ทุกวันนี้
คอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในชีวิตปัจจุบันของเราไปแล้วก็ว่าได้ เพราะคอมพิวเตอร์ช่วยทำให้การทำ
งานที่ยุ่งยากกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างพวกงานเอกสารข้อมูลต่าง ๆ ที่สำคัญที่สามารถเก็บได้อย่างเป็นระเบียบและง่ายต่อการค้นหาแล้วสามารถดึงเอามาใช้งานได้อย่างทันที ทำให้การทำงานหรือการใช้ชีวิตของเราสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากงานด้านเอกสารแล้วก็ยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกเพียบ ทั้งดูหนัง
ฟังเพลง เล่นเกมส์ และถ้ามีสเปคเครื่องสูง คุณภาพอัดแน่นอุปกรณ์เสริมเจ๋ง ๆ ก็จะยิ่งส่งผลให้การใช้งานดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะหน้า
จอคอมพิวเตอร์ ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเพราะการทำงานเราต้องดูงานที่เราทำผ่านหน้าจอหากคุณภาพเครื่องดีแต่หน้าจอสีผิดเพี้ยน หน้าจอไม่ชัด ก็จะทำให้ผู้ใช้งานหงุดหงิดและไม่อยากทำงานก็เป็นไปได้ ดังนั้นวันนี้เราจึงเอาวิธีในการเลือกซื้อหน้า
จอคอมพิวเตอร์ มาแนะนำเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อหน้าจอคอมพิวเตอร์โดยที่จะไม่ทำให้ผู้ใช้งานผิดหวัง พร้อมแล้วมาดูกันค่ะ
วิธีการเลือกหน้า
จอคอมพิวเตอร์ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
1.ขนาดหน้าจอ และความละเอียดภาพ
คนที่กำลังมองหาจอมอนิเตอร์มาใช้ ส่วนมากจะเลือกขนาดจอใหญ่เป็นอันดับแรก ทำให้ตอบสนองการทำงาน ดูหนัง หรือเล่นเกมที่ได้อรรถรสยิ่งขึ้น หากใช้งานครบเครื่องขนาดนี้ แนะนำว่าให้ซื้อขนาด 20 นิ้วขึ้นไปกำลังดีค่ะ สำหรับขนาดที่ได้รับความนิยมจะอยู่ที่ประมาณ 19-24 นิ้ว แล้วแต่ความชอบส่วนตัว และความเหมาะสมในการใช้งาน ส่วนความละเอียดของภาพสมัยนี้ก็ต้องเลือกแบบ 19201080 หรือ Full HD เพื่อรับชมภาพที่คมชัด และสวยงามได้อย่างเต็มตาค่ะ
2.ค่า Response Time และ Refresh Rate
ในส่วนของค่า Response Time หมายถึง ค่าความเร็วในการเปลี่ยนเม็ดพิกเซล ดังนั้นค่าความเร็วตรงนี้จึงส่งผลไปกับ “ภาพเคลื่อนไหว” ถ้าค่า Response Time ต่ำ ๆ ก็จะยิ่งทำให้เห็นภาพเคลื่อนไหวของวัตถุที่มีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เช่น ลูก
ฟุตบอล รถแข่ง ฉากต่อสู้ นั้นมีความไหลลื่นแถมภาพยังมีความคมชัด ปัจจุบันค่า Response Time ของ TV รุ่นใหม่ ๆ นั้นมีการปรับปรุงให้ไวมากยิ่งขึ้น จากเมื่อก่อนประมาณ 16-12 ms มาถึงตอนนี้ก็ประมาณ 5-2 ms
Refresh Rate หรือเรียกกันว่า อัตราการกะพริบของหน้าจอ ถ้าค่านี้ยิ่งสูงก็ถือว่ายิ่งดีค่ะ ช่วยทำให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ภาพจะนิ่ง โดยปกติถ้าใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน ทำเอกสาร พิมพ์งานทั่วๆ ไป ค่า Refresh Rate จะอยู่ที่ประมาณ 60 Hz คือ เรทปกติค่ะ
