สวัสดีค่า! ทุกคนว่ามั๊ย...เวลามันผ่านไปเร็วเนอะ มาคิด ๆ ดู เหลืออีกแค่ 3 เดือนเท่านั้นก็จะหมดปีแล้ว! แถมอายุของช้านนนน ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย กริ๊สสสสส! แต่เอาน่ะถึงยังไงเราก็หนีความแก่ไม่พ้นอยู่ดี เค้าก็เลยมีเคล็ดลับดี ๆ ในการชะลอความแก่ ขจัดความหย่อนคล้อยและฟื้นฟูผิวให้เป๊ะ! มาฝากกัน แต่วันนี้ขอเอาใจสาว ๆ วัย 35 UP กันซะหน่อย !!!!
สาววัย 35+ เป็นวัยที่สังเกตเห็นได้ชัดเลยว่าผิวหน้าของตัวเองเปลี่ยนไป จากที่เคยผิวใส ๆ หน้าตึงกระชับ กลับต้องเจอกับปัญหารูขุมขนกว้าง จุดด่างดำ ผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย รอยตีนกาก็มาเต็ม เรียกได้ว่าปัญหาผิวถาโถมเข้ามาสุด ๆ แหม่น่าเศร้า T^T เพราะด้วยการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การลดลงของคอลลาเจน การต้องเผชิญมลภาวะที่มีผลต่อการเสื่อมโทรมของผิว และสารต่าง ๆ ที่ออกฤทธิ์กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกายลดลง รวมไปถึงอัตราการผลิตเซลล์ใหม่ก็เริ่มลดลงตามไปด้วย
งั้นจะรอช้าอยู่ทำไม! เราไปดู 5 วิธีขจัดความหย่อนคล้อย ฟื้นฟูผิวให้เป๊ะ! สำหรับสาววัย 35+ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้เลยดีกว่า ใครสนใจวิธีไหนก็ลองเอาไปทำตามกันดูได้นะจ๊ะ...-HIFU ยกตัวอย่าง “การทำทรีตเม้นท์ SonoQueen HIFU”
HIFU ถือเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการช่วยรักษาความหย่อนคล้อยของใบหน้า เหมาะกับสาววัย 35+ เป็นที่ซู้ดดด!! เพราะ HIFU สามารถช่วยยกกระชับใบหน้า กำจัดแก้มย้อยเหนียงห้อยได้ ด้วยการปล่อยพลัง
งานคลื่นอัลตร้าซาวน์ความเข้มข้นสูงไปที่ผิวชั้น SMAS เป็นชั้นผิวที่เป็นพังผืดห่อหุ้มกล้ามเนื้อใบหน้าของเรานี่แหละ เป็นชั้นผิวที่คุณหมอจะศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า ดังนั้นการทำ HIFU ก็เหมือนได้ยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเจ็บตัวเลยจ้า แต่ได้หน้าที่ตึงกระชับ แถมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วยนะ รับรองว่าวิธีนี้ ถูกอกถูกใจสาว ๆ วัย 35+ แน่นอนจ้า
-PRFM ยกตัวอย่าง “การรักษาด้วย SELPHYL PRFM”
PRFM ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ และลดเลือนริ้วรอยร่องลึกให้กับสาว ๆ วัย 35+ ได้ค่ะ ยิ่งถ้าสาวคนไหนชอบดูแลตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติ ปราศจากพวกสารสังเคราะห์สารเคมีแล้วล่ะก็ต้องชอบแน่ ๆ วิธีนี้เป็นเทคโนโลยีการรักษาด้วย Growth factor จะเรียกแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ การสวยด้วย Growth factor ที่ได้จากเลือดของเราเอง หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Vampire facelift ที่ต่างประเทศเค้านิยมใช้วิธีนี้กันอย่างแพร่หลายเลยนะคะ ซึ่งขั้นตอนในการทำก็คือ เค้าจะนำเลือดของเรามาปั่นด้วยเครื่องปั่นพิเศษ ทำให้เกิดการแยกชั้นของ Plasma จนมีลักษณะเป็นสีเหลืองทอง หลังจากนั้นเค้าก็จะนำ Growth factor ที่ได้จากการปั่นไปฉีดในบริเวณใบหน้าที่เราต้องการ เพื่อช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และผิวหนังที่เสื่อมสภาพ สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย แถมผิวก็ดูอ่อนเยาว์ลงด้วย ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้เราสวยอย่างเป็นธรรมชาติ โอ๊ยเริ่ด
