Airborne Wireless Network (OTC QB: ABWN) ประกาศในวันนี้ว่า เพื่อเป็นการเตรียมการจัดการทดสอบ Hybrid Radio and Laser Communications Flight Test เร็วๆนี้ ทาง Mynaric (ชื่อเดิม Vialight Communications) จะดำเนินการจัดส่งเลเซอร์เทอร์มินัลรับส่งข้อมูลทางอากาศ (flight laser terminal) จำนวน 2 ชิ้น รวมถึงชิ้นส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ให้แก่ ABWN สืบเนื่องจากข้อตกลง Design and Manufacturing Services Agreement ซี่งมีผลตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา
การยืนยันการจัดส่งสินค้าครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ ABWN สามารถเริ่มการทดสอบขั้นต่อไป เพื่อจัดการทดสอบโดยใช้เครื่องบิน Cessna หรือเครื่องบินรุ่นอื่นๆที่เทียบเท่ากันจำนวน 2 ลำ (การทดสอบด้วยเครื่องบิน Cessna) โดยการทดสอบด้วยเครื่องบิน Cessna นี้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จของ ABWN เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ในการบินทดสอบเพื่อพิสูจน์แนวคิด (proof of flight concept test) ที่เมืองรอสเวลล์ รัฐนิวเม็กซิโก ซึ่งใช้เครื่องบิน Boeing 767 จำนวน 2 ลำ และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอากาศยานที่ติดตั้งระบบ Infinitus Super Highway(TM) ในการทำหน้าที่เป็นเครื่องทวนสัญญาณ (repeater) หรือเราเตอร์ (router) ทางอากาศ เพื่อรับ-ส่งสัญญาณบรอดแบรนด์จากเครื่องบินลำหนึ่งไปอีกลำหนึ่ง การทดสอบที่ว่านี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการสื่อสารในลักษณะ aircraft-to-ground, ground-to-aircraft และ aircraft-to-aircraft-to-ground-and-back ด้วย
ไมเคิล วอร์เรน ซีอีโอของ ABWN กล่าวว่า "ความร่วมมือกับ Mynaric เพื่อเตรียมดำเนินการทดสอบด้วยเครื่องบิน Cessna นั้น นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการประเดิมระบบ Hybrid Radio and Laser Communications System ที่เราได้พัฒนาขึ้น และทำให้เราก้าวไปอีกขั้นในการให้บริการระบบ Infinitus Super Highway(TM) ในเชิงพาณิชย์ เราหวังว่าการทดสอบครั้งนี้จะช่วยยืนยันอัตราการรับส่งข้อมูลระหว่างแพลตฟอร์มทางอากาศ 2 จุดที่แต่เดิมนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในทางเทคโนโลยี"
ดร.มาร์คัส คนาเพค สมาชิกคณะกรรมการของ Mynaric กล่าวว่า "เราภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับ Airborne Wireless Network ในความก้าวหน้าครั้งสำคัญนี้ เพื่อพัฒนาระบบ Infinitus Super Highway(TM) ให้ใช้การได้อย่างเต็มรูปแบบ และให้บริการเชิงพาณิชย์ในท้ายที่สุด"
ABWN ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรแล้วเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2560 เพื่อขอสิทธิแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งครอบคลุมเทคนิคการประสานลิงค์เลเซอร์ระหว่างอากาศยานขณะกำลังบิน เพื่อใช้ในเทคโนโลยี Infinitus Super Highway(TM) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท โดย ABWN จะใช้เทคนิคนี้เป็นแผนกลยุทธ์ในการเร่งความเร็วในการรับส่งข้อมูลให้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เพื่อนำไปใช้กับระบบ Infinitus Super Highway(TM) ของ ABWN