แต่สำหรับเหล่าเกมเมอร์ โดยเฉพาะคนที่เล่นเกมแนว FPS (First Person Shooter) ต้องเน้นเรื่องความคมชัด และภาพหน้าจอที่มีความนิ่งสูง ก็ต้องเลือกหน้าจอมอนิเตอร์ที่มีค่า Refresh Rate สูงขึ้นไปอีก ซึ่งหน้าจอรุ่นท็อปบางรุ่นสามารถปรับค่านี้ได้สูงถึง 144 Hz กันเลยทีเดียว แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน หรือถ้าใครมีงบเหลือเฟือก็จัดมาไว้ในครอบครองกันตามสะดวกเลยค่ะ
3.ลักษณะ Panel ของจอ
ปัจจุบันอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตัวนี้จะมี Panel ที่ใช้หลักๆ อยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ IPS, VA และ TN แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ Panel แบบ IPS ค่ะ เนื่องจาก Panel นี้มีข้อดีคือ ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา (Viewing Angle 178/178 ทั้งในมุมแนวนอนและแนวตั้ง) ไม่ว่าจะมองหน้าจอจากมุมไหนก็จะได้ภาพที่ชัดเจน สีสดสวย สบายตา อัตราส่วนภาพไม่ผิด สีไม่เพี้ยน จึงกลายเป็นที่นิยมในตลาดอย่างมาก
สำหรับ Panel แบบ VA (Vertical Alignment) จุดเด่นที่ดีที่สุด คือ ให้สีดำที่ดำสนิทมากกว่าแบบอื่น แต่จะมีข้อเสียในเรื่องของมุมมอง จะไม่กว้างเท่าแบบ IPS เช่น ในฉากที่มีความมืด ถ้าไม่ได้นั่งอยู่ตรงกลางจอ ก็จะไม่สามารถเห็นรายละเอียดในหน้าจอได้ชัดเจนนัก
แบบสุดท้าย คือ TN (Twisted Nematic) ข้อดีคือ ราคาถูก และมีค่า Response Time ต่ำ จึงเป็นที่นิยมในหมู่คนที่ชอบของราคาไม่แพงมากนัก ซึ่งใช้ได้ดีพอควร ภาพไม่กระตุก แต่ Panel แบบนี้จะมีมุมมองการชมแคบ อัตราการผิดเพี้ยนของสีสูงด้วยค่ะ
4.พอร์ตการเชื่อมต่อต่าง ๆ (Connectivity Interface)
จอมอนิเตอร์ส่วนใหญ่จะมาพร้อมพอร์ต VGA และ DVI ซึ่งแบบหลังจะเป็นการเชื่อมต่อแบบ Digital จึงทำให้ได้ภาพที่สวย และคุณภาพดีกว่า สำหรับพอร์ต VGA นั้นจะเป็นพอร์ตแบบเก่า ใช้กันมากในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และโน้ตบุ๊ก อย่างไรก็ดี เวลาเลือกหน้าจอมอนิเตอร์ ควรเลือกรุ่นที่มีพอร์ตทั้ง 2 แบบนี้อยู่ในเครื่องด้วยนะคะ เพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่ออย่างครบครันนั่นเอง
5.ฟีเจอร์ และฟังก์ชั่นพิเศษอื่น ๆ
สำหรับฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น Touch Screen, Webcam หรือ 3D เป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ ถ้าคิดว่าไม่ได้ใช้ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกหน้าจอมอนิเตอร์ที่มีฟังก์ชั่นเหล่านี้เพิ่มเติม เพราะต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย ซึ่งคุณอาจจะใช้งานได้ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปค่ะ
แต่ถึงยังไงสิ่งที่สำคัญก่อนทำการตัดสินใจเลือกซื้อหน้า
จอคอมพิวเตอร์ นั้น อย่าลืมว่าต้องสำรวจตนเองก่อนว่าต้องการใช้งานด้านใดเป็นหลัก ทำงานเอกสาร พิมพ์งานทั่วไป งานกราฟิก ดูหนัง หรือเล่นเกม เมื่อคุณรู้จุดประสงค์ในการใช้งานแล้ว ก็จะช่วยให้คุณเลือกหน้าจอที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้งานได้ดีและคุ้มค่าค่ะ