แพทย์!!! เตือนสาวไทย "ดี้อโบ" เหตุคุกคามความงามที่ไม่ควรมองข้าม
ร่วมกับ "เมิร์ซ เอสเธติกส์" จัดสัมมนา "The Pure naked truth "BOtulinum TOXin resistance,
The Beauty Threat" by Merz Aesthetics” สวยเด้ง สวยปัง ไม่พังเพราะดื้อโบ
เมิร์ซ เอสเธติกส์ ฉลองครบรอบ 110 ปี ร่วมกับแพทย์ความงามระดับโลก จัดสัมมนา "The Pure naked truth "BOtulinum TOXin resistance, The Beauty Threat" by Merz Aesthetics" ให้ความรู้อาการดื้อโบรับเทรนด์ความงาม และสุขภาพปี 2018เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ รัตนจันทร์ ผู้จัดการใหญ่ประจำ บริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า
เมิร์ซ เอสเธติกส์ (Merz Aesthetics) เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความงามจากเยอรมัน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวชภัณฑ์ยา และเทคโนโลยีความงามมากกว่า 1 ศตวรรษ ทั้งเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมความงามกลุ่ม โบทูลินั่ม ท็อกซิน สารเติมเต็มฟิลเลอร์ เครื่องยกกระชับผิวหน้า อัลเทอร่า และเครื่องมือแพทย์ เพื่อการดูแลรักษาผิวพรรณ และรูปร่าง โดยได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามกว่า 90 ประเทศทั่วโลก พร้อมจัดสัมมนาความรู้ด้านความงาม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 110 ปี ในหัวข้อ "The Pure naked truth "BOtulinum TOXin resistance, The Beauty Threat" by Merz Aesthetics" สวยเด้ง สวยปัง ไม่พังเพราะดื้อโบ ใน
งานเราได้รับเกียรติจาก วิทยากรพิเศษ
ดอกเตอร์ เจอร์เกน เฟรเวิร์ต นักวิทยาศาสตร์ คนแรกของโลก ผู้คิดค้น วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โบเยอรมัน บินลัดฟ้ามาให้ความรู้เฉพาะทางด้านความงาม และปัญหาที่เกิดจากการดื้อโบ
โบทูลินั่ม ท็อกซิน หรือ โบท็อกซ์ เป็นการฉีดโปรตีน เพื่อทำการลดเลือนริ้วรอย ในระยะแรก โบทูลินั่ม ท็อกซิน ได้ถูกใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วย แต่ในปัจจุบันได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในทางความงามมากกว่า เพื่อเป็นการลดริ้วรอย ปรับใบหน้าให้กระชับเข้ารูป เสริมความมั่นใจ ทำให้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก นอกจากนี้ โบทูลินั่ม ท็อกซิน ยังเป็นหนึ่งในตลาดความงามที่มีมูลค่าอันดับต้นๆ และมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นทุกปี โดยในปี 2018 ธุรกิจโบทูลินั่ม ท็อกซิน มีมูลค่าตลาดสูงถึง 2.2 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ รวมถึงถูกคาดการว่าจะพุ่งไปถึง 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 3 ปีข้างหน้า และหากนับเฉพาะในประเทศไทย มูลค่าตลาดของโบทูลินั่ม ท็อกซิน มีค่าราว 1,200 ล้านบาท พร้อมมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง 8-10% ไปจนถึงปี 2021 เลยทีเดียว
เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ กล่าวต่อไปว่า "แม้ว่าโบทูลินั่ม ท็อกซิน จะนำมาซึ่งความงามที่ง่ายและรวดเร็ว แต่หากต้องแลกมากับสุขภาพในระยะยาว ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มกันเลยแม้แต่น้อย เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือความงามที่มาพร้อมสุขภาพที่ดี ซึ่งก็นับเป็นงานที่ เมิร์ซ เอสเธติกส์ ได้สร้างสรรค์มาตลอดระยะเวลากว่า 1 ศตวรรษ ซึ่งในโอกาสครบรอบ 110 ปีนี้ เมิร์ซ เอสเธติกส์ จึงได้จับมือกับ ดอกเตอร์ เจอร์เกน เฟรเวิร์ต จัดสัมมนา "The Pure naked truth "BOtulinum TOXin resistance, The Beauty Threat" by Merz Aesthetics" ขึ้น เพื่อให้หญิงสาวทุกคนได้รับรู้ถึงนวัตกรรมโบทูลินั่ม ท็อกซิน ที่ไร้สิ่งเจือปน และได้สัมผัสกับเสน่ห์แห่งความงามที่แท้จริงนั่นเอง"
เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ กล่าว
ดอกเตอร์ เจอร์เกน เฟรเวิร์ต นักวิทยาศาสตร์ คนแรกของโลก ผู้คิดค้น วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โบเยอรมัน กล่าวว่า เขาได้รู้จักกับท็อกซินชนิดนี้มากว่า 30 ปีที่แล้ว ในขณะที่เขายังดำรงตำแหน่งนักวิจัยหลังปริญญาเอก เขาได้รับมอบหมายให้ทำโบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิดเอ มีความบริสุทธิ์
'ผมภาคภูมิใจที่พวกเราประสบความสำเร็จในการพัฒนาท็อกซินที่มีความบริสุทธิ์สูง ซึ่งเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เดียวในตลาด ณ เวลานี้ ที่ปราศจากคอมเพล็กซิ่งโปรตีน และยังมีความเสถียรที่อุณหภูมิห้อง' 'ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ และนักชีวเคมี จึงมีความสุขที่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดี และได้นำมาใช้กับคนไข้มากกว่า 1.6 ล้านคน ในการรักษาหลากหลายรูปแบบด้วยตัวของผมเอง และมันยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นที่คนไข้ได้รับในทุกวันนี้ ซึ่งยังไม่ได้รับการรายงานว่ามีคนไข้ที่ได้รับผลิตภัณฑ์ของเราแล้วเกิดการสร้างแอนติบอดี้ต่อต้าน หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาระยะยาว ทำให้คนไข้ของเราได้รับประโยชน์จากการรักษามากที่สุด กระบวนการผลิตนั้นยังมีความพิถีพิถันควบคุมไม่ให้ท็อกซินความบริสุทธิ์สูง สูญเสียบทบาทหน้าที่ ซึ่งหมายความว่า ปริมาณเพียงน้อยนิดของท็อกซินในแต่ละหลอด #โบเยอรมัน มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ท็อกซินอื่นๆ ที่วางขายในตลาด' ทางด้าน
นายแพทย์ดิสพงศ์ ปณิฐาภรณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม กล่าวถึงสาเหตุของการดื้อโบ นั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยสามารถแบ่งเป็น 3 ปัจจัยหลัก คือ ตัวคนไข้หรือผู้รับบริการเอง พบว่าพันธุกรรมในบางรายที่ร่างกายจะต่อต้านโบทูลินุ่ม ท็อกซิน ซึ่งปัจจัยนี้เกิดขึ้นเฉพาะบุคคลและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ปัจจัยที่ 2 ผลิตภัณฑ์ ที่เลือกใช้ คุณสมบัติเรื่องขนาดโมเลกุลนั้นมีความสัมพันธ์กับการดื้อโบ กล่าวคือ ขนาดโมเลกุล โบทูลินุ่ม ท็อกซิน ยิ่งมีขนาดใหญ่ ยิ่งมีโอกาสการดื้อโบสูงขึ้น และปัจจัยที่ 3 พฤติกรรมการฉีด พบว่า ความถี่ในการรับบริการ และ โดสของ โบทูลินุ่ม ท็อกซิน ที่ฉีดในแต่ละครั้งนั้น มีความสัมพันธ์กับการดื้อโบ กล่าวคือ ผู้ที่ฉีดโบซ้ำบ่อยๆ เกินปีละ 2 ครั้ง ด้วยโดสสูงกว่า 100 ยูนิต ต่อครั้ง นั้นอาจก่อให้เกิดการดื้อโบได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นทุกท่านควรฉีดโบแต่พอดี ผลกระทบอาการดื้อโบไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่จะเป็นในรูปแบบของผลกระทบทั้งสั้น และยาว

"การดื้อโบ แม้จะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ก็จะทำให้เกิดผลแง่ลบต่อสุขภาพจิตแทน ซึ่งอาการนี้ยังไม่มีวิธีรักษาทางการแพทย์ และหากตรวจพบก็ต้องหยุดรับการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี ดังนั้นหนทางที่สามารถทำได้คือ การป้องกัน โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ รับบริการแต่พอดี และพึงระลึกไว้เสมอว่าของถูก และดีไม่มีในโลก"
เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ กล่าวทิ้งท้าย