สวัสดีค่ะทุกคน กระทู้นี้ จขกท. เขียนมาเพื่อเอาใจคนที่เป็นสิว โดยเฉพาะคนที่เป็นสิวอุดตันเยอะ รักษาด้วยครีมหรือเจลแต้มสิวมาก็หลายยี่ห้อ แต่สิวก็ยังไม่หายสักที แถมพวกยารักษาสิวบางชนิดก็ทำร้ายผิวหน้าจนหน้าแห้งลอกเป็นขุยอีก น่าเบื่อมากๆ
ปัญหาสิวนี่เป็นอะไรที่น่ารำคาญสุดๆ สำหรับ จขกท. เลย พอรักษาสิวหายแล้ว แต่รอยสิวก็ไม่หายตามทิ้งปัญหากวนใจไว้ให้จนจขกท. ต้องทุกข์ใจต่ออีก เวลาที่ส่องกระจกแล้วเห็นรอยสิวเป็นจุดๆ จขกท. นี่อยากจะกรี๊ด แต่ก็ทำได้แค่ทำใจให้ร่มๆ และหมั่นทาครีม เพื่อรอว่าสักวันสิวและรอยสิวจะลดลงบ้าง
อย่างที่บอกไปว่าระหว่างที่รักษาสิวและรอยสิว จขกท. ลองครีมรักษาสิวมาหลายยี่ห้อมากกกก บางตัวใช้แล้วสิวหายจริงแต่ไม่หายขาด พอเลิกใช้ก็กลับมาเป็นสิวซ้ำที่เดิมอีก บางตัวไม่เห็นผลเลย เศร้าใจเว่อ
แต่ว่าตอนนี้ จขกท. ไม่เศร้าแล้วค่ะ เพราะว่าไปเห็นครีมรักษาสิวในทวิตเตอร์มา ตัวนี้เห็นหลายคนรีวิวไว้ว่าดีมาก ตอนนั้นก็คิดหนักกว่าจะตัดสินใจซื้อ เพราะราคานางก็ค่อนข้างสูงสำหรับเรา แต่พอเห็นคนทวิตเยอะๆ ผ่านตาวันละหลายๆ รอบ เหมือนกับโดนมนต์สะกด 555555555 สุดท้ายก็ไปซื้อมาลองใช้ดู พอใช้ไปนานๆ ก็เริ่มจะปลื้ม วันนี้เราเลยจะมารีวิวให้รู้ว่าทีเด็ดตัวช่วยรักษาสิวของเราคืออะไร

ตัวแรกเลยคือ Eucerin Pro Acne Solution A.I. Clearing Treatment เนื้อครีมจะออกขาวเหลืองเล็กน้อย
วิธีใช้: ใช้ทาให้ทั่วใบหน้าได้เลย ส่วนตัว จขกท. จะเน้นทาตรงที่เป็นสิว และทาแค่เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้นค่ะ
ความรู้สึก: ครั้งแรกที่ได้ลองใช้จะรู้สึกว่ามันมีความยิบๆ ที่หน้านิดหน่อย แต่จะเกิดขึ้นแปปเดียวไม่ถึง 1 นาทีก็หาย เพราะฉะนั้นใครที่สนใจอยากลองใช้ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ค่ะ อารมณ์ประมาณว่าเหมือนตัวยาเข้าไปฆ่าเชื้อสิว แต่เน้นว่าทาบางๆ นะคะ แล้วพอใช้ไปสักสองสัปดาห์ก็จะไม่ยิบแล้วค่ะ
ผลลัพธ์: สิวอุดตันจะกลายเป็นสิวที่มีหัวเหมือนตัวครีมเข้าไปดันให้เกิดหัวสิวขึ้นมา ซึ่งหลายคนอาจจะตกใจ แต่ จขกท. แนะนำว่าให้ใช้ไปเรื่อยๆ ค่ะ เพราะเดี๋ยวสิวก็จะแห้งและหายไปเอง อดทนหน่อยแต่ว่าหายชัวร์ ส่วนสิวที่มีหัวอยู่แล้วหรือสิวอักเสบ ตัวครีมก็จะเข้าไปทำให้สิวแห้งไวขึ้น ถ้าใช้เป็นประจำจะทำให้สิวอุดตันและสิวอักเสบค่อยๆ ลดลงค่ะ

