Cipla จับมือ Stempeutics เปิดตัว Stempeucel(R) นวัตกรรมเซลล์บำบัดตัวแรกที่ 'ผลิตในอินเดีย’ เพื่อรักษาอาการขาดเลือดขั้นวิกฤติ (CLI)
- นวัตกรรมเซลล์บำบัดด้วยเซลล์ของผู้อื่นเพื่อรักษาอาการ CLI นี้ได้รับการรับรองเป็นครั้งแรกของโลก
- Stempeutics ใช้เวลาพัฒนาถึง 12 ปี โดยเทคนิครักษาโรคอันก้าวล้ำนี้ออกแบบขึ้นเพื่อจัดการโรคร้ายนี้ตั้งแต่ต้นตอแต่มีค่าใช้จ่ายน้อย
- Cipla จะเป็นผู้วางจำหน่ายและกระจายยาดังกล่าวในอินเดียเพื่อใช้กับผู้ป่วย
Cipla Limited (BSE: 500087) (NSE: CIPLA EQ) หรือ “Cipla” ประกาศในวันนี้ว่า Stempeutics Research Pvt. Ltd ซึ่งเป็นพันธมิตรรายหนึ่งของบริษัท ได้รับการอนุมัติจากฝ่ายกำกับดูแลยาของอินเดีย (Drug Controller General of India หรือ DCGI) เพื่อเปิดตัวยา Stempeucel(R) ในอินเดีย ยาดังกล่าวมีข้อบ่งชี้เพื่อใช้รักษาอาการขาดเลือดขั้นวิกฤติ (CLI) จากโรคเบอร์เกอร์และโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายแข็ง โดยเป็นนวัตกรรมเซลล์บำบัดด้วยเซลล์ของผู้อื่นตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติเพื่อการใช้
งานเชิงพาณิชย์ในอินเดีย และเป็นผลิตภัณฑ์สเต็มเซลล์แรกของโลกที่ได้รับการอนุมัติเพื่อใช้รักษาอาการ CLI
Stempeutics ได้ใช้เวลาถึง 12 ปีในการพัฒนายาดังกล่าว โดยแนวทางรวบรวมทรัพยากรของบริษัทแห่งนี้ทำให้กระบวนการผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้ป่วยเข้าถึงผลิตภัณฑ์นี้ได้ในราคาไม่แพง ธนาคารเซลล์ต้นแบบ 1 ชุดสามารถผลิตยาได้มากกว่า 1 ล้านโดส ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้ยากในแวดวงเวชศาสตร์ฟื้นฟูสภาวะเสื่อม ทำให้ผู้ป่วยได้รับผลิตภัณฑ์นี้ได้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน เทคโนโลยีกรรมสิทธิดังกล่าวยังช่วยให้ Stempeucel(R) สามารถต่อยอดศักยภาพในการรักษาของตัวยาดังกล่าวให้ครอบคลุมโรคหลายกลุ่มด้วยกัน ซึ่งภายใต้ข้อตกลงที่ทั้งสองบริษัทได้ลงนามไว้นั้น Cipla ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการวางจำหน่ายและจัดจำหน่ายยาดังกล่าวในอินเดีย ด้วยการงัดใช้จุดแข็งของบริษัทในด้านการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ
CLI เป็นอาการของโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายในระยะลุกลาม ซึ่งมีสาเหตุจากการอุดตันในหลอดเลือดแดงจนทำให้เลือดไหลเวียนช้าลง จนอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและบาดแผลบริเวณขาและเท้าและมีความเสี่ยงสูงที่จะต้องตัดขาออก โดยในอินเดียคาดว่ามีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคที่ทำให้อ่อนเพลียดังกล่าวราว 5 ล้านคน ทว่าเทคนิครักษาหลอดเลือดหัวใจที่ใช้อยู่ปัจจุบันนั้นให้ผลลัพธ์การรักษาที่น่าพึงพอใจได้ในผู้ป่วยเพียง 25%
