บ้าน เดี่ยวระดับบน ภายใต้แบรนด์ “
บ้านแสนสิริ” ที่จะนำกลับมาพัฒนาอีกครั้ง
บ้าน เดี่ยว ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 120 ตารางวาขึ้นไป จำนวน 36ยูนิต มีแบบบ้านให้ดลือก 4-5 แบบ มูลค่า 2,000 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้นที่40 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 80 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
รวมทั้งการรุกทำการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายตลาดต่างชาติในปีนี้ไว้ถึง 7,500 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5,400 ล้านบาท ถึงเกือบ 40%และเติบโตขึ้นถึง 55% จากปี 2558 ที่มียอดขายตลาดต่างชาติ 3,500 ล้านบาท สำหรับโครงการที่ขายดีสำหรับต่างชาติ คือ เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากการไปโรดโชว์ที่ประเทศ ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวันและจีน โกยยอดขายได้ประมาณ 1,300 ล้านบาท นับว่าเป็นมูลค่าสูงที่สุด ซึ่งปีนี้บริษัทเตรียมโรดโชว์ในหลายประเทศโดยจะเน้นขยายฐานในประเทศจีนมากขึ้น รวมทั้งเปิดตลาดในประเทศญี่ปุ่นด้วย
นอกจากนี้ได้มีการจัดตั้งส่วนงานใหม่ที่เรียกว่า Data Analytics and Business Intelligence ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อทำหน้าที่ในการวางโรดแมพของ enterprise data ใหม่ทั้งหมดและเป็นทีมหลักในการผลักดันให้แสนสิริปรับเปลี่ยนเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ data analytics capabilities โดยการใช้ข้อมูลในการวางแผนทางธุรกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดความมีประสิทธิภาพในการทำงานและสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจได้ นับเป็นการต่อยอดจากนโยบาย EFG หรือ Engineering for Growth ที่แสนสิริทำต่อเนื่องตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในไตรมาสแรก บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการแนวราบประเภททาวน์เฮาส์ มูลค่าโครงการ 90 ล้านบาท จำนวน 10กว่ายูนิตขายในราคา 2-4ล้านบาท คาดว่าจะเปิดโครงการในช่วงเดือนมีนาคม 2560 ในส่วนของตลาดต่างจังหวัดมีแผนพัฒนา 2 โครงการโดยเป็น
คอนโดมิเนียมที่เชียงใหม่และโครงการแนวราบที่อยุธยา บนพื้นที่50-60 ไร่ ซึ่งมีทั้งบ้านเดี่ยวที่จะเปิดขายในราคา 3.5 ล้านบาทและทาวเฮาส์ในราคา 2 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดโครงการในไตรมาส 4 ของปีนี้ อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทได้วางงบซื้อที่ดินไว้ที่ 7,000-7,500 ล้านบาท รอรับการพัฒนาโครงการในอนาคต