ปัจจุบันมือถือและคอมพิวเตอร์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่จำเป็นมากกับคนเราทุกคนใช่มั้ยครับ เราคงปฏิเสธกันไม่ได้ว่าในทุกๆวันเราจ้องหน้าจอพวกนี้กันเกิน 7 ชั่วโมงด้วยซ้ำ ใครจะรู้ว่าพฤติกรรมติดหน้าจอนั้นได้ส่งผลกระทบกับอวัยวะที่สำคัญมากอย่างหนึ่งในร่างกายเรา นั่นก็คือดวงตานั่นเองครับ ดวงตาเป็นหนึ่งในอวัยวะที่จำเป็นมากสำหรับร่างกายคนเรา และโรคภัยหรืออาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับดวงตานั้นค่อนข้างอันตรายและต้องใช้ความรู้เฉพาะทางในการรักษา ดวงตาของคนเรามีคู่เดียว และการจะเปลี่ยนดวงตาคู่ใหม่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลยครับ ในปัจจุบันผมว่าดวงตาเป็นอีกอวัยวะหนึ่งที่คนเราลืมให้ความสำคัญกับมัน และไม่บำรุงรักษามันให้ดีเท่าที่ควร จะเห็นได้ว่าคนสมัยนี้สายตาผิดปกติกันค่อนข้างมาก สาเหตุหนึ่งก็น่าจะมาจากการใช้งานดวงตาอย่างหนักหน่วงแต่ไม่ได้มีการบำรุงรักษามันให้ดีพอ อย่างตอนนี้ก็มีโรคชนิดหนึ่งที่คนในสังคมเราเป็นค่อนข้างเยอะ แต่อาจจะไม่รู้ตัวอย่างโรค computer vision syndrome (CVS) ที่มักจะเกิดกับคนที่ทำงานหน้าจอคอมติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เช่นเกินวันละ 2-3 ชั่วโมง ระดับความรุนแรงก็จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ใช้อยู่หน้าจอครับ หลายๆคนคงเริ่มกังวลแล้งใช่มั้ยครับ ว่าตัวเองเป็นรึป่าว งั้นลองมาสังเกตดูกันครับ ถ้าคุณเกิดอาการตาล้า ตาแห้ง ตามัว แสบตา น้ำตาไหล เคืองตา รู้สึกว่าตาโฟกัสช้าเห็นภาพซ้อน รวมถึงมีอาการปวดตา หัว คอ หลัง ไหล่เข้ามาร่วมด้วยแล้วล่ะก็แสดงว่าคุณกำลังเผชิญกับโรค CVS อยู่แล้วล่ะครับ ดังนั้นวันนี้ผมจึงถือโอกาสมาแนะนำสารอาหารที่จำเป็นต่อการบำรุงสายตาร่วมถึงตัวช่วยที่สามารถรักษาและชะลอโรคเกี่ยวกับดวงตาของเรากันครับ

1.ลูทีน เป็นสารแคโรทีนอยด์สีเหลืองชนิดหนึ่ง ที่มีส่วนในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงในเรื่องของสายตาได้ดีมาก เหมาะสำหรับคนที่ใช้สายตาหนักๆอย่างผมและคนที่ชีวิตติดจอ ลูทีนสามารถช่วยกรองแสงสีฟ้าจากหน้าจอได้ ใครที่ไม่ได้ตัดแว่นกรองแสง หรือติดฟิล์มกรองแสงหน้าจอ ผมแนะนำว่าควรจะทานเป็นประจำนะครับ และที่สำคัญเลยก็คือ ลูทีนตัวนี้ช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม ลดความเสี่ยงในการเป็นต้อกระจกและจุดรับภาพเสื่อมด้วยครับ คนที่ทำงานหน้าจอนานๆ จะช่วยให้มองภาพได้คมชัด เห็นรายละเอียดของภาพได้ดีขึ้น สามารถพบได้ทั่วไปในอาหารพวกพืชผักสีเขียวเข้ม เช่น คะน้า ผักโขม ผักกาดหอม ครับ

2. บิลเบอร์รี่สกัด คือ สารสกัดที่เกิดจากผลไม้สีน้าเงินอมม่วงอย่างบิลเบอร์รี่ สรรพคุณหลักๆของเจ้าบิลเบอร์รี่ก็คือ ช่วยถนอมสายตาของเราไม่ให้เสื่อมถอยได้ง่ายแม้จะติดจอมากแค่ไหนก็ตาม สำหรับสาวๆผมว่าประโยชน์ตัวนี้น่าจะชอบนะครับ เพราะบิลเบอร์รี่สกัดเนี่ยจะทำให้แววตาดูสดใสเป็นประกายด้วยครับ นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันโรคต่างๆที่เกี่ยวกับดวงตาได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของคอลลาเจนในเส้นเลือดฝอยที่ตา หากมองเข้าไปในตาแล้วเจอเลือดฝอยแตกๆเห็นชัดๆคงดูน่ากลัวใช่มั้ยครัย ผมว่าสารตัวนี้ตอบโจทย์ได้ดีเลย

