สำหรับท่านที่กำลังสนใจที่จะทำ เคลือบแก้ว สิ่งที่สำคัญก็คือ เรื่องของการหาข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพการปกป้องเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการเอารถไปรับบริการ หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของการเลือก ศูนย์บริการเคลือบแก้ว ว่าเราควรเลือกใช้บริการที่ไหนดี และดูเรื่องของ โปรแกรมเคลือบแก้ว ว่าโปรแกรมไหนเหมาะสมและน่าพอใจมากที่สุด ตอบสนองความต้องการของเรามากที่สุด
อย่างไรก็ตาม หลายๆท่านที่ทำ เคลือบแก้ว เสร็จเรียบร้อยแล้ว อาจมีผลลัพธ์ต่างกันในเรื่องความพึงพอใจ บางคนรู้สึกว่าได้รับประโยชน์จากการ เคลือบแก้วรถยนต์ เป็นอย่างมาก แต่บางคนก็อาจจะรู้สึกว่าทำออกไปแล้ว ไม่เห็นมีผลอะไร สิ่งเหล่านี้เกิดจากประเด็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทั้งจากตัวลูกค้าเอง และจากศูนย์บริการที่ให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน… ทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดพลาด ความคาดหวังของลูกค้าไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเป็นจริง
สิ่งที่ลูกค้าเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการทำเคลือบแก้ว
1. เข้าใจว่าเคลือบแก้วรถยนต์ แล้วสามารถปกป้องได้ทุกอย่าง ประมาณ… ปกป้องได้ทั้งจักรวาล จึงไม่ได้ดูแลรักษาอะไรเลย ปล่อยให้ รถเคลือบแก้ว เผชิญชะตากรรมอย่างสมบุกสมบันเต็มที่ อันนี้แน่นอนว่าเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ขนาดนั้น หลังจากการรับบริการแล้วเราก็ยังต้องมีการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ทั้งตัวเจ้าของผู้ใช้รถเอง และการไปรับบริการตามระยะเวลาที่ทางศูนย์จัดไว้ให้ ซึ่งส่วนนี้จะได้รับการดูแลมากน้อยแค่ไหนและอย่างไรก็อยู่ที่ โปรแกรมเคลือบแก้ว ที่เราเลือกใช้บริการ
2. สภาพการใช้งานรถที่แตกต่างกันก็ทำให้ผลที่เกิดขึ้นกับรถมีความแตกต่างกัน เช่น การจอดตากแดดบ่อยแค่ไหน ขับรถออกต่างจังหวัดบ่อยหรือไม่ พูดง่ายๆ ก็คือ การใช้งานเป็นไปอย่างหนักเบาแค่ไหน มีผลทำให้สภาพรถมีความแตกต่างกันหลังจากทำ เคลือบแก้ว ออกไป
3. การเลือกโปรแกรมเคลือบแก้ว เลือกร้าน มีการนำเสนอการบำรุงรักษาหลังการทำไม่เหมาะสมกับการใช้งานในสไตล์ของเจ้าของผู้ใช้รถอย่างเต็มที่
สิ่งเหล่านี้อาจเกิดจากผู้ประกอบการที่เป็น ศูนย์บริการเคลือบแก้ว ด้วย เช่น
1. ผู้ให้บริการ เคลือบแก้ว ไม่ได้ให้ข้อมูลลูกค้าที่ทำให้เข้าใจอย่างถูกต้องชัดเจนตามความเป็นจริง หวังเพียงผลประกอบการ หรือเน้นการขายโปรแกรมเคลือบแก้วของตนเองเป็นหลัก
2. แนะนำโปรแกรมบริการที่อาจจะไม่เหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้า รถใช้งานหนักเบาแตกต่างกัน ต้องเลือกโปรแกรมเคลือบแก้วที่แตกต่างกัน เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะหรือสไตล์การใช้งานจริงของลูกค้า
3. ผู้ให้บริการขาดเทคนิคในการดูแลหลังการขายที่ถูกวิธีในแต่ละประเภทสี หรือการใช้งานที่แตกต่างของลูกค้า
ขยายความอีกนิดคือการเลือก โปรแกรมเคลือบแก้ว ที่เหมาะกับการใช้งานมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกับการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้า ซึ่งปัญหาเหล่านี้ มีอยู่ 2 ลักษณะ คือ แบบที่มองเห็น และมองไม่เห็น
ปัญหาที่มองเห็น คนที่ไม่ค่อยได้ใส่ใจในการดูแลรถเป็นประจำ แต่ใช้งานรถหนัก จอดในที่เสี่ยง แต่กลับเลือกโปรแกรมเคลือบแก้วที่มีคุณภาพไม่สูง เนื่องจากเป็นการทำ เคลือบแก้ว แบบทำตามกระแสเห็นเขาทำก็อยากมี รถเคลือบแก้ว กับเขาบ้าง โดยขาดความเข้าใจ ดังนั้นเมื่อทำออกมาระยะหนึ่ง มลภาวะก็กลับมาเล่นงานได้ จึงอาจเห็นว่า เคลือบแก้ว ที่ทำมานั้นไม่ได้ช่วยปกป้องอะไรได้มากสักเท่าไหร่ หรือบางคนก็เข้าใจว่ามันดีแค่ช่วงแรกๆ เท่านั้น
ปัญหาที่มองไม่เห็น คือ คนที่ใส่ใจในเรื่องการดูแลรถเป็นพื้นฐานมาแต่เดิม แต่ไม่ค่อยได้ใช้รถ กลับไปเลือกที่จะจ่ายแพงๆ ในการเลือก โปรแกรมการทำ เคลือบแก้ว เพราะขาดความเข้าใจเช่นเดียวกัน นั่นก็ทำให้กลายเป็นการลงทุนที่เกินความจำเป็น พูดง่ายๆ คือ จ่ายแพงแต่ตัวเองใช้ไม่คุ้ม เลือกโปรแกรม ที่เกินความจำเป็น
ดังนั้น สิ่งที่ผู้สนใจจะทำ เคลือบแก้ว จะต้องนำมาพิจารณาเพิ่มเติมก็คือ โปรแกรมเคลือบแก้ว และการดูแลหลังการขายที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเราเอง โดยการขอรับคำปรึกษาจากผู้ให้บริการที่มีทักษะและรู้จริงเท่านั้น
ดังนั้นหากต้องการให้ได้ผลการปกป้องที่สมบูรณ์กับรถของเรา การเลือก โปรแกรมในการ เคลือบแก้ว เป็นเรื่องที่จำเป็นมาก และควรเลือก โปรแกรมเคลือบแก้ว ที่สอดคล้องกับการใช้งานของเราด้วย เพื่อให้ได้ผลที่สุดคุ้มค่ามากที่สุด
ขอบคุณบทความจาก : https://albatroscarcare.com/2016/12/03/glass-coating_023/