โรคพิษสุนัขบ้า หรือบางทีเรียก
โรคกลัวน้ำ เป็นโรคติดเชื้อโรคร้ายแรง เจอในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว วัว ควาย หนู กระต่ายค้างคาว รวมทั้งสามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ ความน่ากลัวของโรคพิษสุนัขบ้าเป็น มีอาการต่อระบบประสาท เป็นต้นว่า เส้นประสาท สมอง มีการดำเนินโรคอย่างรวดเร็วรวมทั้งนำไปสู่การเสียชีวิตได้ภายในช่วงเวลาไม่กี่วัน ที่สำคัญปัจจุบันโรคพิษสุนัขบ้ายังไม่มียารักษามีแต่ว่าวัคซีนป้องกันโรคแค่นั้น

สาเหตุของพิษสุนัขบ้า: เชื้อพิษสุนัขบ้าติดต่อมาสู่คนได้เช่นไร โรคพิษสุนัขบ้ามีต้นเหตุมาจาก เชื้อไวรัส(Rabies) ซึ่งเชื้อนี้อยู่ในน้ำลายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เป็นโรค ส่งผลให้โรคพิษสุนัขบ้าติดต่อโดยการสัมผัสกับน้ำลายจากการเช็ดกข่วน กัด หรือเลียบริเวณที่มีรอยแผล ผิวหนังถลอกปอกเปิก หรือถูกเลียบริเวณเยื่ออ่อน เช่น เยื่อบุตา หรือปาก เป็นต้น ยิ่งกว่านั้นการรับประทานสินค้าดิบจากสัตว์ที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าก็สามารถติดโรคได้
สำหรับเมืองไทยพบโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขเยอะที่สุด รองมาเป็นแมวถ้าเกิดโดนหมากัดและไม่ทราบดีว่าหมาตัวนั้นเป็นโรคพิษสุนัขบ้าไหม ให้คิดไว้ก่อนว่า หมาตัวนั้นเป็นโรค โดยอัตราการเป็นโรคหลังถูกกัดอยู่ที่ 35% รวมทั้งบริเวณที่ถูกกัดก็ส่งผลไม่เหมือนกัน ถ้าเกิดถูกกัดรอบๆขาได้โอกาสเป็นโรคราว 21% ถ้าหากถูกกัดที่บริเวณใบหน้าจะมีโอกาสเป็นโรคถึง 88% ถ้าเป็นแผลตื้น หรือแผลถลอกปอกเปิกจะมีโอกาสเป็นโรคน้อยกว่าแผลลึก
ลักษณะของโรคพิษสุนัขบ้าในคน หลังจากได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าผู้ป่วยจะแสดงอาการโดยเฉลี่ยประมาณ 3 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน ในบางรายบางทีอาจใช้เวลานานนับเป็นเวลาหลายปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ถูกกัด ขนาด ปริมาณและความลึกของรอยแผลรวมถึงภูมิคุ้มกันของคนที่ถูกสัตว์กัด อาการของโรคโรคกลัวน้ำแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้
โรคพิษสุนัขบ้าระยะเริ่มต้น ในระยะนี้คนป่วยจะมีอาการที่ไม่ได้มีการเฉพาะเจาะจง เช่น ไข้ต่ำๆเจ็บคอ ปวดหัว หมดแรง ไม่อยากกินอาหาร เมื่อยเรียกตัว หนาวสั่น คลื่นไส้อ้วก กระวายกระวน นอนไม่หลับ ในบางรายอาจมีอาการเจ็บ เสียวแปลบเหมือนเข็มทิ่ม หรือคันอย่างยิ่งรอบๆที่ถูกกัด ซึ่งเป็นลักษณะที่เฉพาะของโรคเวลานี้มีเวลาโดยประมาณ 2-10 วัน
โรคพิษสุนัขบ้าระยะที่มีลักษณะทางสมอง คนป่วยจะมีลักษณะงวยงง ลุกลี้ลุกลน กระสับกระส่าย อยู่ไม่นิ่งอาการจะมากยิ่งขึ้นถ้าเกิดมีเสียงดัง หรือถูกสัมผัสร่างกาย น้ำตาตาไหล น้ำลายหกเหงื่ออกมากมาย มีอาการกลัวลม เพียงแค่ลองเป่าลม หรือโบกลมผ่านเบาๆก็จะผวา แล้วหลังจากนั้นผู้ป่วยอาจมีอาการชักและก็เป็นอัมพาต รวมทั้งมีอาการกลัวน้ำ เวลากินน้ำจะปวดเกร็งกล้ามเนื้อคอ ทำให้กลืนทุกข์ยากลำบาก ไม่กล้ากินน้ำ แต่ยังรู้สึกตัว มีสติสัมปชัญญะ สนทนาได้ ตอนนี้มีลักษณะราวๆ 2-7 วัน
โรคพิษสุนัขบ้าระยะท้าย คนป่วยบางทีอาจสลบแล้วก็เป็นอัมพาตก่อนที่จะมีภาวะหายใจล้มเหลว หัวใจหยุดเต้น รุนแรง และก็เสียชีวิตในเวลาไม่นาน
แนวทางการรักษาผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า - ล้างแผล ล้างด้วยน้ำ ถูด้วยสบู่หลายๆ ครั้งในทันที ล้างทุกแผลแล้วก็ลึกถึงก้นแผลนานอย่างต่ำ 15 นาที อย่าให้แผลช้ำ เช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ได้แก่ โพวิโดน ไอโอดีน หรือ ฮิบิเทนในน้ำ ถ้าเกิดว่าไม่มี ให้ใช้แอลกอฮอล์70%
- การให้ยาปฏิชีวินะ คนที่ถูกหมา หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกัดควรจะพบแพทย์เนื่องด้วยบางทีอาจจำเป็นต้องได้รับยาฆ่าเชื้อเพื่อรักษาการติดเชื้อโรคหรือเพื่อป้องกันการรับเชื้อ
การให้วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก - หากเคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักมาแล้วอย่างต่ำ 3 ครั้ง และก็เข็มในที่สุดเป็นเวลายาวนานกว่า 5 ปี มาแล้ว จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก กระตุ้น 1 เข็ม
- ถ้าเกิดไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักมาก่อน หรือได้รับไม่ครบ 3 เข็ม จะต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก 3 ครั้งหรือ 1 คอร์ส
การให้วัคซีนแบบก่อนที่จะมีการสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า สามารถฉีดได้ในกรณีที่อยากสร้างภูมิคุ้มกัน หรือเป็นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงสำหรับเพื่อการสัมผัสโรคคลอดเวลา หรือเป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ทั้งนี้หากถูกสุนัข แมว หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกัด ควรจะไปพบแพทย์ที่โรงบาลเพื่อรักษารวมทั้งให้แพทย์เป็นคนพิจารณากรรมวิธีการรักษาอย่างเร่งด่วน