Mynaric Flight Laser Terminal ที่ทาง ABWN นำมาใช้ในการทดสอบด้วยเครื่องบิน Cessna นั้น จะทำหน้าที่ทดสอบการขัดจังหวะของลิงค์เลเซอร์ เพื่อดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมในเรื่องการทำงานของระบบ Hybrid Radio and Laser Communications System ของ ABWN การทดสอบด้วยเครื่องบิน Cessna ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ เพื่อพิสูจน์ว่าลิงค์เลเซอร์ทางอากาศที่ "ประสานได้เอง" และ "กู้คืนได้เอง" นั้นมีความเป็นไปได้และใช้การได้จริง โดย ABWN คาดการณ์ว่า ทางบริษัทจะสามารถดำเนินการทดสอบด้วยเครื่องบิน Cessna รวมถึงโครงการทดสอบทางอากาศที่มีขนาดใหญ่กว่าอีกโครงการหนึ่ง ซึ่งใช้เครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์รวมกันถึง 20 ลำในปี 2561 หากการทดสอบเหล่านี้ประสบความสำเร็จแล้ว ABWN มีแผนที่จะเดินหน้าพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ เพื่อเปิดให้บริการ Infinitus Super Highway(TM) อย่างเป็นทางการ
เกี่ยวกับ Mynaric
Mynaric (ชื่อเดิม Vialight Communications) เป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านเลเซอร์ ที่ใช้กันในการวางเครือข่ายการสื่อสารแบบพลวัตในอากาศและอวกาศ บริษัทเป็นเจ้าของนวัตกรรมรับส่งข้อมูลแบบไร้สายอย่างสถานีภาคพื้นและเลเซอร์เทอร์มินัล ซึ่งทำให้สามารถส่งข้อมูลปริมาณมากผ่านระบบไร้สายได้ไกลและเร็วยิ่งขึ้น
เมื่อไม่นานมานี้ Mynaric ได้ปิดการระดมทุนผ่าน IPO ด้วยวงเงินกว่า 27 ล้านยูโร (30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดย Mynaric จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตในชื่อย่อ ISIN DE000A0JCY11 และ M0Y
รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.mynaric.com
เกี่ยวกับ Airborne Wireless Network
Airborne Wireless Network มุ่งมั่นที่จะสร้างเครือข่ายบรอดแบนด์ไร้สายทางอากาศความเร็วสูง ด้วยการเชื่อมต่อเครื่องบินพาณิชย์ขณะทำการบิน อันเป็นเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า Infinitus Super Highway(TM) โดยบริษัทฯ ได้วางแผนว่าเครื่องบินแต่ละลำที่อยู่ในเครือข่าย Infinitus Super Highway(TM) จะทำหน้าที่เป็นเครื่องทวนสัญญาณ (repeater) หรือเราเตอร์ (router) เพื่อรับ-ส่งสัญญาณบรอดแบรนด์จากเครื่องบินลำหนึ่งไปอีกลำหนึ่งและจากสถานีภาคพื้น เพื่อสร้างดิจิทัลซูเปอร์ไฮเวย์สำหรับการรับส่งข้อมูลในอากาศ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังตั้งใจที่จะทำให้เครือข่าย Infinitus Super Highway(TM) เป็นช่องทางของบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อยกระดับการเชื่อมต่อและความครอบคลุม ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่ได้ให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อยหรือผู้ใช้ทั่วไป แต่เจาะจงลูกค้ารายใหญ่อย่างเช่น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และ บริษัทโทรคมนาคม
ปัจจุบัน การเชื่อมต่อทั่วโลกอาศัยสายเคเบิลใต้ทะเล โครงข่ายใยแก้วนำแสงภาคพื้นดิน และดาวเทียม อย่างไรก็ดี Airborne Wireless Network เชื่อว่าเทคโนโลยีดิจิทัลไฮเวย์ทางอากาศอย่าง Infinitus Super Highway(TM) เป็นโซลูชั่นสำคัญที่จะช่วยอุดช่องว่างและยกระดับการเชื่อมต่อทั่วโลก เมื่อเครือข่าย Infinitus Super Highway(TM) ได้รับการพัฒนาและใช้งานอย่างเต็มที่แล้ว ก็จะทำให้การเชื่อมต่อความเร็วสูงมีต้นทุนต่ำลงทั้งสำหรับพื้นที่ชนบท เกาะต่างๆ เรือที่ล่องอยู่ในทะเล สถานีขุดเจาะน้ำมัน เครื่องบินพาณิชย์และเครื่องบินส่วนตัวขณะกำลังบิน เช่นเดียวกับเหล่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคม
รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.airbornewirelessnetwork.com
