“ข้อมูล” นับเป็นทรัพยากรด้านดิจิตอลที่มีความสำคัญมากที่สุดต่อองค์กรธุรกิจ นอกเหนือจากการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพแล้ว องค์กรจำเป็นต้องเลือกเครื่องมือที่มีสามารถบริหารจัดการข้อมูลที่ครบถ้วนในทุกฟังก์ชันการทำงาน, ให้ความง่ายและรวดเร็ว และพร้อมใช้งานได้ตามความต้องการของธุรกิจ Lenovo ได้พัฒนาโซลูชันด้านระบบสตอเรจที่มีประสิทธิภาพสูงในรุห่น S3200 และ S220 ซึ่งเป็นสตอเรจที่อิงบนพื้นฐานระบบการจัดเก็บข้อมูลระดับเอ็นเทอร์ไพรส์ ที่มีคุณลักษณะแบบ Storage Area Network (SAN) นำมาพัฒนาเพื่อให้องค์กรธุรกิจขนาดย่อมได้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

คุณลักษณะทั่วไป
ด้วยนวัตกรรมของ Lenovo Storage ที่มาพร้อมกับ Controller แบบ 2U-12 ซึ่งสามารถติดตั้งดิสก์ได้ 24 หน่วย โดย Lenovo Storage S2200 สามารถเพิ่มฮาร์ดดิสก์ได้สูงสุดถึง 96 หน่วย ในขณะที่ Lenovo Storage S3200 สามารถเพิ่มฮาร์ดดิสก์ได้สูงสุดถึง 192 หน่วยเพื่อรองรับการเพิ่มหน่วยความจำในอนาคต นอกจากนี้ Lenovo Storage S2200 และ S3200 ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ Fibre Channel, iSCSI และ SAS ได้ ส่วน Storage S3200 ก็สามารถรองรับการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายแบบ Multi-protocol และการเชื่อมต่อแบบ Fibre Channel และ iSCSI ในเวลาเดียวกัน ซึ่งการทำงานร่วมกันดังกล่าวสามารถเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานได้มากขึ้น
เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติระดับเอ็นเทอร์ไพรส์
อาจกล่าวได้ว่าสตอเรจของ Lenovo ทั้งสองรุ่นให้คุณสมบัติที่มากมายเกินตัว ด้วยฟีเจอร์และฟังก์ชันการทำงานในระดับ
เอ็นเทอร์ไพรส์ โดยเริ่มต้นที่ตัวการบริหารจัดการที่ชื่อว่า Lenovo SAN Manager ซึ่งเป็นยูสเซอร์อินเทอร์เฟซในลักษณะแบบกราฟิกที่ให้ผู้ใช้งานทำงานได้อย่าง่ายได้ ไม่ว่าจะเอาไว้สร้างสตอเรจแบบพูล และสามารถเพิ่ม, ลบ และแสดงกลุ่มดิสก์ (Disk Groups) ได้สะดวกง่ายดาย, ตัวแอพฯ นี้ยังสามารถในการสร้างระบบเวอร์ชวลสตอเรจได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วได้อีกด้วย Lenovo S3200 และ S220 มีฟังก์ชันการทำงานที่น่าสนใจอีกมากมายอาทิเช่น
- การจัดการข้อมูลแบบ Data Tiering : เป็นวิธีในการในการจัดการข้อมูลโดยแบ่งตามลำดับชั้นต่างๆ โดยพิจารณาถึง ความสำคัญของข้อมูล ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสตอเรจโดยรวมได้ดีมากยิ่งขึ้น
- การทำ Thin Provisioning : ฟังก์ชันนี้เป็นคุณสมบัติที่ช่วยทำให้พื้นที่การจัดเก็บข้อมูลนั้นสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น ทำให้เราหมดกังวลเรื่องต้นทุนในการเพิ่มพื้นที่สตอเรจด้วย
- ฟังก์ชัน SSD Read Caching : เป็นฟังก์ชันในการเข้าถึงข้อมูลแบบ “ด่วน” โดยเร่งประสิทธิภาพในการอ่านข้อมูลได้ อย่างเต็มขั้น
- ฟังก์ชัน Rapid RAID Rebuild : ช่วยลดระยะเวลาพร้อมลดความเสี่ยงในการกู้ข้อมูลคืนกลับได้อย่างเต็มที่และรวดเร็ว
- การทำ Snapshot : ฟังก์ชันนี้จะเป็นการช่วยในการเก็บข้อมูลในช่วงระยะเวลานั้นๆ ได้อย่างแบบเรียลไทม์
- ฟังก์ชันการทำ Storage Pooling : เป็นการสร้างระบบเวอร์ชวลแบบสตอเรจ ในกรณีที่มีสตอเรจหลายๆ ชนิด และช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพของ IO ได้สูงถึง 2.5 เท่า โดยไม่กระทบต่อการใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆ นอกจากขุมพลังที่แข็งแกร่งข้างต้นแล้ว Lenovo ยังได้พัฒนาให้ระบบพัดลมและไดรฟ์ท สามารถสลับเปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย, มีการพัฒนาระบบให้จัดเก็บข้อมูลได้แบบ 99.999 %, ทำระบบ multi-pathing และการพัฒนา in-chassis controller โดยไม่ต้องย้ายข้อมูลให้ยุ่งยากอีกด้วย

ตอบโจทย์ทุกงานธุรกิจ
Lenovo S2200 และ S3200 ออกแบบมาสำหรับงานธุรกิจในทุกด้าน โดยเป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจให้มีการจัดการข้อมูลที่ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้นด้วยการรองรับแอพพลิเคชั่นมากมาย ที่มีความหลากหลายการใช้งาน ตั้งแต่การท่องเว็บและการจัดการข้อมูล, การวิเคราะห์ข้อมูล, การใช้งานกล้องวงจรปิดและการตรวจเช็คสินค้าที่ผ่านเข้าระบบแบบเรียลไทม์ อาจกล่าวได้ว่านี่คือสุดยอดผลิตภัณฑ์สตอร์เรจที่ติดตั้งและจัดการได้ง่ายพร้อมสำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจขนาดย่อมอย่างแท้จริง