ย้ายไปอยู่กับ เชลซี โอกาสงาม ๆ ก็มาถึงมือของ บัตแลนด์ และแน่นอนว่า มาร์ค ฮิวจ์ส ผู้เป็นกุนซือก็พร้อมที่จะให้โอกาสนั้น
และตลอดทั้ง 17 เกมเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนไม่อยากเชื่อว่าเพิ่งจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงของสโมสรเพียงแค่ปีแรกเท่านั้น
4. เฮคเตอร์ เบเยริน เบเยริน นั้นเป็นหนึ่งในนักเตะที่เติบโตขึ้นมาจาก อคาเดมี ของ บาร์เซโลนา ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ อาร์เซนอล ในปี 2011 จุดเด่นของเขาก็คือเป็นกองหลังที่มีความเร็วสูงมากจนหลายคนเรียกว่า “จรวดทางเรียบ”
ฤดูกาลที่แล้ว เบเยริน เพิ่งจะได้รับโอกาสให้ลงเล่นบ่อยครั้งขึ้นในช่วงต้นปี 2015 ที่ผ่านมา โดยหลังจากเกมที่ทีมปืนใหญ่ เอาชนะ สโต๊คไปได้ 3-0 ตำแหน่งแบ็คขวาตัวจริงของทีมก็กลายเป็นของเขาเรื่อยมาจนปัจจุบัน
3. เนย์มาร์ : บาร์เซโลนา ฝีเท้าของเขาอยู่ในระดับท็อปของโลกมาหลายปีแล้ว ทั้ง ๆ ที่มีอายุเพียงแค่ 23 ปีในปัจจุบัน
แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ หลังจากย่างเข้าปี 2015 เป็นต้นมา ความเก่งกาจในการเล่นฟุตบอลของเขานั้นมากขึ้นแบบผิดหูผิดตา สไตล์การบุกก็ดูกลมกล่อมลงตัวมากขึ้น แถมความเฉียบขาดในการพังประตูก็ดูเหนือชั้นกว่าปีก่อน ๆ จนแทบจะกลายเป็นคนละคน
ด้วยฟอร์มแบบที่ได้เห็นมาตลอดทั้งปี รวมถึงอายุที่ยังน้อยจนเรียกได้ว่าเป็นดาวรุ่งอยู่ ทำให้คนทั้งโลกปักใจเชื่อกันไปแล้วว่า เนย์มาร์ นี่แหละ จะกลายเป็นเอเลี่ยนคนต่อไป ตามรอย เมสซี เพื่อนร่วมทีมของเขาอย่างแน่นอน
2. คริส สมอลลิง : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากเข้าสู่ปี 2015 เป็นต้นมา สมอลลิง ก็ค่อย ๆ พัฒนาฝีเท้าของเขาขึ้นมาได้แบบก้าวกระโดดจนตอนนี้มีคนทักว่าสามารถเป็นระดับโลกได้เลยในอนาคต
เจ้า “ไมค์” ของ หลุยส์ ฟาน กัล ก็ใช้เวลาเพียงแค่ 12 เดือนพัฒนาขึ้นมาจากตัวฮากลายเป็นผู้นำของทีมทั้งในและนอกสนามได้อย่างแท้จริง จนตอนนี้เกมไหนถ้าเขาไม่ได้ลง บอกเลยว่า “มีหลอน”
1. เจมี วาร์ดี : เลสเตอร์ ซิตี้ จริงอยู่ที่ ฤดูกาลที่แล้ว วาร์ดี้ จะยิงไปได้แค่ 5 ประตูเท่านั้น แถมยังต้องพาทีมลุ้นหนีตกชั้นกันแทบแย่ แต่เมื่อมองดูผลงานของฤดูกาลนี้แล้วใครจะปฏิเสธลงว่าเขาคือคนที่พัฒนาฝีเท้าแบบก้าวกระโดดได้มากที่สุด
นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาจนถึงตอนนี้ วาร์ดี้ จัดการกดไปแล้ว 15 ประตูจากการลงเล่น 17 เกม แถมเขายังทำลายสถิติของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ขึ้นมาเป็นคนที่ยิงประตูต่อเนื่องในพรีเมียร์ลีกได้มากที่สุดที่ 11 เกม
เครดิต: 90min.com