Stempeucel(R) เป็นนวัตกรรมรักษาโรคอันก้าวล้ำ ออกแบบมาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถที่มีอยู่จำกัดในร่างกาย เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในเนื้อเยื่อที่ขาดเลือด คิดค้นขึ้นจากเซลล์สโตรมาชนิดมีเซนไคม์ที่รวบรวมมาจากเซลล์ของผู้อื่น และสกัดออกมาจากไขกระดูกของผู้อาสาบริจาคที่เป็นผู้ใหญ่สุขภาพแข็งแรง ยาดังกล่าวจัดการต้นตอของโรคได้อย่างตรงจุด เพราะช่วยลดอาการอักเสบ กระตุ้นการเติบโตของหลอดเลือดข้างเคียง และซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหาย เท่ากับว่าช่วยลดการเจ็บปวด รักษาแผลเปื่อย และกอบกู้ขาที่ได้รับผลกระทบ ยาดังกล่าวเป็นยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ โดยฉีดบริเวณกล้ามเนื้อน่องและรอบ ๆ แผลเปื่อย
ปัจจุบัน Stempeutics กำลังวางกลยุทธ์สำหรับตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก รวมถึงสหรัฐ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น โดยตลาดการรักษาอาการขาดเลือดขั้นวิกฤติทั่วโลกนั้นคาดว่าจะสร้างรายได้มากถึง 5,390 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 ด้วยอัตรา CAGR ที่ 8.1% ระหว่างปี 2563 กับ 2568
มร. Manohar BN เอ็มดีและซีอีโอของ Stempeutics กล่าวเกี่ยวกับการอนุมัติจาก DCGI ว่า “การที่ Stempeucel(R) ได้รับการอนุมัติจาก DCGI นั้นเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญและครั้งประวัติศาสตร์สำหรับ Stempeutics เพราะเป็นการยอมรับ Stempeutics ในเรื่องความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์และการทดลอง ทั้งยังตอกย้ำบทบาทความเป็นผู้นำระดับโลกของเราด้านเทคโนโลยี MSC ที่รวมมาจากเซลล์ของผู้อื่น เราเชื่อว่า Stempeucel(R) จะเป็นตัวพลิกเกม โดยจะมอบเทคนิคการรักษาโรคอันก้าวล้ำให้แก่ผู้ป่วยหลายล้านคนที่เดือดร้อนจากโรคร้ายนี้”
มร. Umang Vohra กรรมการผู้จัดการและซีอีโอของ Cipla กล่าวว่า “เราทุ่มเทในเรื่องนวัตกรรม ซึ่งมีความรับผิดชอบอันแรงกล้าเป็นตัวนำทาง เพื่อรองรับความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองของผู้ป่วยและบรรเทาความทุกข์ เรามีความยินดีที่ความร่วมมือนับทศวรรษกับ Stempeutics ได้บรรลุความก้าวหน้าครั้งสำคัญ โดย CLI เป็นอาการร้ายแรงและทำให้เจ็บปวดซึ่งกระทบผู้ป่วยทั่วโลก และเรายินดีที่สามารถเปิดตัวนวัตกรรมสเต็มเซลล์บำบัดนี้ที่อินเดียในราคาไม่แพง”
ดร. Pawan Kumar Gupta รองประธานอาวุโสฝ่ายการแพทย์และการกำกับดูแลของ Stempeutics กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับการอนุมัติจาก DCGI เพื่อใช้รักษาอาการที่สำคัญมากเช่นนี้ โดยอาการ CLI เกิดขึ้นเมื่อเกิดไขมันสะสมจนทำให้หลอดเลือดขาอุดตัน ทำให้เลือดไหลเวียนได้ช้าลงมาผม้สึกเจ็บปวดเมื่อไม่ได้ใช้ขา เกิดแผลเปื่อยที่รักษาเองไม่ได้ และกลายเป็นเนื้อร้ายได้ด้วย ผู้ที่มีอาการ CLI ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกตัดขาและอาจถึงขั้นเสียชีวิต แต่วันนี้ Stempeucel(R) มอบความหวังที่จะมีเทคนิครักษาโรคแบบใหม่ที่ได้ผล และมอบคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้ผู้ป่วย CLI นอกจากนี้ Stempeutics ยังมีความมุ่งมั่นในการยกระดับโครงการโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายในกลุ่มอาการ CLI ไปยังพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของโลกด้วย”