
ครั้งแรกที่ “อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา” บุตรชายคนโตทายาทของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มาเปิดแง่มุมธุรกิจ เนื่องจากโอกาส คิงเพาเวอร์ ฉลอง 30 เส้นทาง
มหกรรมคืนกำไรนักช้อปคนไทยและต่างชาติ Delights & Surprises 2019 ที่สมาชิกและนักท่องเที่ยวกลุ่มช้อปปิ้ง ระหว่างวันที่ 17-20 ตุลาคมนี้ โปรโมชั่นพิเศษหลักลด 30%
และอีก 3 รายการคือ 1.ช้อปครบ 50,000 บาท ฟรีตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ 2.ช้อปครบ 30,000 บาท/ใบเสร็จ/วัน
ลุ้นรับสูงสุด
คะแนนสะสมมูลค่า 3 ล้านกะรัต 3 ล้านบาท 3.ช้อปครบ 5,000 บาท ลุ้นรับตั๋วเครื่องบินฟรีทั่วโลก 30 เส้นทาง

นายอภิเชษฐ์กล่าวว่าการวางกลยุทธ์ภาพรวมด้านตลาดการขายสินค้าผ่านออนไลน์ใน www.kingpoweronline.com ทั้งสมาชิกและนักเดินทางทั่วไปสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์
และแอพลิเคชั่นได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากเป็นสินค้าแบรนด์เนมนักเดินทางจะต้องรับบริเวณ Pick up Counter สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ก่อนออกไปเที่ยวต่างประเทศ
การขายผ่านออนไลน์คิง เพาเวอร์ ทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 เกิดสัญญาณบวกอย่างมีนัยสำคัญยอดซื้อขายสินค้าหมุนเวียนตลอด 9 เดือน
หมวดสินค้าคิง เพาเวอร์ ออนไลน์ แบ่งชัดเจน คือ 1.สินค้าแบรนด์เนมต่างประเทศ ต้องมีตั๋วโดยสารบินต่างประเทศจึงจะสามารถซื้อได้ ตามระเบียบจะต้องนำออกไปในช่วงเดินทาง
2.สินค้าแบรนด์ไทย ส่วนใหญ่ผลิตและขายในประเทศ และ In House Brand คิง เพาเวอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นแก็ตเจ็ตและอิเลคทรอนิกส์ต่าง ๆ
โดยแบ่งเป็นสินค้ายอดนิยมในกลุ่มคนไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ น้ำหอม เครื่องสำอางค์ อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ สั่งแล้วส่งถึงบ้านได้เลย มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 80 %
ที่เหลือจะเป็นสินค้าเอ็กคลูซีฟ และแฟชั่น สำหรับลูกค้าชาวจีน ได้แก่ เครื่องสำอาง น้ำหอม ตามด้วยสินค้าอุปโภคบริโภค ของฝาก สินค้าไทย เครื่องปรุงอาหารไทยสำเร็จรูป
และสินค้าที่โด่งดังในเมืองไทย อย่าง เครื่องสำอางแบรนด์มิสทีม ยาหม่องตราถ้วยทอง ตราเสือ สมุนไพรไทย ซึ่งสามารถใช้ได้จริงอย่างมีคุณภาพ เรื่อยไปจนถึงหมวดเครื่องประดับ นาฬิการะดับกลางขึ้นไป
ขณะเดียวกันสินค้า In House Brand คิง เพาเวอร์ ด้วยความที่คลุกคลีอยู่กับลูกค้าชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นของฝาก ของที่ระลึก Suvinior ที่มีความแตกต่างกันไปในตลาด
หรือกลุ่มคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ ก็ซื้อเครื่องแกงสำเร็จรูปที่ได้รับการพัฒนาคุณภาพเกรดเอจึงได้รับการอุดหนุนทั้งจากคนไทยและต่างชาติ รวมทั้งขนมขบเคี้ยว ผลไม้อบแห้งต่าง ๆ ยอดขายค่อนข้างโดดเด่นทุกเดือน

การวางกลยุทธ์เจาะลึกทำตลาดการขายสินค้าออนไลน์ ได้ประมวลผลเสียงสะท้อนจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการแล้วนำมาปรับปรุงอยู่ตลอดให้สอดคล้องกับความต้องการปัจจุบันและอนาคต
พร้อมทั้งฟีเจอร์ใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ปัจจุบันเปิดโอกาสให้นักช้อปออนไลน์สามารถสะสมคะแนนกะรัตได้ทันทีแตกต่างยุคบุกเบิกสมัยแรกยังไม่มีระบบสะสมคะแนน
ส่วนสินค้าของคิงเพาเวอร์ออนไลน์เปิดขายตลาดในประเทศกับลูกค้าคนไทย และต่างประเทศโดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งฉลาดช้อปและหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้น
ภาคีพันธมิตรหลักของคิง เพาเวอร์ จะเป็นกลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการขายท่องเที่ยวออนไลน์หรือ Online Travel Agents