ตัวที่ 2 คือ Eucerin Pro Acne A.I. Matt Fluid ตัวนี้ จขกท. ซื้อมาพร้อมกับตัว Treatment เภสัชแนะนำว่าให้ใช้คู่กัน เพราะว่าตัวนี้ช่วยรักษาพวกรอยดำ รอยแดงจากสิว แล้วก็สิวอุดตันเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีค่ะ
วิธีใช้: ใช้ทาให้ทั่วใบหน้า ตัวนี้ จขกท. ใช้ทาตอนเช้า ใช้เป็นครีมบำรุงไปด้วยใสตัว และตัวนี้ยังช่วยคุมความมันบนใบหน้าได้ดีด้วย
ความรู้สึก: ครั้งแรกที่ใช้เหมือนครีมทาหน้าปกติ ไม่รู้สึกยิบๆ ที่หน้าเลย ซึ่งแตกต่างจากตัว Treatment เนื้อครีมก็บางเบาอยู่ ทาง่าย ไม่เหนียว แต่เรื่องควบคุมความมันนี่พูดเลยว่าเริ่ด ใครที่หน้ามันและเป็นรอยสิว แนะนำให้ไปตำมาใช้ค่ะ
ผลลัพธ์: รอยดำ รอยแดงจากสิวของ จขกท. ค่อยๆ ลดลง ตัวนี้ไม่ดันสิวเหมือนตัวแรกนะคะ ตัวนี้จะเน้นผลลัพธ์ในเรื่องของรอยสิว สำหรับใครที่สิวหายแล้วแต่รอยสิวยังอยู่ แนะนำให้ใช้แค่ตัว Matt อย่างเดียวก็ได้ค่ะ สามารถใช้เป็นครีมบำรุงทาทุกวันเหมือนเราได้เลย

นี่คือภาพสิวของเราก่อนใช้และหลังใช้มาสักพัก จะเห็นว่าตอนนี้สิวอุดตันและรอยสิวค่อยๆ ลดลงไปเยอะเลยค่ะ
ความแตกต่างของทั้ง 2 ตัวคือ ตัว Treatment จะเน้นจัดการพวกสิวอักเสบ มีหัวสิวเยอะๆ หรือแบบสิวอุดตันเยอะๆ สำหรับบางคนก็อาจจะมีความผลักสิว ดันสิวบ้าง แต่เราถามหมอแล้วหมอบอกว่ามันเป็นวิธีรักษาที่ถูกต้องนะ รักษาสิวต้องใช้เวลา ส่วนตัว Matt Fluid จะเน้นไปที่การรักษารอยดำ รอยแดงจากสิวมากกว่า สามารถใช้ควบคู่กันได้ โดยแนะนำให้ใช้ตัว Treatment ตอนกลางคืน เพราะจะมีความเป็น Moisturizer และตัว Matt Fluid ให้ใช้ทาตอนเช้าก่อน
แต่งหน้า เพราะว่าควบคุมความมันได้ดี วันนี้ก็รีวิวอย่างหมดเปลือกเลย หวังว่าจะช่วยเพื่อนๆ ที่เป็นสิวได้บ้างนะคะ
สุดท้าย จขกท. ขอฝากไว้ว่าเราจำเป็นต้องทาครีมรักษาสิวเป็นประจำทุกวัน ห้ามขี้เกียจ เพราะถ้าขี้เกียจสิวก็จะหายช้า ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ และนอนพักผ่อนให้เพียงพอด้วยค่ะ ลาแล้วค่ะ สวัสดีค่าาาา