-REJURAN Healer ตัวอย่าง “การรักษาด้วย REJURAN Healer”
REJURAN Healer เป็นนวัตกรรมการฟื้นฟูผิวใหม่ล่าสุดจากเกาหลี ซึ่งเค้าบอกว่า “ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวลึกถึงระดับ DNA เลยเอาสิ๊ !!” เดี๋ยวนี้เรื่องความสวยความงามเค้าล้ำกันขนาดนี้แล้วนะคะคุณขา วิธีนี้ก็เป็นการฟื้นฟูผิวด้วยวิธีธรรมชาติเหมือนกันนะ เพราะ REJURAN เป็นสารสกัดจาก DNA ปลาแซลมอน ที่เป็นโครงสร้างของ DNA ที่เรียกว่า Polynucleotide โดยเค้าจะฉีดเข้าไปยังผิวชั้นหนังแท้เพื่อกระตุ้นการสร้างและฟื้นฟูโครงสร้างผิว (Skin Regeneration) โดยตรงเลย นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนอิลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวมีความหนา และแข็งแรงขึ้น และยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวอีกด้วย เรียกว่า ได้ทั้งฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน ได้ทั้งลดเลือนริ้วรอย ได้ทั้งหน้าใสอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย (อูยยยยยย ดีงามไปอีก)
-ร้อยไหม “ยกตัวอย่างภาพการร้อยไหม” และ “ตัวอย่างไหมยอดนิยมจากเกาหลี Vifiny”
การร้อยไหม ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ HOT HIT มาก ในเรื่องของการยกกระชับใบหน้า เพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเจ็บตัวเยอะ ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นด้วย ข้อดีของการร้อยไหมนี้ก็คือ ช่วยแก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยให้ยกกระชับทันที เต่งตึงขึ้น ซึ่งเหมาะกับสภาพผิวหน้าของสาววัย 35+ มาก ๆ ในปัจจุบันเค้าก็มีให้เลือกทั้ง “ไหม PDO”เป็นไหมละลายแบบไม่มีเงี่ยง ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ มีผลให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึง และ “ไหม COG” เป็นไหมละลายแบบมีเงี่ยง คุณสมบัติจะเหมือนกับไหม PDO ทุกอย่างเลยค่ะ แต่จะมีเงี่ยงไว้เกี่ยวชั้นใต้ผิวหนัง ช่วยยึดเกาะเนื้อเยื่อโดยรอบได้ดีกว่า ยกกระชับได้ดีกว่า และนานกว่าอีกด้วยคร่า
-Botox / Filler ภาพตัวอย่างการรักษาด้วย Botox – Filler และตัวอย่าง Botox – Filler ยี่ห้อยอดนิยม
วิธียอดฮิตของการลดเลือนริ้วรอยและเติมเต็มร่องลึก ที่ใคร ๆ ก็รู้จักคงหนีไม่พ้น การฉีด Botox และการฉีด Filler ที่ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังถือเป็นวิธีที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ในการฉีด Botox นั้น เราฉีดเพื่อ "ลด" การหดตัวของกล้ามเนื้อ เพื่อใช้ลดริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ อย่างพวก รอยย่นตรงหน้าผาก รอยตีนกา รอยย่นตรงหว่างคิ้วเวลาขมวดคิ้ว รอยพวกนี้เมื่อใช้โบท็อซ์รักษาจะให้ผลดีเลยแหละค่า ในขณะที่ Filler นั้นจะฉีดเพื่อ "เพิ่ม" และเติมเต็มผิวบริเวณร่องลึกให้ตื้นขึ้น อย่างเช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ถือเป็นการลดเลือนริ้วรอยที่ใช้เวลาไม่นาน แต่เห็นผลเร็ว แถมไม่ต้องเจ็บตัวเยอะอีกด้วยจ้า
