ร้านกาแฟ เป็นธุรกิจภาค Non-oil ที่สามารถสร้างกำไรได้ใน
สัดส่วนที่สูง เนื่องจากไลฟ์สไตล์การดื่มกาแฟสดของคนที่
ขยายวงกว้างมากขึ้นทุกขณะสะท้อนได้จากมูลค่าธุรกิจ
ร้านกาแฟในปัจจุบันทะยานขึ้นไปแตะระดับกว่า 18,000
ล้านบาท และปั๊มน้ำมันจัดเป็นทำเลหลักของธุรกิจที่มีตัว
เลขสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะอเมซอน ร้านกาแฟที่สร้างแบรนด์โดยปตท.
ขณะนี้เติบโตและสามารถแตกตัวออกไปแข่งขันได้ใน
ตลาดนอกพื้นที่ปั๊มน้ำมันเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในแต่ละปี
สัดส่วนร้านอเมซอนจะเพิ่มขึ้นราว 20% ปัจจุบันจำนวน
สาขาสูงถึง 1,250 แห่ง ซึ่งถือเป็นร้านกาแฟที่มีจำนวน
สาขามากที่สุดในประเทศทั้งยังตั้งเป้าหมายที่จะขยับเป็น
1,400 แห่ง ภายในสิ้นปี 2558 โดยในจำนวนดังกล่าว
400 แห่งจะเป็นสาขาที่อยู่นอกปั๊มน้ำมัน
จากความสำเร็จของอเมซอน ปตท.ตัดสินใจต่อยอดธุรกิจ
ร้านชานมไข่มุก “Pearly Tea”จากไต้หวัน ทั้งแบบชงสดและ
บรรจุขวดเป็นการขยายฐานสินค้าให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้า
ได้มากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มรักสุขภาพที่นิยมดื่มชาชงสด ทั้งนี้
วางแผนที่จะเร่งเพิ่มสาขาแฟรนไชส์ชานมไข่มุกอีก 100 สาขา
จากปัจจุบันมีสาขาอยู่ในปั๊ม ปตท. และแฟรนไชส์ตามพื้นที่
ชุมชน รวม 150 สาขา ในรูปแบบของ คีออสขนาด 4 ตร.ม.
เงินลงทุนเริ่มต้น 4-5 แสนบาทและ ร้านค้าขนาด 30 ตร.ม.
ส่วนปั๊มบางจากอยู่ระหว่างเร่งขยายร้านกาแฟอินทนิล ควบ
คู่ไปกับการพัฒนารูปแบบร้านให้สามารถรองรับไลฟ์สไตล์
ของคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้นภายใต้แบรนด์ “อินทนิล การ์เด้น
(Inthanin Garden)” ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศ
ให้เป็นสถานที่ผ่อนคลาย ภายใต้โทนสี Black & White ซึ่ง
จะยกระดับให้มีความเป็นพรีเมียมมากขึ้นภายในร้านมีโซน
บริการชาร์จแบตเตอรี่ฟรีด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ “Solar
Charger” รวมทั้งขยายพื้นที่ร้านและเพิ่มมุมสวนสีเขียว
นอกจากนี้ได้เลือกที่จะสร้างจุดขายผ่านแนวคิดร้านกาแฟ
เพื่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการนำเมล็ดกาแฟสูตร Pure Organic
Arabica 100% ที่ปลูกด้วยกระบวนการทางอินทรีย์เป็นมิตร
ต่อสิ่งแวดล้อมมาเป็นวัตถุดิบ ขณะเดียวกันยังเลือกที่บรรจุ
เครื่องดื่มในแก้วชีวภาพ (Bio Cup) ผลิตจากพืช 100%
ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
ทั้งนี้บางจากตั้งเป้าขยายสาขาร้านอินทนิล คอฟฟี่ เพิ่มกว่า
400 แห่งในปี2559 จากปัจจุบันที่มีสาขารวม 347 แห่ง
ส่วนร้านอินทนิล การ์เด้น เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 70 แห่ง จากที่มี
อยู่ 30 แห่ง
พีทีเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการในตลาดปั๊มน้ำมันที่ทำการ
สร้างแบรนด์ร้านกาแฟ “พันธุ์ไทย” โดยร่วมกับบริษัท
ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล เจ้าของกาแฟ “ดอยช้าง” ชื่อ
กาแฟพันธุ์ไทย ซึ่งดำเนินการ ภายใต้บริษัท กาแฟพันธุไทย
จำกัด ปัจจุบันมี 15 สาขา โดยตามแผนต้องการเพิ่ม
จำนวนร้านกาแฟในสถานีบริการน้ำมันเป็น 60-70 สาขา
รวมถึงขยายร้านกาแฟไปในจุดต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า
และมหาวิทยาลัย
สำหรับฟากของปั๊มน้ำมันแบรนด์นอกเลือกที่จะสร้างรายได้
จากธุรกิจร้านกาแฟผ่านการให้เช่าพื้นที่เป็นหลัก โดยเอสโซ่
นั้นมีดิโอโร่เป็นพันธมิตรมายาวนาน นอกจากนี้อยู่ระหว่าง
พิจารณาร้านกาแฟชาวดอยเข้ามาเสริมในบางทำเลที่มี
ลักษณะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ส่วน
เชลล์มีร้านกาแฟดิโอโร่ และเสริมบางแห่งด้วยเป็นร้าน
กาแฟเมซโซ่ คอฟฟี่
สนับสนุนโดย
นิตยสารแมกเก็ตติ้ง (Magketing)
สามารถดาวน์โหลดนิตยสารฉบับเต็ม...ฟรี...ได้ที่
http://www.ebooks.in.th/ebook/40468/magketing_vol15/