เพราะชาวจีนใช้แอพลิเคชั่นจองผ่านออนไลน์ทั้งตั๋วโดยสาร ห้องพัก ร้านค้าช้อปปิ้งคิง เพาเวอร์ สาขาต่าง ๆ รวมทั้งผูกการขายตั๋วขึ้นไปยังจุดชมวิว คิง เพาเวอร์ มหานคร สกาย วอล์ค บนชั้น 78
พร้อมกันนี้ก็ยังวางแผนเปิดสำนัก
งานขายในสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดได้ 4-5 ปี
ส่วนแบรนด์ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” หลังจากเปิดอาคารไปเกือบปีก็พยายามพัฒนาให้เป็น ICON BRAND หรือ SUVINIOR BRANDผู้ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ
ก็จะต้องแวะไปเยี่ยมชมจุดชมวิว คิง เพาเวอร์ มหานคร สกาย บาร์ กับกระจกใส Glass Tray บริเวณชั้น 78 ซึ่งมองเห็นภาพพาโนรามากรุงเทพฯ และปริมณฑลแบบ 360 องศา
ขณะเดียวกันก็จะมีพื้นที่ร้านค้า
ดิวตี้ฟรี บริเวณชั้น 1-4 แบ่งเป็นหลายแนว ประกอบด้วย แฟชั่น Street Wear สินค้าที่ระลึกซึ่งเป็นแลนด์มาร์กตึกมหานคร ยอดซื้อขายค่อนข้างดี
ในโซนร้านค้านั้นเป็นการขายอัตโนมัติ เพราะส่วนใหญ่
แม่เหล็กหลัก ๆ คือ มหานคร สกาย วอล์ค, สกาย บาร์, แบงค็อก สกาย บาร์ แล้วก็แวะช้อปปิ้งร้านดิวตี้ฟรี
ไฮไลต์จะเปิดโรงแรม “โอเรียนท์ เอ็กซ์เพรส” แห่งแรกของโลก เตรียมเปิดบริการไตรมาส 3 ปี 2563 เป็นต้นไป จะเน้นจุดขายความหรูหราระดับเกิน 5 ดาว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร
สำหรับบริเวณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ วางกลยุทธ์จัดอีเวนต์รายการสำคัญ ๆ โดยใช้พื้นที่บริเวณฟาวเท่น สแควร์ กลางแจ้งหน้าตึกคิง เพาเวอร์ สำนักงานใหญ่ ก็เตรียมจัดเคาน์ดาวน์
ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ต่อเนื่องไปถึงวันเด็กเดือนมกราคม 2563 โดยมีความร่วมมือกับแบรนด์มิกกี้เมาส์ซึ่งเป็นขวัญใจเด็ก ๆ และกลุ่มครอบครัวคนไทยและต่างชาติ
นายอภิเชษฐ์กล่าวว่าช่วงปลายปี 2562 มีหลายเรื่องที่ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เตรียมเปิดประมูลพื้นที่ร้านค้าดิวตี้ฟรีในสนามบินดอนเมือง ตามกติกาใหม่ที่เผยแพร่ผ่านสื่อต่าง ๆ
จะแตกต่างไม่เหมือนเดิม เนื่องจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” จะแยกสัญญาสัมปทานพื้นที่ร้านค้าดิวตี้ฟรีกับจุดส่งมอบสินค้า
สนามบิน (Pick up Counter) ออกจากกัน
ดังนั้นความน่าสนใจจึงต่างจาก 7 ปีที่ผ่านมา เพราะครั้งนี้ไม่รวม Pick up Counter แต่เมื่อ ทอท.เจ้าของสนามบินประกาศเปิดประมูล ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ก็ยังคงจะลงแข่งขัน
ประกอบการพื้นที่ทั้งดิวตี้ฟรีและจุดส่งมอบสินค้าสนามบินดอนเมือง แต่ก็ต้องประมวลผลข้อจำกัดอีกหลายอย่างควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากปัจจุบันสนามบินดอนเมืองมีแต่เที่ยวบินต้น
ทุนต่ำ (low cost airlines) ให้บริการ จำนวนสลอตเที่ยวบินเข้าออกเต็มเกือบหมดแล้ว และยังไม่ได้ขยายสนามบินเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสาร และกำลังซื้อของนักช้อป ตามสถิติก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก
สถิติปี 2562 ร้านค้า คิง เพาเวอร์ สนามบินดอนเมืองมีพื้นที่ขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ในสนามบินสุวรรณภูมิ
เพราะฉะนั้นดอนเมืองเป็นสนามบินมีข้อจำกัดหลายส่วนโดยเฉพาะสล็อตเที่ยวบินแน่นมากจึงน่าจะไม่มีตารางเวลาให้สายการบินพรีเมี่ยมและยากจะทำได้ ส่งผลไปถึงกลุ่มผู้โดยสารพรีเมี่ยมที่
จะสนใจซื้อสินค้าดิวตี้ฟรีก็อาจจะไม่มาก ขณะนี้ทำให้ยอดขายสินค้าของคิง เพาเวอร์ ในสนามบินดอนเมืองปี 2561 มียอดขายแค่ 5,000 ล้านบาท
ถือเป็นสัดส่วนน้อยคิดเป็น 5% ของกลุ่มบริษัท อีกทั้งเปรียบเทียบแล้วน้อยกว่าสนามบินภูมิภาคอีก 3 แห่ง คือ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ ซึ่งทำส่วนแบ่งยอดขายได้เกินกว่า 8% ของแต่ละปี
แต่อย่างไรทาง กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ก็ยังให้ความสำคัญและสนใจการลงแข่งขันประมูลพื้นที่ประกอบกิจการร้านค้าดิวตี้ฟรีสนามบินดอนเมือง ในปีต่อไปด้วย