3.เบต้าแคโรทีน เป็นสารตั้งต้นของเจ้าวิตามินเอ แต่ใครจะรู้ล่ะครับว่าจริงๆแล้วการทานเบต้าแคโรทีน จะมีความปลอดภัยกว่าการทานวิตามิเอโดยตรง เพราะร่างกายจะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนเป็นวิตามินเอ เมื่อร่างกายต้องการเท่านั้น สำหรับประโยชน์ที่เหมาะกับการบำรุงสายตานั้นล่ะก็ มันจะช่วยบำรุงสุขภาพของดวงตาได้อย่างดี ร่างกายของเราจะนำไปใช้ในการสร้างโรดอปซินในดวงตาส่วนเรตินา ทำให้การมองเห็นในเวลากลางคืนดีขึ้น เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ช่วยป้องกันโรคตาบอดตอนกลางคืนด้วยล่ะครับ และยังช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตา รวมถึงลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต้อกระจกเช่นเดียวกันครับ โดยปกติแล้วเบต้าแคโรทีนมักพบได้ในผักและผลไม้สีส้ม เหลือง แดงและสีเขียวเข้มครับ เช่น แครอท ฟักทอง ผักบุ้ง ผักคะน้า เป็นต้น

4. โอเมก้า 3 จะมีสักกี่คนที่ทราบว่านอกจากโอเมก้า 3 จะช่วยในเรื่องของบำรุงสมอง ระบบประสาทเกี่ยวกับการเรียนรู้แล้ว ยังช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตาอีกด้วย เพราะโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่สำคัญในสมองและจอประสาทตา ช่วยในเรื่องของบำรุงประสาทตาไม่ให้เสื่อมก่อนวัยอันควร และช่วยบำรุงเรตินาทำให้มองเห็นได้ดียิ่งขึ้นครับ โอเมก้า 3 พบได้ตามปลาทะเลและปลาน้ำจืดบางชนิด ธัญพืชและถั่วเปลือกแข็ง รวมไปถึงน้ำมันปลาด้วยครับ

5. สารต้านอนุมูลอิสระปริมาณสูง ตอนแรกผมเข้าใจว่าสารพวกนี้จะช่สยเรื่องผิวพรรณความสวมงามอย่างเดียวซะอีก เห็นโฆษณาชอบพูดกันบ่อยๆ แต่พอหาข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับการรักษาดูแลดวงตา ผมกลับไปเจอข้อมูลมาครับว่าในการศึกษาเรื่องโรคจอประสาทตาเสื่อมที่สัมพันธ์กับอายุ (AREDS) พบว่า การรับประทานสารต้านอนุมูลอิสระปริมาณสูงร่วมกัน ได้แก่ แร่ธาตุสังกะสี วิตามินอี วิตามินซี ทองแดง และเบต้าแคโรทีน มีผลช่วยลดการกำเริบของโรคจอประสาทตาเสื่อมได้อย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันสูตรของสารอาหารดูแลดวงตา จึงควรมีกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ร่วมด้วย เพื่อช่วยดูแลดวงตา และชะลอการเสื่อมของดวงตาได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อรองรับพฤติกรรมการใช้สายตาจากการจ้องจอต่อเนื่องของคนยุคดิจิตอล รวมถึงป้องกันโรค CVS ด้วยครับ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นความรู้ที่อยากจะแชร์กันว่าหากเราต้องการที่จะบำรุงสายตาแล้วล่ะก็ควรเลือกทานอาหารประเภทไหนกันบ้าง แต่สำหรับคนที่คิดว่าการเลือกทานอาหารเพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วนอย่างที่ต้องการอาจจะยุ่งยาก หรือไม่สะดวกแล้วล่ะก็สมัยนี้เค้าก็มีการนำสารอาหารข้างต้นมาสกัดเป็นอาหารเสริมให้เลือกกันได้หลากหลาย เรียกว่าง่ายขึ้นและครบถ้วน สามารถลองหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วเลือกซื้อมาทานกันได้ตามแต่สะดวกครับ
ถ้าให้แนะนำก็ตามด้านล่างนี้เลยครับ 3 ตัวยอดฮิต แต่ผมขอเพิ่มตัวที่ผมเพิ่งเริ่มทานอยู่ ที่เป็นสินค้าตัวใหม่ครับจาก MEGA we care ชื่อ OPTIVIT ครับ พอดีอ่านเจอว่ามันช่วยรักษาและชะลอเรื่องของโรคเกี่ยวกับดวงตาโดยตรงครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นโรค CVS อย่างที่บอกเลยลองไปซื้อมาทานครับ พึ่งเริ่มทานได้ไม่นาน ถ้ายังไงได้ผลยังไงไว้ผมจะมาบอกเล่าอีกครั้งนะครับ